เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หลังพบน้ำซึมถนนสามเสน ห่างจุดถนนทรุดตัว 2 กิโลเมตร ชาวบ้านหวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยหน้าวชิรพยาบาล
จากกรณี เหตุถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนเกิดเหตุถนนทรุดตัวในช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. พบมีน้ำซึมขึ้นมาบนพื้นที่ผิวการจราจรและถนนมีลักษณะผิดปกติก่อนจะเกิดการทรุดตัวเป็นหลุมขนาดยักษ์
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. วันที่ 25 ก.ย. 2568 มีรายงานว่า บริเวณหน้าถนนสามเสน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุถนนทรุดตัวประมาณ 2 กิโลเมตร มีน้ำซึมขึ้นมาบนพื้นผิวการจราจรและถนนมีลักษณะพองตัวขึ้น เจ้าหน้าที่จึงได้นำกรวยมากั้นพื้นที่เกรงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
...
สำหรับในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่แนวเส้นทางก่อสร้างของทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ ที่อยู่ห่างจากวชิรพยาบาลเพียง 2 กม. ซึ่งมีการก่อสร้างใต้ดินตลอดแนว อีกทั้งลักษณะตรงนี้ มีน้ำประปาซึมขึ้นมาประมาณ 2-3 วัน และน้ำใต้ดินดันถนนให้นูนขึ้น จนทำให้ผิวจราจรไม่เรียบ ซึ่งผิดจากเดิม ที่ไม่เคยมีลักษณะนี้เกิดขึ้น
ทางด้าน เจ้าหน้าที่การรถไฟ เผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ถึงแม้ว่าจะอยู่แนวการก่อสร้างทางรถไฟใต้ดินวชิรพยาบาลก็ตาม แต่สาเหตุเบื้องต้นไม่น่าจะเกี่ยวกัน ซึ่งต้องรอการตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าจุดที่น้ำรั่วซึมเป็นน้ำจากแหล่งใด ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทางด้าน นายพิภพ ไทยถิ่นงาม อายุ 60 และนายวิญญู ไทยถิ่นงาม อายุ 53 ปี เจ้าของร้านหมูมณีที่อยู่ใกล้กับจุดซึมของน้ำ เล่าว่า ตนเห็นน้ำซึมขึ้นมาบนผิวถนนเมื่อประมาณ 2-3 วันที่แล้ว แต่เมื่อเช้านี้ช่วงประมาณตี 5 ถึง 6 โมงเช้า เวลามีรถวิ่งผ่านน้ำจะซึมจากผิวยางมะตอยมากผิดปกติ เชื่อว่าเป็นน้ำมาจากใต้ดินเพราะวันนี้ไม่มีฝนตก
อีกทั้งไม่มีรถน้ำแข็งมาจอด จึงทำให้เกิดความกังวลว่าจะซ้ำรอย และยอมรับว่ากลัว เลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ถ้าหากเกิดเหตุรุนแรงก็ได้เตรียมพร้อมในเรื่องของน้ำและไฟไว้เบื้องต้นแล้ว แต่ถ้าถึงขั้นรุนแรงกว่านั้นก็ต้องย้ายออกเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่การประปานครหลวง ก็ได้นำผงเทสคลอรีนลักษณะซองมาตรวจสอบน้ำที่ซึมขึ้นมา มีการเก็บตัวอย่างน้ำ 2 ครั้ง เบื้องต้นไม่พบว่ามีส่วนผสมของคลอรีน สันนิษฐานว่าไม่ใช่น้ำประปา เนื่องจากแนวท่อน้ำประปาจะวางใต้แนวฟุตบาท มีทั้งท่อจ่าย และท่อประธาน การที่น้ำจะดันขึ้นต้องดันขึ้นฟุตบาทเนื่องจากมีช่องว่างมากกว่าพื้นผิวจราจร ซึ่งคาดว่าอาจเป็นบ่อพักน้ำของหน่วยงานรัฐ ทำให้ช่วงที่มีการระบายน้ำ เกิดความดันมาก หรือไม่ก็บ่อพักน้ำมีการชำรุด.