หน.ชุดพญาเสือ เปิดยุทธการ ทวงคืนผืนป่า จ.กาญจนบุรี 2 วันติด ยึดคืนทั้ง ที่ดิน บ้าน ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง อาวุธปืน พร้อมกระสุน และไม้แปรรูป ไม้ท่อน อีกเพียบ พร้อมส่งผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ของวันที่ 16 ส.ค.ต่อเนื่องมาจนถึงเวลา 19.00 น.วันที่ 17 ส.ค.60 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ นายพงศ์สรรค์ ดิษฐานุพงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พ.ต.ท.รัชพล กิตติคุณชนก สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ในฐานะ หัวหน้าชุด ตร.ปทส.ภ.จว.กาญจนบุรี นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หน.หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ที่ 13 และ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 ร.ต.ท.สุวัฒน์ ห้วยหงส์ทอง รอง สว.กก.5 บก.ปทส. ร.ต.ท.รัชดา ผู้ภักดี รอง สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 43/10 บ้านคลิตี้ล่าง หมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผำภูมิ จ.กาญจนบุรี

เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่า บ้านหลังดังกล่าวได้มีการบุกรุก เข้าไปปลูกเป็นบ้านพักตากอากาศในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพระฤาษี และป่าเขาบ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง และในเขตอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ได้ไปถึง พบนายไมละอ่อง นาสวนสถิต อยู่บ้านเลขที่ 43/10 หมู่ 4 ต.ชะแล คณะเจ้าหน้าที่จึงแจ้งถึงวัตถุประสงค์การมาตรวจค้น และขอความร่วมมือให้นำพาตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี สำหรับพื้นที่ดังกล่าว มีบ้านอยู่ 2 หลัง หลังแรกลักษณะคล้ายบ้านพักตากอากาศขนาดเล็ก ตัวบ้านสร้างแบบยกสูง เสาทำด้วยเสาไฟฟ้า ฝาทำด้วยปูน หลังคามุงด้วยเมทัลชีท ซึ่งนายไมละอ่อง นาสวนสถิต แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า บ้านพักหลังดังกล่าวนั้น เป็นของอดีตเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2557 เพื่อมาพักผ่อนช่วงวันหยุด เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจวัดบ้านพักหลังดังกล่าว เพื่อรอเวลารื้อถอน

...

นอกจากนี้ ใกล้เคียงยังมีบ้านอีก 1 หลัง เป็นบ้านยกสูงทำด้วยไม้ทั้งหลัง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า ภายในบ้านมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง 2 ซาก ซากกระโหลกเก้ง 1 ซาก และซากหนังหมาป่า 1 ซาก เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดเอาไว้

ส่วนตัวบ้านนั้นมีสภาพใหม่ และก่อสร้างในลักษณะนำตะปูมาตีแปะเอาไว้ และนอกจากนี้ยังพบไม้แปรรูปซุกซ่อนอยู่ใต้ถุนบ้านอยู่อีกเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า เป็นไม้กะยาเลย แปรรูป เช่น ไม้ประดู่ ไม้ยมหอม ไม้ตะเคียนทอง ตะเคียนทราย และมะม่วงป่า เป็นต้น ทั้งหมดมีสภาพใหม่ ยังไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน และมีรอยจากการใช้เลื่อยโซ่ยนต์ในการแปรรูปปรากฏอยู่ทั่วไป อีกทั้งไม่มีรูปรอยดวงตราใดๆ ของทางราชการตีประทับไว้

