"เก่ง เมธัส"อดีตดารานายแบบ เผย เกือบถูกคนร้ายขโมยเครื่องเสียงในร้าน ราคากว่า 1 ล้านบาท โชคดีคนงานตื่นมาเห็นทัน อยากให้คนร้ายมาขอโทษ ด้านตร.เตรียมตรวจกล้องวงจรปิด และทะเบียนรถแท็กซี่ ที่คนร้ายใช้หลบหนี มุ่งหน้าแยกติวานนท์  

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 2 ส.ค.60 ที่ร้านอาหาร "คูเปอร์ บายรูฟ " เลขที่ 26/12 ถนนนครอินทร์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี นายเมธัส สวนศรี หรือเก่ง เมธัส อายุ 34 ปี อดีตดาราและนายแบบชื่อดัง พร้อมด้วย น.ส.กรวิกา จันทนะสุต อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/875 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เจ้าของร้านอาหารดังกล่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มีคนร้ายเข้ามาในร้านพยายามจะลักเครื่องเสียงยี่ห้อ แคมโก้และเน็กโซ่ รวมมูลค่ากว่าล้านบาท แต่โชคดีที่พนักงานชายที่นอนเฝ้าร้านตื่นมาเห็นเสียก่อน คนร้ายจึงตกใจวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดติดเครื่องรออยู่หน้าร้าน เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 ก.ค.60 ได้แจ้งความกับ ร.ต.อ.ชัยยงค์ อ้วนมะโฮง รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี ภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายเข้ามาก่อเหตุเวลา 09.20 น.และออกไปเวลา 09.48 น.เป็นชายอายุประมาณ 30 กว่าปี สูงประมาณ 170-175 ซม. สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น มีลาย สวมหมวกแก็ปสีขาว-ดำ สะพายเป้ไว้ด้านหลัง สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว กำลังออกจากหน้าร้านอาหารที่เกิดเหตุ โดยมีรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเขียว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งจอดติดเครื่องรออยู่นานกว่า 40 นาที จากนั้น คนร้ายได้ขึ้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวหลบหนีไป

...

นายเมธัส สวนศรี กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 60 เวลา 10.00 น. คนร้ายเป็นชาย ได้เดินเข้ามาภายในร้าน จากนั้นได้ดึงปลั๊กไฟควบคุมกล้องวงจรปิดภายในร้านออก แล้วเข้ามาที่บูธเครื่องเสียงตัดสายไฟแอมป์เตรียมยกเครื่องเสียง 4 ชื้น ยี่ห้อแคมโก้และเน็กโซ่ มูลค่าล้านกว่าบาท ในระหว่างที่คนร้ายก่อเหตุ คนงานชายที่นอนเฝ้าร้านได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังรื้อของ จึงชะโงกหน้าออกมาดู คนร้ายตกใจรีบวิ่งหนีออกจากร้านขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่ ตนจึงได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้านหน้าร้าน ซึ่งเป็นคนละกล่องควบคุม เห็นรูปพรรณคนร้ายตามเวลาที่ใกล้เคียงกันจึงได้นำไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักฐาน

กล้องวงจรปิด จับภาพคนร้ายและรถแท็กซี่ที่ใช้ก่อเหตุแลัหลบหนี ไว้ได้
กล้องวงจรปิด จับภาพคนร้ายและรถแท็กซี่ที่ใช้ก่อเหตุแลัหลบหนี ไว้ได้

นายเมธัส กล่าวอีกว่า เราเป็นคนทำมาหากิน เปิดร้านอาหารการลงทุนก็เสี่ยงอยู่แล้ว คนขโมยน่าจะเห็นใจกันบ้าง เศรษฐกิจก็ไม่ดีถ้าเครื่องเสียงชุดนี้หายไปก็ต้องหาซื้อใหม่อีก อยากให้คนร้ายมาขอโทษ เพราะเครื่องเสียงไม่ได้หายไป แต่ถ้าลูกน้องไม่ตื่นมาดูก็คงจะหายไป คนร้ายเตรียมเป้มาใส่เครื่องเสียงและรถมาจอดรอรับ ถามว่า ตนรู้ไหมว่าใครแต่ก็คุ้นหน้าอยู่ เรื่องนี้ต้องให้ตำรวจจัดการ ส่วนตนอยากบอกให้เขาเลิกทำแบบนี้ อย่าไปทำกับคนอื่น ส่วนผู้ประกอบการร้านอื่น ก็ควรระวังคนร้ายอาจไปก่อเหตุได้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดคนร้ายหลบหนี มุ่งหน้า แยกติวานนท์ โดยหลังจากนี้ จะตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถแท็กซี่ เพื่อติดตามตัว คนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป.