ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของช่างทอผ้าและช่างหัตถศิลป์ไทยในการนำลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” ใน “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” มาผสมผสานกับอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างงดงาม “กระทรวงมหาดไทย” โดยกรมการพัฒนาชุมชน จัดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” และงานหัตถกรรม ประจำปี 2568 รอบตัดสินระดับภาค (Quarter Final) และรอบรองชนะเลิศ ระดับประเทศ (Semi Final) เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากการประกวดในระดับภูมิภาคที่ผ่านมา นับเป็นโค้งสุดท้ายในการเฟ้นหาสุดยอดผลงานผ้าทอและหัตถกรรมฝีมือดีจากช่างทอผ้าและผู้ประกอบการ OTOP ทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 68 เวลา 10.30 น. ณ ห้องฟีนิกซ์ 1- 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี “อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์” ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ “สยาม ศิริมงคล” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานพิธีเปิดการตัดสินการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” และงานหัตถกรรม ประจำปี 2568 รอบรองชนะเลิศ ระดับประเทศ (Semi Final) โดยมี “จิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์” นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและนักออกแบบแถวหน้าของเมืองไทยเข้าร่วมพิจารณาคัดเลือกผลงานอย่างคับคั่ง 

...


ได้แก่ “ธีระพันธ์ วรรณรัตน์” ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (การออกแบบแฟชั่น), “อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย” ครูศิลป์ของแผ่นดินและผู้ก่อตั้งกลุ่มจันทร์โสมา, “ธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์” และ “ดร.ศรินดา จามรมาน” ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก, “ศิริชัย ทหรานนท์” เจ้าของแบรนด์ THEATRE, “อนุชา ทีรคานนท์” ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย, “ผศ.ดร.รวิเทพ มุสิกะปาน” ประธานหลักสูตรแฟชั่น สิ่งทอ และเครื่องตกแต่ง วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, “ภูภวิศ กฤตพลนารา” เจ้าของแบรนด์ ISSUE, “นุวัฒน์ พรมจันทึก” ผู้เชี่ยวชาญการย้อมสีธรรมชาติ, “ธนาวุฒิ ธนสารวิมล” เจ้าของแบรนด์ TANDT, “มิลิน ยุวจรัสกุล” เจ้าของแบรนด์ Milin, “ณิญาพัณณ์ ภัทระเสฐกูล” และ “ปัณณศา ดุษฎีสุรพจน์” จากแบรนด์ IRADA 

สยาม ศิริมงคล กล่าวว่า การส่งเสริมการขับเคลื่อนโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามแนวพระดำริ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ซึ่ง “กระทรวงมหาดไทย” โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้น้อมนำมาดำเนินการ มีวัตถุประสงค์สำคัญ 2 ประการ คือ การสืบสาน รักษา และต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้อยู่คู่กับประเทศไทย ยังคงเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและประเทศไทย ผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประกวดผ้าลายพระราชทาน ที่เป็นการนำเทคนิคพื้นเมืองต่างๆมาใช้ถักทอผ้า การใช้วัตถุดิบเส้นใยและสีจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในท้องถิ่นทั้งสิ้น และในปีนี้พระองค์ได้พระราชทานแนวทางการส่งเสริมการแต่งกายชุดไทยพระราชนิยม ไม่ว่ารัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม หรือหน่วยงานต่างๆ ก็ร่วมกันน้อมนำแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้ และพระกรณียกิจเหล่านี้ยังเป็นที่ประจักษ์ไปยังสายตานานาอารยประเทศในสากล ส่งผลให้องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศเชิดชูพระเกียรติคุณและทูลเกล้าฯถวายเหรียญสดุดีพระกรณียกิจด้านการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม การส่งเสริมงานวิจิตรศิลป์ รวมทั้งการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ตลอดจน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2568


อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า วัตถุประสงค์ที่สำคัญประการที่สอง อันสอดคล้องกับพันธกิจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผลจากการขับเคลื่อนโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 คือสามารถสร้างความกินดีอยู่ดีให้กับพี่น้องประชาชน สร้างอาชีพและรายได้ให้กับชาวบ้านที่เป็นผู้ประกอบการช่างทอผ้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงจรผ้ามากกว่า 80,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพระปณิธานที่พระองค์ท่านได้พระราชทานให้แก่ข้าราชการทุกคน กระทรวงมหาดไทย โดยผู้บริหารตั้งแต่ท่านรัฐมนตรี ท่านปลัดกระทรวง และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย น้อมรับมาใส่เกล้าฯ และขับเคลื่อนเพื่อทำให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น เป้าหมายปลายทางสำคัญที่สุดที่พระองค์ท่านพระราชทานให้คนมหาดไทยได้ทำการขับเคลื่อนก็เพื่อประโยชน์และความสุขของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ “กระทรวงมหาดไทย” โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” จำนวน 14 ประเภท และงานหัตถกรรม มีผลงานส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 8,903 ชิ้น แบ่งเป็นประเภทผ้า จำนวน 8,336 ผืน และงานหัตถกรรม จำนวน 567 ชิ้น ซึ่งมีผ้าผ่านเข้ารอบ 150 ชิ้น และงานหัตถกรรม 9 ชิ้น รวม 159 ชิ้น ล่าสุด เป็นการประกวดรอบรองชนะเลิศ ระดับประเทศ (Semi Final) ซึ่งได้ทำการคัดเลือกผลงานจาก 159 ชิ้นงาน ให้คงเหลือไม่น้อยกว่า 50 ชิ้นงาน เพื่อเข้าสู่รอบตัดสินระดับประเทศ (Final) ในวันที่ 31 ต.ค.2568

...

ร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้กับผู้เข้าประกวดทุกคนในรอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ ในวันที่ 31 ต.ค. 2568 ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจาก “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” เสด็จเป็นองค์ประธานในการตัดสินฯ และจะมีพิธีมอบเหรียญรางวัลพระราชทานสำหรับผู้ที่ชนะการประกวดในงาน “Silk Festival” ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2568


...