เปิดประวัติ "วัดเครือวัลย์วรวิหาร" หนึ่งในวัดดังเก่าแก่ เขตบางกอกใหญ่ หนึ่งในพระอารามหลวงที่สำคัญของกรุงเทพฯ

จากกรณีกระแสข่าว เจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ได้ส่งตัวแทนแจ้งความตำรวจกองปราบ กรณีถูกปลอมลายเซ็น เบิกถอนเงินออกจากบัญชีวัดไปกว่า 65 ล้านบาท จนปัจจุบันยอดเงินในแต่ละบัญชีเหลือไม่เกิน 500 บาท เป็นผลทำให้ประชาชนหลายคนต่างให้ความสนใจกับ "วัดเครือวัลย์ วรวิหาร" เป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ในย่านบางกอกใหญ่ และในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ฌาปนสถานกองทัพเรืออีกด้วย


เปิดประวัติ "วัดเครือวัลย์ วรวิหาร" วัดเก่าแก่ เขตบางกอกใหญ่ 

...

สำหรับวัดเครือวัลย์วรวิหาร หรือที่หลายคนเรียกกันสั้นๆว่า "วัดเครือวัลย์" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ในแขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แน่ชัดเกี่ยวกับพุทธศักราชในการก่อสร้าง แต่ปรากฏข้อมูลในหนังสือตำนานพระอารามหลวงและทำเนียบสมณศักดิ์ ของเจ้าพระยาวิชิตวงษ์วุฒิไกรว่า ก่อสร้างขึ้นในรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทั้งนี้ จากพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 3 ของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ยังปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างวัดแห่งนี้ว่า ในช่วงเริ่มแรกนั้น วัดเครือวัลย์ ก่อสร้างโดยเจ้าพระยาอภัยภูธร (น้อย บุณยรัตพันธุ์) หากแต่ยังไม่ทันสร้างแล้วเสร็จ เจ้าพระยาอภัยภูธรก็ถึงแก่อสัญกรรม เจ้าจอมเครือวัลย์ ผู้เป็นบุตรีจึงดำเนินการก่อสร้างวัดต่อ แล้วถวายเป็นพระอารามหลวง จนได้รับพระราชทานนามว่า "วัดเครือวัลย์วรวิหาร" มาจนปัจจุบัน จึงคาดการณ์กันว่า คำว่า "เครือวัลย์" ในชื่อวัด น่าจะมีที่มามาจากชื่อของเจ้าจอมเครือวัลย์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างวัดต่อจนแล้วเสร็จ


"วัดเครือวัลย์วรวิหาร" หนึ่งในพระอารามหลวงที่สำคัญของกรุงเทพฯ 

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน วัดเครือวัลย์ วรวิหาร นับว่าเป็นหนึ่งในพระอารามหลวงที่มีความสำคัญในกรุงเทพฯ โดยปรากฏว่าในอดีต ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ปฏิสังขรณ์เป็นครั้งคราวและได้เสด็จพระราชดำเนินทรงทอดผ้าพระกฐิน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2393

ต่อมาเจ้าพระยาภูธราภัย (นุช บุณยรัตพันธุ์) ได้ปฏิสังขรณ์วัด และสร้างเจดีย์ 2 องค์ สำหรับบรรจุอัฐิคนในตระกูลบุณยรัตพันธุ์ หรือผู้เกี่ยวเนื่องทางตระกูล และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิสังขรณ์และทรงสร้างพระเจดีย์องค์เดี่ยว

และมีหลักฐานที่ปรากฏว่า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร นำผ้าพระกฐินหลวงมาทอด ณ วัดเครือวัลย์วรวิหาร เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442


ศาสนสถานที่สำคัญในวัด

...

1. พระอุโบสถทรงไทย โดยมีขนาด กว้าง 7.70 เมตร ยาว 16.25 เมตร หลังคาลด 2 ชั้น ประดับช่อฟ้าใบระกา หน้าบันตกแต่งด้วยปูนปั้นเป็นลายดอกไม้ ระเบียงและมุขปูด้วยหินอ่อน ซุ้มประตู หน้าต่างทำด้วยปูนปั้นเป็นลายดอกไม้ลงรักปิดทอง บานประตูด้านนอกสลักรูปต้นไม้ ดอกไม้ และรูปนก ลงรักปิดทอง ด้านในเป็นรูปฉัตร 7 ชั้น สอดสีมีทหารแบก ส่วนบานหน้าต่างด้านนอก ลวดลายเช่นเดียวกับบานประตูแต่ทำด้วยปูนปั้น ซึ่งผนังภายในพระอุโบสถยังมีภาพเขียนสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นภาพชาดกเรื่องพระเจ้า 500 ชาติที่งดงามมาก ซึ่งไม่มีที่อื่นอีก

2. พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ หล่อด้วยโลหะลงรักปิดทอง สูงประมาณ 4 วา ประดิษฐานบนฐานชุกชีรูปบัวหงายนูนเด่น มีพระอัครสาวก คือ พระสารีบุตร และ พระโมคคัลลานะ ยืนอยู่ด้านขวาและซ้าย

ภาพจากเฟซบุ๊ก : วัดเครือวัลย์ วรวิหาร
ภาพจากเฟซบุ๊ก : วัดเครือวัลย์ วรวิหาร

3. ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ภายในพระอุโบสถนั้นมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยเป็นภาพชาดก เรื่อง พระเจ้า 500 ชาติ ทั้ง 4 ด้านของพระอุโบสถ ซึ่งใช้ลายกั้นเป็นช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 83-84 เซนติเมตร กรอบเขียนลายเนื่องเป็นลายก้านต่อดอกใบเทศ ซึ่งเป็นฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 3 มีความวิจิตรงดงาม เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของวัดนี้

...

4. พระวิหาร นอกจากนี้ยังมีพระวิหารรูปทรงและขนาดเดียวกับพระอุโบสถ ตั้งอยู่ด้านขวาพระอุโบสถ ภายในไม่มีภาพเขียนใด ๆ แต่มีพระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้างประมาณ 2 วา

อ้างอิงจาก สำนักงานเขตบางกอกใหญ่