เกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนสวนพลู ถนนเทอดไท ซอย 19 ริมทางรถไฟย่านบางยี่เรือ วอดประมาณ 20 หลัง ไฟคลอกหญิงวัย 65 ปี ตายคากองเพลิง กู้ภัยถูกไฟลวกเจ็บอีก 1 รอสอบสาเหตุ...
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 10 เม.ย. ร.ต.อ.เจตน์ นิลพฤกษ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางยี่เรือ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนสวนพลู ติดริมทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ถนนเทอดไท ซอย 19 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. จึงประสานรถดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตธนบุรี รถดับเพลิงของหน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง และรถดับเพลิงอาสาสมัครหน่วยบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย จำนวน 20 คัน รุดไปตรวจสอบและระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นชุนชนแออัด สภาพบ้านเรือนเป็นบ้านไม้สูง 1 ถึง 2 ชั้น ปลูกติดกัน จำนวนกว่า 50 หลัง ความยาวของชุมชนจากถนนเลียบทางรถไฟไปถึงหน้าวัดโพธินิมิตรสถิตมหาสีมาราม มีเนื้อที่รวมกันประมาณ 1,000 ตารางวา เบื้องต้นพบกลุ่มควันและแสงเพลิงพวยพุ่งจากเพิงขายอาหารตามสั่ง ข้างบ้านเลขที่ 7 ภายในซอยดังกล่าว แต่เนื่องจากสภาพเนื้อที่ในซอยคับแคบ ทำให้รถดับเพลิงขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติงานได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้รถ UTV ขนาดเล็กของ กทม. และเครื่องสูบน้ำหาบหาม ทำการลำเลียงน้ำจากในคลองละแวกดังกล่าว เข้าทำการวางหัวฉีดสกัดกั้นด้วยความยากลำบาก นานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที เพลิงจึงสงบ
...
สำรวจเบื้องต้นพบบ้านเรือนเสียหายทั้งสิ้น 20 หลัง รวมเนื้อที่วอดวายไปกว่า 400 ตารางวา มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงจำนวน 1 ราย ทราบชื่อคือ นางจุมาพร ทิพทวีสุข อายุ 65 ปี ถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโกอยู่ในจุดเกิดเหตุช่วงกลางชุมชน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสุพจน์ ชมสินทรัพย์ อายุ 31 ปี เป็นอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยถูกไฟคลอกที่ข้อเท้าขวาขณะปฏิบัติหน้าที่ ถูกนำตัวส่ง รพ.พญาไท 3 ขณะนี้แพทย์ให้การรักษาจนอาการปลอดภัยดีแล้ว
ด้าน ร.ต.อ.เจตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แน่ชัดได้ ต้องรอประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งในเบื้องต้นชาวบ้านในชุมชนให้การตรงกันว่า ต้นเพลิงนั้นมาจากเพิงขายอาหารตามสั่งของ นางต๋อย ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุประมาณ 60-65 ปี หลังเกิดเหตุยังไม่สามารถติดตามตัวได้ แต่จะต้องเรียกตัวมาสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นคาดว่าน่าจะพักอยู่เพียงลำพังในบ้านหลังใดหลังหนึ่ง ซึ่งกำลังติดตามญาติมาสอบสวนและมอบศพให้นิติเวช รพ.ศิริราช ทำการผ่าชันสูตรเพื่อให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป.