รฟม. ปรับแผนใช้ทรายล้วนถมหลุมยุบ 8,000 คิว ก่อนปรับผิวจราจร พร้อมเปิดใช้วันที่ 9 ต.ค. นี้ มั่นใจประสิทธิภาพไม่ต่างกัน แต่เจาะง่ายกว่า ขณะที่ รพ.วชิรพยาบาล แนะผู้ป่วยวางแผนเดินทางล่วงหน้า

เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 30 ก.ย.68 ที่ รพ.วชิรพยาบาล นายกิตติ เอกวัลลภ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุการณ์หลุมยุบว่า เมื่อวาน (29 ก.ย.) ได้มีการใช้เครนขนาด 200 ตันเก็บเศษวัสดุต่างๆ ทั้งเสาไฟฟ้าสายไฟ วัสดุต่างๆ รวมทั้งตัดท่อประปาให้มีขนาดเล็กลง เพื่อเคลื่อนย้ายออกจากหลุมเรียบร้อยแล้ว ส่วนเมื่อเช้าที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับแผนจากเดิมที่จะต้องมีการถมทรายลงไปในหลุมเป็นชั้น ชั้นละไม่เกิน 1 เมตร แต่ปรากฏว่ามีการตรวจพบโพรงดินอยู่ใกล้กับท่อประปาที่ขุดขึ้นมา ขนาดลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ส่วนอีกจุดอยู่บริเวณขอบกำแพงที่เทคอนกรีตลงไปแล้วคาดว่าเกิดการหดตัวจนเกิดรอยแยก ทำให้การถมทรายต้องหยุดชะงักไป 7-8 ชั่วโมง เนื่องจากต้องเทคอนกรีตไปอุดโพรงและรอให้แข็งตัวก่อน หากช่วงเย็นนี้ฝนไม่ตกน่าจะสามารถถมทรายได้ตามขั้นตอน 

...


ส่วนเหตุผลในการปรับแผนจากการเททรายผสมคอนกรีตเป็นทรายล้วน เนื่องจากเป็นเหตุผลทางเทคนิค เพราะทรายล้วนจะมีความแน่นกว่าทรายผสมคอนกรีต และเจาะง่ายกว่า ดังนั้น หากในอนาคตมีการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคจะไม่เกิดปัญหา 

เบื้องต้น มีการประเมินว่าจะต้องใช้ทรายทั้งหมด 7,000-8,000 คิว หรือมากกว่า 1,000 เที่ยวรถ โดยได้เตรียมทรายไว้วันละ 2,000 คิว คาดว่าจะใช้เวลา 5-6 วัน จะได้ระดับตามที่ต้องการ จากนั้นจะมีการทำพื้นผิวจราจร โดยจะสามารถใช้ถนนสัญจรได้ 2 ช่องทางในวันที่ 9 ต.ค.68 

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการที่มีรถบรรทุกทรายจำนวนมากจะทำให้มีปัญหาจราจร โดยได้หารือกับ สน.สามเสน และรพ.วชิรพยาบาล เพื่อไม่ให้กระทบกับการสัญจรของประชาชนและผู้ป่วยที่จะมาใช้บริการ


สำหรับทรายที่ใช้ถมขณะนี้มีเพียงพอ โดยส่วนใหญ่มีการขนส่งทางเรือและนำมาจาก จ.นครปฐม ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดการทั้งหมดขณะนี้ยังไม่มีการประเมิน เนื่องจากจะเร่งซ่อมแซมเพื่อคืนพื้นผิวการจราจรให้ได้โดยเร็วที่สุดก่อน

ขณะที่ นพ.จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลต้องรองรับผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการมากกว่า 4,000 คนต่อวัน และคาดว่าในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 5,000 ราย ซึ่งจะเป็นวันที่โรงพยาบาลต้องบริหารจัดการอย่างเข้มข้นที่สุด จึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้วางแผนการเดินทางล่วงหน้า และหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัว หากไม่จำเป็น


สำหรับพื้นที่ให้บริการประชาชนที่เดินทางมาโรงพยาบาลนั้น ขณะนี้ได้จัดเตรียมจุดอำนวยความสะดวกไว้ 3 จุดหลัก ได้แก่ จุดแรก บริเวณถนนสี่แยกด้านหน้าทางเข้าโรงพยาบาล ซึ่งประชาชนสามารถเดินทางออกไปยังถนนใหญ่ เพื่อเรียกรถแท็กซี่หรือรถโดยสารประจำทางได้สะดวก

จุดที่สอง บริเวณซอยสามเสน3 ใกล้กับอาคารชรินทร ซึ่งเป็นจุดจอดรถที่สามารถเดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าได้

จุดที่สาม พื้นที่รอบโรงพยาบาลที่จัดไว้สำหรับให้ผู้มารับบริการรอคิวหรือพักชั่วคราวก่อนเข้าพบแพทย์ 

ทั้งนี้โรงพยาบาลมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่จอดรถ โดยสามารถรองรับได้เพียงประมาณ 500 คันต่อวัน ซึ่งต้องมีการหมุนเวียนการใช้พื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการกับผู้ป่วยและญาติอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้โรงพยาบาลได้ประสานงานร่วมกับกองอำนวยการร่วมฯ ในการจัดการจราจรโดยรอบโรงพยาบาล โดยเฉพาะในกรณีที่มีรถบรรทุกหรือรถก่อสร้างเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลให้การจราจรติดขัดหนักในบางช่วงเวลา 

...

ขอความร่วมมือให้มีการจำกัดการนำรถบรรทุกหรือรถบรรทุกทรายขนาดใหญ่มาในช่วงเวลากลางวัน หรือชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อเปิดทางให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้โดยไม่ติดขัด ในช่วงเวลาที่มีโรงเรียนหยุดการเรียนการสอน หรือช่วงกลางคืน โรงพยาบาลสามารถจัดการบริการได้ดีขึ้น เนื่องจากปริมาณคนและรถลดลง ทำให้มีความคล่องตัวในการให้บริการมากยิ่งขึ้น


นพ.จักราวุธ กล่าวต่อว่า การบริหารจัดการในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งประชาชน หน่วยงานราชการ ตำรวจจราจร และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เราขอความร่วมมือให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับบริการในวันพรุ่งนี้ วางแผนการเดินทางให้เร็วขึ้นอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และหากสามารถหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัวได้ ขอให้เลือกใช้บริการรถสาธารณะ เพื่อช่วยลดภาระด้านการจราจร และทำให้การให้บริการของโรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่น และอยากให้รถแท็กซี่วนเข้ามารับผู้โดยสารช่วงเวลา 11.00-14.00 น. ด้วย