มีคนช่วยแล้ว หนุ่มพนักงานเก็บขยะของ กทม. ที่ต้องคำพิพากษาศาล ถูกกักขังแทนค่าปรับ 1.3 แสนบาท ในคดีที่นำวีซีดีเก่า 83 แผ่นไปวางขาย คนช่วยเป็นผู้ที่ไม่ประสงค์ออกนาม ให้ทนายมาที่ศาลตอนตี 1 จนท.ออกหมายปล่อยตัวแล้ว
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ภายหลังศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืนให้ นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา อายุ 28 ปี ลูกจ้างชั่วคราวเก็บขยะ ประจำเขตสะพานสูง กองรักษาความสะอาด กรุงเทพมหานคร จำเลยในความผิดฐานประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำนำภาพยนตร์ ซึ่งเป็นแผ่นวีซีดีภาพยนตร์ ตามความผิด พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ถูกจับขณะนำแผ่นวีซีดีภาพยนตร์เก่า 83 แผ่น ไปจำหน่ายในราคาแผ่นละ 20 บาท โดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยให้ชำระค่าปรับจำนวน 133,400 บาท ตามคำพิพากษา หากไม่ชำระต้องถูกขังแทนค่าปรับ ในอัตราวันละ 200 บาทนั้น
ล่าสุด มีรายงานว่า ได้มี นายวรนัยน์ บำเหน็จพันธ์ ทนายความ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในช่วงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งสร้างความแปลกใจให้เจ้าหน้าที่ศาลที่เข้าเวรอยู่ ว่าทำไมจึงมาที่ศาลตอนตีหนึ่ง โดยนายวรนัยน์ แจ้งว่า ต้องการมาจ่ายค่าปรับจำนวน 133,400 บาท ให้แก่นายสุรัตน์ เนื่องจากมีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ติดต่อให้ตนนำเงินมาจ่ายเป็นค่าปรับดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รออยู่จนกระทั่งเวลา 09.00 น. ทางสำนักอำนวยการศาลอาญาจึงให้นายวรนัยน์เข้ามาวางเงิน จำนวน 133,400 บาท ก่อนที่จะออกหมายปล่อยตัวนายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา ให้กับนายวรนัยน์ นำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่สถานกักขังกลาง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อให้ปล่อยตัวนายสุรัตน์ต่อไป
เวลาไล่เลี่ยกันได้มี นายสุรสิทธิ์ มณีนพรัตน์สุดา พ่อนายสุรัตน์ และ น.ส.กาญจนา ฉาบสุวรรณ ผอ.เขตสะพานสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา เดินทางมาที่ศาล เพื่อขอจ่ายค่าปรับ โดย น.ส.กาญจนา กล่าวว่า ตนมาในนาม ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งต้องการที่จะช่วยเหลือจ่ายค่าปรับให้นายสุรัตน์ ที่เป็นลูกจ้างของ กทม. แต่ทราบว่ามีผู้ไม่ประสงค์จะออกนามให้ความช่วยเหลือไปแล้ว จึงต้องให้สิทธิ์กับผู้ที่มาก่อน เพราะทางศาลบอกว่าใครวางเงินก่อน ก็ให้สิทธิ์คนนั้นก่อน ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ที่ได้ให้ความช่วยเหลือนายสุรัตน์ด้วย
...
ผอ.เขตสะพานสูงกล่าวด้วยว่า นายสุรัตน์เป็นคนขยันขันแข็ง เป็นที่รักของผู้ร่วมงาน พอตกเป็นจำเลยในคดีนี้ก็มีผู้ให้ความเห็นใจ และแสดงความประสงค์จะช่วยเหลือหลายราย ตอนนี้ทราบว่า ลูกสาวนายสุรัตน์ คือ ด.ญ.จันทิมา หรือน้องเนยอายุ 11 ขวบ เรียนอยู่โรงเรียนคลองปักหลัก มีอาการป่วยเป็นก้อนเลือดที่แก้ม แพทย์ไม่สามารถผ่าตัดได้ ต้องฉีดยา ส่วนนายสุรสิทธิ์ บิดานายสุรัตน์ ก็มีความเป็นอยู่ลำบาก เพราะเป็นคนเก็บขยะเช่นเดียวกัน
ด้าน นายสุรสิทธิ์ มณีนพรัตน์สุดา บิดานายสุรัตน์ กล่าวว่า ตอนนี้ อยากให้ปล่อยตัวนายสุรัตน์ออกมาโดยเร็วที่สุด เพราะเขาเป็นหลักของครอบครัว ส่วนตนก็เก็บขยะอยู่เขตสะพานสูง ทราบว่ามีหลายท่านที่ต้องการช่วยเหลือ จึงกราบขอบคุณเป็นอย่างสูง และเรายอมรับในคำพิพากษาศาลฎีกา เพราะต้องตัดสินไปตามกฎหมาย