รวบแล้ว “จ่ายักษ์” แก๊ง พล.ต.อุ้มรีดเงินนักธุรกิจชาวจีน ตำรวจหลายหน่วยสนธิกำลัง ตามล็อกคาทางด่วนด่านบางพูน จ.ปทุมธานี พร้อมเมียที่ช่วยหลบหนี สารภาพทำหน้าที่เป็นคนหาผู้ร่วมขบวนการ ได้ค่าจ้าง 3 หมื่นบาท “ผู้การโจ๊ก” รุดแถลงข่าว เผยออกหมายจับผู้ต้องหาพาแก๊งอุ้มไปก่อเหตุอีก 1 คน รวมผู้ก่อเหตุ 12 คน จับแล้ว 10 คน “บิ๊กป้อม” ชี้ “พล.ต.จรูญ” และพวกเป็นมาเฟีย หากผิดต้องถูกดำเนินคดีอาญา ด้านวินัยต้องออกจากราชการ
กรณี พล.ต.จรูญ อำภา นายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมพวก ประกอบด้วย พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พงส.กก.5 บก.ปอศ. และพลเรือน รวม 10 คน ก่อเหตุอุ้มนายสุรชัย แซ่ย่าง ประธานบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่ง ย่านนวลจันทร์ เรียกค่าคุ้มครอง 20 ล้านบาท ต่อรองลดลงเหลือ 2 ล้านบาท ก่อนถูกปล่อยตัวและเข้าร้องทุกข์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. นำกำลังจับกุมได้ 8 คน หลบหนี 2 คน คือ ส.อ.อุทิศ ก่อแก้ว หรือจ่ายักษ์ ทหารนอกราชการ อดีตสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย และนายฐิติกร ชื่นอุรา ลูกน้องจ่ายักษ์ ต่อมานายฐิติกรเข้ามอบตัว มีการออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คน รวมผู้ต้องหา 11 คน ล่าสุด ตำรวจตามจับกุมจ่ายักษ์ได้แล้ว
ความคืบหน้าที่ สน.โคกคราม เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 16 ส.ค. มีรายงานว่า ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 กก.สส.ภ.1 ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม และตำรวจ บก.สปพ. จับกุม ส.อ.อุทิศ ก่อแก้ว หรือ จ่ายักษ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/18425 ซอยบก.สูงสุด แขวงและเขตจตุจักร กทม. ผู้ต้องหาตาม หมายจับศาลอาญา ที่ 1813/2560 ลงวันที่ 10 ส.ค.60 ข้อหาร่วมกันบุกรุกในเคหสถานและร่วมกันกรรโชกทรัพย์ จับกุมได้ที่บริเวณทางด่วน ด่านบางพูนขาเข้า กทม. ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 ส.ค. เวลาประมาณ 20.50 น. ส.อ.อุทิศให้การเบื้องต้นว่า เป็นสารวัตรทหารนอกราชการ อดีตสังกัดกองบัญชาการ กองทัพไทย ทำหน้าที่เป็นคนจัดหาและประสานหาคน มาร่วมแก๊งอุ้มรีดเงิน ได้ค่าจ้าง 30,000 บาท
...
สำหรับคดีนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว รวม 10 คน นายฐิติกร ชื่นอุรา ผู้ต้องหาที่มามอบตัว ก่อนหน้านี้ ให้การซัดทอดว่ายังมีผู้ร่วมกระทำความผิด ทราบชื่อเสี่ยหนุ่ม ไม่ทราบนามสกุล เป็นชายสวมหมวก สีเขียวปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ออกหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิดไปแล้ว เตรียมขอศาลอนุมัติออกหมายจับตามชื่อที่ได้มาเพิ่มเติมเป็นรายที่ 11
ต่อมาเวลา 11.30 น.ที่ สน.โคกคราม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. แถลงข่าวจับกุม ส.อ. อุทิศ ก่อแก้ว หรือจ่ายักษ์ แก๊ง พล.ต.อุ้มรีดเงินนักธุรกิจ ชาวจีน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า จากการขยายผล การสืบสวนขณะนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาที่เห็นหน้าชัดเจนทั้งหมด 10 ราย ขณะนี้ติดตามจับกุมได้ครบหมดแล้ว เหลือเพียงบุคคลที่ถูกออกหมายจับตามภาพอีก 1 ราย นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับนายนวพล ท้าวคำหลง อายุ 50 ปี เป็นคนขับรถพากลุ่มผู้ต้องหาไปก่อเหตุ รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คน ส่วนการจับกุมจ่ายักษ์ ยังได้ควบคุมตัวนางอารีรัตน์ ชมเชี่ยวชาญ อายุ 50 ปี ภรรยาจ่ายักษ์ แจ้งข้อหาให้การช่วยเหลือหลบหนี นำตัวส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองปทุมธานี
ขณะที่นายอุทิศ หรือจ่ายักษ์ ให้การเพิ่มเติมว่า เคยรับราชการทหาร แต่ถูกออกจากราชการเมื่อ 2 ปีก่อน เนื่องจากขาดราชการเป็นเวลานาน ได้รับการจ้างวานจาก พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พงส.กก.5 ปอศ. ติดต่อผ่านนายโอภาส ศรียา ให้ไปเชิญตัวนักธุรกิจชาวจีนพาไปพบ พล.ต.จรูญ อำภา ที่โรงเรียนย่านดอนเมืองเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าชาวจีนได้บัตรประชาชนปลอม และไม่ทราบรายละเอียดอื่น ได้ค่าจ้าง 3 หมื่นบาท ส่วนรายละเอียดอื่นๆไม่ทราบ
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการ กรณี พล.ต.จรูญ อำภา นายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย รวมถึงทหารยศจ่าสังกัดกรมสารวัตรทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย 4 นาย ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตั้งแก๊งเรียกค่าไถ่ว่าเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล เพราะมีพฤติกรรมไปอุ้มรีดค่าไถ่ชาวบ้าน เป็นความผิดส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับกองทัพ ที่ผ่านมาได้เน้นย้ำไม่ให้ทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวทำผิด เรื่องดังกล่าวผู้กระทำความผิดไปรู้จักกันเป็นการส่วนตัว และรวมตัวเพื่อก่อเหตุ เป็นความผิดคดีอาญาต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนความผิดวินัยต้องให้ออกจากราชการ
เมื่อถามว่า ช่วงนี้ดูเหมือนว่ามีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีอาญาหลายคดี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้เยอะอะไร มีเพียง 2-3 คดีเท่านั้น เรื่องนี้ไม่ต้องโยงถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะเป็นพฤติกรรมส่วนตัว กองทัพไม่ปกป้อง จะช่วยอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ในเรื่องคดี ไม่ว่าจะเป็นทหารชั้นนายพลหรือทหารยศใดต้องถูกดำเนินการ ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิด
มีรายงานว่า นายอุทิศหรือจ่ายักษ์ เป็นทหารยศ ส.อ. สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นลูกน้องเก่าของ พล.ต.จรูญ อำภา นายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ได้รับการติดต่อให้มาทำหน้าที่คุ้มกันและจัดหาทีมคุ้มกัน ได้ติดต่อนายฐิติกร ชื่นอุรา ให้เป็นคนจัดหาลูกน้องร่วมขบวนการแก๊งอุ้มรีดเงินอีกที ทั้งนี้ จากการสอบปากคำนายอุทิศทราบว่า ภายหลังจากเชิญตัวนักธุรกิจชาวจีน ครั้งแรกได้เงินมา 1,000,000 บาท แต่ยังไม่ได้ส่งให้ พล.ต.จรูญ ต่อมาในวันที่ 17 ส.ค. นักธุรกิจชาวจีนได้โอนเงินเข้าบัญชีมาอีก 1,000,000 บาท โดยมีนายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ ทำหน้าที่ล่ามได้หักเงินไป 400,000 บาท เหลือส่งมอบให้ พล.ต.จรูญเพียง 1,600,000 บาท จากนั้นนายอุทิศได้เงินส่วนแบ่ง 30,000 บาท ก่อนนำไปให้นายฐิติกร 15,000 บาท ทั้งนี้ ต้นสังกัดได้สั่งให้ ส.อ.อุทิศ ออกจากราชการตั้งแต่ 24 ก.ย.2556