"พุทธะอิสระ" ส่งตัวแทนทวงถาม พศ. การขอสมณศักดิ์ให้ "ธัมมชโย" ด้าน "พงศ์พร" ถามกลับ ถ้าขั้นตอนไม่ถูกต้องจะได้รับโปรดเกล้าฯ สมณศักดิ์หรือไม่  

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ส่งผู้แทนประกอบด้วย นายมหัศจักร โสดี และนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. เรื่อง ติดตามผลการสอบสวนและการดำเนินการเอาผิดกรณีเสนอชื่อ นายไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งมิใช่พระภิกษุขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าฯ ให้ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระเทพญาณมหามุนี เมื่อปี 2554 โดยมีนายประดับ โพธิกาญจนวัตร โฆษก พศ.เป็นผู้แทน ผอ.พศ. รับหนังสือดังกล่าว

ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าวได้ขอให้ พ.ต.ท.พงศ์พร ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าคณะตำบลคลองสี่ จังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะภาค 1 และมหาเถรสมาคม

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.พงศ์พร ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าว ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)​ ว่า เมื่อ พศ.ได้รับเรื่องมาแล้ว ก็จะดำเนินการส่งต่อเรื่องดังกล่าวให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีพิจารณาต่อไป ส่วนกรณีร้องเรียนเอาผิด มส. และพระสังฆาธิการระดับต่างๆ ในการทำเรื่องกราบบังคมทูลขอพระราชทานสมณศักดิ์แก่พระธัมมชโย นั้น ในเวลานั้นการขอพระราชทานสมณศักดิ์ มีการดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนต่างๆ ที่สำคัญการเสนอสมณศักดิ์ขึ้นไปถึงในระดับนั้นได้ ก็ต้องผ่านการกลั่นกรองจากพระสังฆาธิการทุกระดับนำเสนอ มส. และนำขึ้นกราบบังคมทูล หากดำเนินการไม่ถูกต้อง จะขอรับพระราชทานสมณศักดิ์ได้อย่างไร หลังจากนั้นมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปอะไรบ้าง ซึ่งนำมาสู่การถอดถอนสมณศักดิ์ขึ้น ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์แล้ว

...

เมื่อถามย้ำถึงขั้นตอนในการเสนอขอสมณศักดิ์ให้กับพระธัมมชโยในขณะนั้น พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า การทำเรื่องขอสมณศักดิ์ในเวลานั้น ถ้าไม่ถูกต้อง จะได้รับการโปรดเกล้าฯ ลงมาหรือไม่

เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีการร้องเรียนให้ตรวจสอบว่า พุทธะอิสระ มีการสร้างพระเครื่อง พระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพี ที่ด้านหลังมีการอัญเชิญพระปรมาภิไธย ภปร และ สก มาประดิษฐาน ว่า มีการดำเนินการถูกต้องหรือไม่นั้น พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า ขณะนี้ พศ.ได้ทำหนังสือทวงถามเรื่องเป็นครั้งที่ 2 ต่อกองปราบปรามแล้ว เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าข้อร้องเรียนดังกล่าว รวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานว่า ถึงขั้นตอนใดแล้ว เพื่อที่ทาง พศ.จะได้นำเรื่องมาพิจารณา และส่งต่อให้พระสังฆาธิการดำเนินการตามพระธรรมวินัย อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าการทำงานของ พศ.ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เมื่อมีเรื่องร้องเรียนมาก็จะดำเนินการเหมือนกันหมด.