Brineworks สตาร์ทอัพด้าน Climate Tech โชว์ศักยภาพเทคโนโลยีอิเล็กโทรไลเซอร์ ใช้พลังงานหมุนเวียนต้นทุนต่ำ เดินหน้าพัฒนาพลังงานสะอาดแห่งอนาคต เจาะกลุ่มอากาศยานและการขนส่งทางเรือเป็นอันดับแรก
Brineworks สตาร์ทอัพด้าน Climate Tech จากเนเธอร์แลนด์ ประกาศความสำเร็จในการระดมทุนรอบล่าสุดมูลค่ากว่า 6.8 ล้านยูโร หรือประมาณ 250 ล้านบาท เพื่อเร่งพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนจากอากาศ (Direct Air Capture – DAC) ที่มีต้นทุนต่ำที่สุดในโลก โดยได้รับเงินลงทุนจาก SeaX Ventures ในฐานะ Lead Investor ร่วมกับนักลงทุนสถาบัน อาทิ Pale Blue Dot, First Momentum, AiiM Partners, Energie360° และ Katapult พร้อมคว้าทุนสนับสนุนจากโครงการ EIC Accelerator ของสหภาพยุโรป มูลค่า 1.8 ล้านยูโร หรือประมาณ 68 ล้านบาท สำหรับการวิจัย พัฒนาและติดตั้งระบบต้นแบบ
หัวใจสำคัญของนวัตกรรมของ Brineworks คือ อิเล็กโทรไลเซอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีผลิตก๊าซจากการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า ด้วยสิทธิบัตรเฉพาะที่สามารถดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) จากอากาศได้ในต้นทุนต่ำ พร้อมกับผลิตก๊าซไฮโดรเจน (H₂) ในเวลาเดียวกัน ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการสังเคราะห์เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel หรือ SAF) และ e-methanol ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเดินเรือ โดยอัตราการปล่อยคาร์บอนของทั้งสองอุตสาหกรรมนี้รวมกันแล้วมากกว่า 5% ของโลก และยังไม่มีทางเลือกในการลดคาร์บอนที่ชัดเจนหากไม่มีเทคโนโลยีเช่นนี้
...
กุดฟินนูร์ สเวนส์สัน CEO, Brineworks กล่าวว่า พลังงานหมุนเวียนกำลังถูกลงเร็วกว่าที่ทุกคนคาด แต่ปัญหาคือเรายังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถใช้พลังงานเหล่านี้ได้อย่างยืดหยุ่นและคุ้มค่าเพียงพอ Brineworks ได้ออกแบบอิเล็กโทรไลเซอร์ที่สามารถทำงานยืดหยุ่นตามแสงแดดและแรงลมได้จริง เรากำลังเปิดประตูสู่ความฝันที่ทั่วโลกรอคอยมานาน
จุดเด่นที่สำคัญของ Brineworks คือการออกแบบระบบให้รองรับการทำงานแบบไม่ต่อเนื่อง (intermittent operation) โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นการแก้โจทย์ใหญ่คือ ทำอย่างไรให้การดักจับคาร์บอน (DAC) สามารถทำงานร่วมกับโครงข่ายไฟฟ้าที่ใช้พลังงานหมุนเวียนได้จริงด้วยวัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำ
ดร. โจเซฟ เพอร์รีแมน ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO, Brineworks ผู้เชี่ยวชาญด้วยงานวิจัยหลังปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวเสริมว่า เรามีแผนที่ชัดเจนแล้วในการทำให้ต้นทุนการดักจับคาร์บอนต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งตัน ซึ่งเป็นระดับต้นทุนที่โลกกำลังรอคอย และนี่คือจุดเริ่มต้นของการยกระดับเทคโนโลยีสู่เชิงพาณิชย์
ด้าน นพ. ศุภชัย ปาจริยานนท์ ผู้ก่อตั้งและ Managing Partner, SeaX Ventures - Venture Capital สัญชาติไทยที่เน้นลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงทั่วโลก กล่าวว่า Brineworks คือ Climate Tech บริษัทแรกที่ SeaX Ventures เป็น Lead Investor เรามองหาผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพที่มีวิสัยทัศน์และแก้ปัญหาใหญ่ระดับโลกด้วยวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ และต้นทุนที่เข้าถึงได้ Brineworks กำลังพลิกวงการการจัดการคาร์บอนและเชื้อเพลิงสะอาดด้วยการคิดค้นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก การลงทุนครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ และเรามั่นใจว่าพวกเขาจะมีบทบาทในการลดการปล่อยคาร์บอนโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งตรงกับพันธกิจของ SeaX ที่จะช่วยโลกลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ 1% เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จครั้งนี้
หากเราสามารถนำเทคโนโลยี DAC ของ Brineworks มาเชื่อมเข้ากับอุตสาหกรรมการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (e-Fuels) ได้ จะเปิดโอกาสให้ทุกประเทศทั่วโลกสามารถผลิตเชื้อเพลิงด้วยตนเองได้ หากสามารถขยายกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนให้มีสเกลใหญ่ได้ ในขณะเดียวกันลดการปล่อยคาร์บอน และสร้างโมเดลพลังงานแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) สำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy transition) เข้าสู่ยุคแห่งพลังงานสะอาด