ลพบุรี หน่วยทหาร ร่วม กรมชลประทานและชาวบ้าน ใช้เวลากว่า 19 ชม.ลุยซ่อมประตูระบายน้ำ คลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก ได้แล้ว เหลือเพียง 3 ลบ.ม./วินาที เท่ากับอัตราการไหล ก่อนที่บานประตูจะชำรุด ทำชาวบ้านท้ายน้ำต่างโล่งใจไปตามๆ กัน

วันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี บานประตูระบายน้ำ คลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก ชำรุดเสียหาย เนื่องจากระดับน้ำสูง ต้านแรงดันน้ำไม่ไหว ล่าสุด หลังหน่วยทหารพื้นที่ร่วมกับชลประทาน และชาวบ้าน ได้ใช้เวลา 19 ชั่วโมง สามารถปิดบานประตู ลดอัตราการไหลของน้ำได้แล้วในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา สร้างความโล่งใจให้แก่ชาวบ้านท้ายน้ำ จากปัญหาแรงดันของน้ำที่มีมากเกินไป จนส่งผลให้บานเหล็กของประตูระบายน้ำ ไซฟ่อนหนองเกวียนหัก กิโลเมตรที่ 77+900 ริมคลองชัยนาท-ป่าสัก เกิดการชำรุดเสียหาย น้ำจำนวนมากได้ไหลทะลักลงสู่เขตพื้นที่ ตำบลพุคา ตำบลหนองเต่า อำเภอบ้านหมี่ และ ตำบลบางลี่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่เมื่อเช้าวานนี้ สถานการณ์ล่าสุด หลังต่อสู้กันยาวนานถึง 19 ชั่วโมง ทั้งกลางวันและกลางคืน ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 10 กำลังพลจากกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และหน่วยงานในพื้นที่ ได้ดำเนินการปิดบานระบายด้วยกล่องเกเบียน บิ๊กแบ็กบรรจุทราย ได้แล้ว

ซึ่งขณะนี้สามารถลดอัตราการไหลของน้ำ เหลือเพียง 3 ลบ.ม./วินาที เท่ากับ อัตราการไหล ก่อนที่บานประตูจะชำรุด ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่ต้องหล่อเลี้ยงลำคลองในเกณฑ์ปกติ จึงถือได้ว่าสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ปริมาณน้ำส่วนนี้จะไหลลงสู่พื้นที่ลุ่มต่ำท่าวุ้ง และ แม่น้ำลพบุรี ต่อไป โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่นาข้าวในพื้นที่ดอน และบ้านเรือนราษฎรทั้ง 2 ฝั่งคลอง แต่อย่างใด

...

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ยังคงวิกฤติ 10 กว่าตำบลใน 3 อำเภอ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 15 เซนติเมตร โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองชัยนาท-ป่าสัก ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำกว่า 30 เครื่องตลอดแนว เร่งกู้วิกฤติ พร้อมทั้งเร่งซ่อมจุดน้ำรั่วตามช่องประตูระบายน้ำ

ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายตำบลของ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี สถานการณ์ยังไม่ผ่านพ้นวิกฤติ โดยเฉพาะตลอดแนวคลองชลประทานชัยนาทป่าสัก ฝั่งซ้าย ตั้งแต่ ตำบลหนองเมือง ตำบลบ้านกล้วย ตำบลหนองทรายขาว ตำบลพุคา ต่อเนื่องมาจนถึง ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ปริมาณน้ำที่เคยท่วมในอำเภอสระโบสถ์ และ อำเภอโคกสำโรงได้ไหลมารวมกัน ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านได้พากันเคลื่อนย้ายรถยนต์หนีน้ำมาจอดบนที่สูง

ล่าสุด นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 ได้ประสานกรมชลประทาน ปรับการระบายน้ำผ่านคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก จากเดิม 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ให้เหลือเพียง 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมทั้งให้ จนท.ชลประทานลพบุรี เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ จากเดิม 11 เครื่อง เพิ่มเติมอีก 35 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมสูงลงสู่คลองให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน เพราะระดับน้ำในทุ่งและบ้านเรือนประชาชนที่ท่วมมีระดับน้ำต่ำกว่าในคลอง และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ ไม่สามารถเดินเครื่องได้เพราะระดับน้ำในคลองสูงท่วมท่อของเครื่องสูบน้ำ

นอกจากนี้ ยังได้ออกสำรวจจุดระบายน้ำต่างๆ ที่ตั้งอยู่ 2 ฝั่งคลองส่งน้ำชลประทานชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งพบว่าบริเวณด้านหลังหมู่บ้านสิรัญญา 2 ต.ถนนใหญ่ อ.เมืองลพบุรี น้ำเริ่มทะลัก เพราะมีรอยแตกร้าวของท่อระบายน้ำที่มีบานประตูปิดอยู่ ซึ่งถ้าจุดนี้พัง น้ำจะทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านสิรัญญา ที่มีหลายร้อยหลังคาเรือน ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำทันที ซึ่งทางสำนักชลประทานที่ 10 ก็ได้นำเครื่องจักรมาทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ การช่วยเหลือ นายชรินทร์ ทองสุข นอภ.เมืองลพบุรี ได้นำคณะผู้บริหาร อปท.ออกตรวจ และให้การช่วยผู้ประสบอุทกภัยในครั้ง โดยทางองค์การส่วนท้องถิ่นในแต่ละเขตที่ถูกน้ำท่วม และมูลนิธิ ตลอดจนองค์กรต่างๆ ก็ได้มีการตั้งเต็นท์ บริการประชาชน ไม่ว่าจะเป็นอาหารปรุงสำเร็จ เป็นอาหารกล่อง และน้ำดื่ม มาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดือดร้อนจากการถูกน้ำท่วม