สาวมือตบกดว้าว ที่เพจดังโพสต์พาพวกรุมสาว 17 โมโหที่แย่งสามี ขอชี้แจง ยอมรับตบจริง แค้นจริง เพราะคู่กรณีไปนอนในบ้านที่เป็นน้ำพักน้ำแรง แต่หลังจากตบเขาแล้ว วันต่อมาถูกเขาเอาคืนแบบ10รุม1 จนจมูกเบี้ยว หัวแตก ไปแจ้งความเป็นคดีแล้วด้วย...
วันที่ 4 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเพจ "แหม่มโพธิ์ดำ" ออกมาโพสต์ถึงกลุ่มหญิงสาวประมาณ 4 คน กับผู้ชายอีก 2 คน ดักรอรุมทำร้ายหญิงสาววัยรุ่นอายุ 17 ปี ที่ลานจอดรถห้างโลตัส สาขาชัยนาท มีการระบุข้อความ..."มึงกดว้าวใคร" แล้วก็กระชากลงจากรถมาตบ เตะที่พื้นตามคลิป ซึ่งหญิงสาวอายุ 17 ปี ที่ถูกทำร้ายได้แจ้งความกับ สภ.เมืองชัยนาทไปแล้ว แต่ถูกข่มขู่ว่าถ้าไม่ถอนคดีความจะไปทำร้ายอีก อ้างว่าเป็นลูกคนมีสี เป็นข้าราชการตำรวจ ทำให้คดีไม่คืบหน้าเสียเท่าไร ตอนที่โดนรุมทำร้าย ทองข้อมือก็หาย รถก็เฟรมแตก จมูกเบี้ยว จึงฟ้องไปทางเพจดัง และมีคนเข้ามาคอมเมนต์ด่าว่ากลุ่มที่ทำร้ายในทางที่เสียหาย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านขายเสื้อผ้าภายในตัวเมืองชัยนาท ซึ่งเป็นร้านของ นางสุรัสสา ฉัตรเพชร์ อายุ 25 ปี คนในคลิปที่เป็นคนทำร้ายเด็กสาวอายุ 17 ปี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคลิปดังกล่าว
นางสุรัสสา ฉัตรเพชร์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ตามคลิปนั้นตนเป็นคนลงมือทำร้ายน้องจริง แต่ไม่เกี่ยวกับการกดว้าวรูปสามีของตน เพราะตอนนี้ตนและสามีได้เลิกรากัน แม้จะยังไม่ได้หย่ากัน ซึ่งความจริงก็คือ น้องคนนี้กับสามีของตนคบกันอยู่ มีการโพสต์เฟซบุ๊กรูปคู่ในห้องนอนที่บ้านของตน ที่เคยอยู่ก่อนเลิกรากัน บ้านหลังนี้สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงตน จึงเกิดบันดาลโทสะ ดักรอและทำร้ายตามคลิป ซึ่งมีการถ่ายวิดีโอไว้ ตนไม่เคยหยิบหรือขโมยทอง รวมไปถึงทำร้ายจนจมูกเบี้ยวนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จากผลการตรวจของแพทย์เจ็บเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
...
ยิ่งไปกว่านั้น พอหลังจากเกิดเรื่องหนึ่งวัน มาวันรุ่งขึ้น (1 ส.ค. 2560) น้องมากับพวกอีกประมาณ 10 คน ที่หน้าร้าน รุมทำร้ายตนจนหัวกระแทกสระบัวแตก เย็บสองเข็ม จมูกเบี้ยวผิดรูป ซึ่งคนที่จมูกเบี้ยวคือตนไม่ใช่น้อง ตามที่เพจชื่อดังได้ลงข้อมูลไว้
"ถามว่าผิดไหม ยอมรับว่าผิดจริง แต่ก็ไม่ได้ไปขู่หรือใช้พ่อที่รับราชการทหารไปขู่เลย ไม่เคยโพสต์ลงโซเชียลเหมือนกลุ่มน้องเลย อยากให้สังคมได้รับรู้ หรือรับฟังความจริงจากคู่กรณีบ้าง ว่าเหตุการณ์มันเป็นมาอย่างไร ไม่ใช่ว่าเอาแต่จ้องจะด่า จนชื่อเสียงเสียหาย ประกอบกับคนในโซเชียลก็นำรูปพ่อ แม่ ของเรามาโพสต์อีก อยากให้เช็กก่อนที่จะทำให้คนหนึ่งคนต้องเสียชื่อเสียงเพราะเรื่องที่ไม่เป็นความจริง"
ต่อมา เวลา 15.00 น. นางสุรัสสา ฉัตรเพชร์ เดินทางไปยัง สภ.เมืองชัยนาท เพื่อพบกับ พ.ต.อ.ชัชพิมุข มีมุข ผกก.สภ.เมืองชัยนาท สอบถามเกี่ยวกับคดี หลังถูกกระหน่ำด่าในเฟซบุ๊ก ซึ่งตอนที่ถูกรุมทำร้ายหน้าร้านขายเสื้อผ้าของตัวเอง ก็ได้มาแจ้งความไว้แล้วเช่นกัน
พ.ต.อ.ชัชพิมุข มีมุข ผกก.สภ.เมืองชัยนาท เผยว่า ตอนนี้คดีได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ คลิปที่ถูกเผยแพร่ และอีกคดีคือ คดีที่ทางนางสุรัสสา ฉัตรเพชร์ ถูกทำร้ายที่ร้านเสื้อผ้า เป็น 2 คดีที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งเป็นคดีที่ไม่ยุ่งยาก เหลือสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกไม่กี่คน ก็จะสามารถทำการสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องศาล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดว่าอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์จะดำเนินการเสร็จสิ้นอย่างแน่นอน.