ภาคใต้ 3-4 เม.ย. เฝ้าระวังหลายพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ขณะไทยตอนบนพายุฤดูร้อนแนวโน้มลดลง กลางวันร้อน อุณหภูมิจะสูงขึ้น

วันที่ 3 เม.ย. เช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์ใหม่ มาตรวจสอบสภาพอากาศกับระบบพยากรณ์อากาศของไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายพื้นที่คงได้ชุ่มช่ำกับสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากพายุฤดูร้อน แต่ว่าหลังจากนี้พบว่าพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นบริเวณประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มจะลดลง แต่จุดที่ยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ พื้นที่ภาคใต้ เพราะจะยังคงมีฝนตกหนักได้ในหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง 

ซึ่งจากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 3-4 เมษายน 2560 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
และในวันที่ 5 เมษายน 2560 จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง และพังงา

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยก็จะมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ที่เป็นแบบนี้ก็เนื่องมาจากลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำ หรือหย่อมฝนหย่อมใหญ่ปกคลุมด้านตะวันออกของประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีลักษณะเป็นลมหมุนวน จึงทำให้สามารถดึงเอากลุ่มความชื้นและกลุ่มฝนโดยรอบเข้ามาตกบริเวณดังกล่าว

โดยจากการคาดการณ์ลักษณะการตกของฝนจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวีพบว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้กลุ่มฝนฟ้าคะนองส่วนใหญ่ยังคงปกคลุมในบริเวณภาคใต้ตอนล่าง รอยต่อระหว่างประเทศมาเลเซียตั้งแต่จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส หลังจากนั้นในช่วงสายกลุ่มฝนจะค่อยๆ แผ่ขยายกินพื้นที่ขึ้นมาบริเวณตอนกลางของภาคมากขึ้น ทั้งในฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ก่อนที่ช่วงเย็นกลุ่มฝนจะกลับไปเน้นตกบริเวณทางตอนล่างของภาค

...

ปริมาณน้ำฝนสะสมตลอด 48 ชั่วโมง หลังจากนี้จะพบว่า บริเวณภาคใต้ตอนล่างเป็นจุดที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมมากจนอาจก่อให้เกิดภัยธรรมชาติอื่นๆ ตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้ ด้งนั้นผู้ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวต้องเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมนี้ไว้ด้วย คอยติดตามประกาศเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

ในขณะที่บริเวณตอนบนของประเทศ วันนี้ช่วงสายจะยังคงมีโอกาสพบกลุ่มฝนในพื้นที่ภาคตะวันออกเล็กน้อย หลังจากนั้นช่วงบ่ายมีโอกาสตกเพิ่มบริเวณภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ส่วนช่วงเย็นมีตกบริเวณภาคอีสานตอนล่าง และฝั่งตะวันตกของประเทศ แต่ภาพรวมแล้วบริเวณประเทศไทยตอนบนปริมาณและการกระจายตัวของกลุ่มฝนจะลดน้อยลง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ในวันนี้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ก็จะทำให้พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นลดลง จึงทำให้หลังจากนี้กลุ่มก้อนเมฆที่ปกคลุมเมืองไทยของเราบริเวณทางตอนบนของประเทศจะค่อยๆ บางตาลง แดดในช่วงกลางวันจะกลับมาแรงอีกครั้ง

โดยภาพรวมสภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้เป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดกำแพงเพชรและตาก อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส.