แกนนำกลุ่ม คปท. เดินหน้าต่อ แถลงหลังจบโหวตนายกฯ คนที่ 32 เตรียมบุกทำเนียบวันประชุม ครม.นัดแรก เดินหน้ายื่นอีก 5 ข้อเรียกร้องกับรัฐบาล "อนุทิน" ลั่นต้องทำ MOA กับประชาชน พร้อมนัดชุมนุมรอบถัดไป 9 ก.ย. รอฟังคำวินิจฉัยคดีทักษิณ ชั้น 14
วันที่ 5 กันยายน 2568 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. ได้แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน และผู้ร่วมชุมนุม ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ของประเทศไทย
นายพิชิต กล่าวว่า ตั้งแต่เช้าที่เดินทางมายังอาคารรัฐสภา และก่อนหน้านี้ในนามของรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่ได้ไปร่วมกันประกาศจุดยืนที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถึง 3 ครั้ง เราพูดเป็นเสียงเดียวกันมาโดยตลอดว่าวินาทีนี้ ประเทศไทยไม่ต้องการพรรคเพื่อไทยในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
พร้อมทั้งประกาศภารกิจ 6 ข้อที่เราต้องเดินต่อ คือ 1. ไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่เอานายชัยเกษม นิติศิริ เป็นนายกรัฐมนตรี 2. ให้ยกเลิก MOU ปี 43 และปี 44 โดยทันที 3. ถ้าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยยกเว้นการแก้ไขในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 (ที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์) 4. ยกเลิกการยกเลิกร่างแก้ไข พ.ร.บ. ทรัพย์อิงสิทธิ์ ที่ขยายสิทธิ์การเช่า อสังหาริมทรัพย์จาก 30 ปีเป็น 99 ปี 5. ยกเลิกพระราชบัญญัติ Entertainment Complex ที่มีคาสิโน และการออนไลน์ และ 6. ยกเลิกร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน
นายพิชิต กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาเชียร์ใครคนใดคนหนึ่ง การโหวตของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายอนุทิน ชาญวีรกุล ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ภารกิจข้อแรกถือว่าสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่ยังไม่ถือว่าได้ชัยชนะ เพราะภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น ยังเหลืออีก 5 ข้อ ที่รัฐบาลต่อไปจะต้องแสดงความรับผิดชอบให้เห็น ซึ่งรัฐบาลของนายอนุทินจะต้องทำ ในเมื่อทำ MOA กับพรรคประชาชนได้ ดังนั้นรัฐบาลก็จะต้องทำ MOA กับพี่น้องประชาชนด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้จะกลับไปพูดคุยกับคณะใหญ่ แล้วจะทำการบันทึกร่าง MOA เพื่อยื่นให้กับรัฐบาลต่อไป และวันแรกที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของนายอนุทิน นัดหมายพี่น้องประชาชน ไปพร้อมเพรียงกันที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามสัญญาอีก 5 ข้อที่เหลือ
...
นอกจากนี้ นายพิชิต ยังได้นัดหมายมวลชนในวันที่ 9 กันยายน ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะได้อ่านคำวินิจฉัยพิพากษาคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวเดินทางไปที่ดูไบ ไม่ทราบว่าจะกลับมาฟังคำพิพากษาตามนัดหมายหรือไม่ แต่ขอนัดหมายพี่น้องประชาชนไปรวมตัวกันที่สะพานชมัยมารุเชษฐ์ เพื่อลุ้นคำพิพากษาพร้อม ๆ กัน