โดยนายไมละอ่อง บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม้ทั้งหมดเป็นของตนเอง ที่เข้าไปตัดมาจากป่าเมื่อประมาณ 2-3 ปี ที่แล้ว ส่วนตอของไม้ก็ได้ทำการขุดทำลายทิ้งไป เจ้าหน้าที่จึงทำการรื้อถอนบ้านไม้หลังดังกล่าวทั้งหมด นับรวมกันได้ จำนวน 150 แผ่น ปริมาตรรวมกัน 2.607 ลูกบาศก์เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำไปเก็บรักษาไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.4 (อู่ล่อง) พร้อมกับนำตัวนายไมละอ่อง นาสวนสถิต ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนพื้นที่ที่ถูกบุกรุกประมาณ 48 ไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านนเลขที่ 42/1 บ้านทุ่งเสือโทน หรือ บ้านคลิตี้บน หมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ เนื่องจากได้รับแจ้งว่าเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว มีพฤติกรรมลักลอบทำไม้ในป่า แล้วนำมาแปรรูปปลูกบ้านเพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ เมื่อไปถึงพบ น.ส.เอ (นามสมมุติ ) อายุ 16 ปี อยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงประสาน นายนิติพล ตันติวาณิช ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ให้นำพาตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากเจ้าของบ้าน คือ นายเมษา ทองผาภูมิสุจริต นั้นไม่อยู่

โดยตัวบ้านสร้างในลักษณะยกสูง มีการนำไม้กระยาเลยแปรรูปตีแปะไว้เป็นฝาบ้านทั้งสองชั้น ในลักษณะของการอำพรางไม้ และได้มีการนำไม้กระยาเลยแปรรูปมาซุกซ่อนสอดไว้ใต้คานพื้นบ้าน และมีการตีเก็บไม้กระยาเลยแปรรูป ไว้ที่ใต้ถุนบ้าน ระหว่างเสาบ้านทั้งสองฝั่งซ้อนกันเป็นชั้นๆ ในดงยางหลังบ้านพบไม้ท่อน 7 ท่อน มีความยาวประมาณ 6 เมตร รวมปริมาตร 4.68 ลูกบาศก์เมตร สำหรับไม้แปรรูปทั้งหมด นับรวมกันได้ จำนวน 333 แผ่น ปริมาตร 7.708 ลูกบาศก์เมตร เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด พบมีลักษณะเดียวกันกับบ้านของ นายไมละอ่อง นาสวนสถิต เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการรื้อถอน เพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.4 (อู่ล่อง)

...

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากตรวจยึดไม้แปรรูปแล้ว เจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นพบว่าที่บริเวณใต้ถุนบ้าน มีซากสัตว์ป่าคุ้มครองอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยซากหัวอีเก้ง จำนวน 5 ซาก ซากหัวเลียงผำ จำนวน 1 ซาก, ซากหัวค่าง จำนวน 1 ซาก ซากขนเม่น จำนวน 220 ซาก, ซากหัวกระจง จำนวน 1ซาก ทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ในถุงกระสอบ และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์(ปืนแก๊ป) จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 0.22 จำนวน 89 นัด กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 7 นัด กระสุนปืนขนาด 0.38 จำนวน 4 นัด ตะกั่วลูกโดด จำนวน 5 ลูก ดินปืน จำนวน 1 ขวด ปลอกกระสุนปืน ขนาด 0.22 จำนวน10 ปลอก เรือใบตอกกับไม้อุปกรณ์ในการดักสัตว์ป่า จำนวน 4 อัน อุปกรณ์เลื่อยโซ่ยนต์(โซ่) จำนวน 3 เส้น วิทยุสื่อสาร จำนวน 2 เครื่อง และกัญชำ(แห้ง) จำนวน 1 ถุง ทั้งพบซุกซ่อนอยู่ใต้ถุนบ้านเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง และจะแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของบ้าน คือ นายเมษา ทองผาภูมิสุจริต ต่อไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2560 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ออกแถลงการณ์ ชี้แจงว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวอดีตผู้บริหารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสร้างบ้านในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณบ้านคลิตี้ล่าง หมู่ 4 ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี นั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขอเรียนชี้แจงว่าได้มีการจำหน่ายเสาไฟฟ้าเก่าและชำรุดให้ประชาชนนำไปสร้างบ้านพัก ส่วนการบุกรุกพื้นที่ป่า เป็นการกระทำส่วนบุคคล ปัจจุบัน บุคคลดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค.