ภาคประชาสังคมเมืองเพชรรวมตัวกันร้องทุกข์กล่าวโทษกรมศิลปากรและผู้รับจ้าง บูรณะโบราณสถานถ้ำเขาหลวง มีการลอกทององค์พระฉลองพระองค์ในรัชกาลที่ 4 ผิดไปถึง 3 องค์ ระบุเคยทำผิดเยี่ยงนี้มาแล้ว คราวบูรณะหอไตร วัดพระนอน-วัดใหญ่ฯคราวนี้จึงยอมไม่ได้...

บ่ายวันที่ 14 ก.ย. กลุ่มภาคประชาสังคมในจังหวัดเพชรบุรี นำโดย นายเอกชัย อังกินันทน์ ประธานชมรมพระเครื่องจังหวัดเพชรบุรี นายธานินทร์ ชื่นใจ ตัวแทนสกุลช่างเมืองเพชร นายเกียรติศักดิ์ กล่อมสกุล ตัวแทนกลุ่มมัคคุเทศก์เพชรบุรี และนายสุรพล นาคนคร นายกสมาคมสื่อมวลชนเพชรบุรี ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อ พ.ต.ต.ศราวุธ มาลัย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อเอาผิดต่อกรณีที่มีการลอกทององค์พระพุทธรูปภายในโบราณสถานถ้ำเขาหลวง ต.ธงชัย อ.เมืองเพชรบุรี ผิดไปจากสัญญาจ้างตามโครงการบูรณะโบราณสถานถ้ำเขาหลวง ที่สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี ได้ตกลงว่าจ้างให้บริษัท นอร์ทเทิร์นซัน (1935) จำกัด จำนวน 3 องค์ ประกอบด้วย 

1 .พระพุทธรูปฉลองพระองค์ พระเจ้าวรวงษาเธอที่ 1 พระองค์เจ้าดุษดี 
2. พระพุทธรูปฉลองพระองค์ พระเจ้าวรวงษาเธอที่ 1 พระองค์เจ้าปุก 
3. พระพุทธรูปฉลองพระองค์ พระเจ้าวรวงษาเธอที่ 1 พระองค์เจ้าดวงจันทร์ ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ในรัชกาลที่ 4 ที่ตั้งอยู่เคียงข้าง พระพุทธรูปฉลองพระองค์รัชกาลที่ 4 พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวภายในถ้ำเขาหลวง

เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ความผิดตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 เป็นการกระทำความผิดตาม มาตรา 32 ,33 กรณีผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า ทำให้ไร้ประโยชน์หรือทำให้สูญหายซึ่งโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

...

ทั้งนี้ หลังจากกลุ่มภาคประชาสังคมเมืองเพชร นำหลักฐานพร้อมทั้งให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในการร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วในเย็นวันเดียวกัน พงส.สภ.เมืองเพชรบุรี ได้ประสานให้ตำรวจวิทยาการเพชรบุรี เดินทางลงไปตรวจสอบพระพุทธรูปทั้งสามองค์ภายในถ้ำเขาหลวงเพื่อนำรายละเอียดในความเสียหายที่เกิดขึ้นประกอบในสำนวนคดี

นายเอกชัย กล่าวว่า ตนเองทราบข่าวจากสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวเรื่องปัญหาในการบูรณะโบราณสถานถ้ำเขาหลวงมาโดยตลอด ตั้งแต่ปัญหาของการรื้ออิฐและกระเบื้องโบราณสมัยรัชกาลที่ 4 จนต้องมีการนำส่วนที่ไม่ชำรุดเสียหายกลับเข้าไปปูใหม่ในพื้นที่เดิมเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์และความสำคัญรวมถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของโบราณสถานถ้ำเขาหลวงต้องเสียไป ก็ยังพอทำใจได้ คราวนี้มาทราบข่าวว่ามีการไปรื้อองค์พระ โดยการลอกทองเพื่อทำการบูรณะใหม่ ซึ่งมีการใช้รักและทองที่มีคุณภาพต่ำยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกเสมือนกับการถูกเหยียบย่ำหัวใจของคนเมืองเพชรและคนไทยทั้งประเทศ และที่สุดก็คือ การไปลอกทององค์พระฉลองพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ในรัชกาลที่ 4 ผิดพลาดถึง 3 องค์ จึงยอมไม่ได้

“กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ กรมศิลปากรเป็นผู้ถือกฎหมาย บุคคลอื่นใดไปกระทำก็ต้องรับโทษ ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นคนของกรมศิลปากรเอง รู้ระเบียบและข้อกฎหมายนี้ดี กลับทำให้เกิดความเสียหาย พวกเราจึงรวมตัวกันมาร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อเอาผิดให้หลาบจำ”

ขณะที่นายเกียรติศักดิ์ กล่อมสกุล ตัวแทนกลุ่มมัคคุเทศก์เพชรบุรี กล่าวว่า สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี เคยทำผิดเยี่ยงนี้มาตั้งแต่เมื่อคราวบูรณะหอไตร วัดพระพุทธไสยาสน์ "วัดพระนอน" และการบูรณะโบราณสถานวัดใหญ่สุวรรณาราม มาแล้วเมื่อปีก่อน นั่นก็ถือว่าเป็นการทำลายคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของเมืองเพชรไปอย่างไม่น่าให้อภัย แต่พวกเราก็ให้อภัยมาตลอด แต่มากระทำย่ำยีกับโบราณสถานถ้ำเขาหลวงอีก คราวนี้คงยอมไม่ได้อีกแล้ว เพราะผิดซ้ำซาก

ด้านนายธานินทร์ ชื่นใจ กลุ่มสกุลช่างเมืองเพชรกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้น พวกเราเตือนมาก่อนหน้านี้ตลอด มีการประชุมร่วมกันมาหลายครั้ง แต่กลับไม่ได้รับความใส่ใจในการทำงาน ก็ควรแล้วที่จะต้องดำเนินการให้เป็นบรรทัดฐานว่า โบราณสถาน โบราณวัตถุเหล่านี้ ไม่ใช่สมบัติของคนกรมศิลป์เพียงผู้เดียว ทุกคนในชาติร่วมกันเป็นเจ้าของ ดังนั้น จึงต้องดำเนินการเอาผิด เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป.