"โออิชิ กรีนที" ตอกย้ำเบอร์หนึ่งชาพร้อมดื่ม เดินหน้าเปิดเกมรุกเหนือคู่แข่ง อัพเลเวลแบรนด์ โชว์เคสความล้ำไปอีกระดับ กับการเปลี่ยนขวดดีไซน์ใหม่ในรอบ 26 ปี  

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. นางสาวสุภรณ์ เด่นไพศาล ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ชาเขียวโออิชิครองส่วนแบ่งตลาดชาพร้อมดื่มเป็นเบอร์ 1 มาอย่างยาวนานและได้รับความนิยม โดยเป็นชาเขียวอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคมาตลอด ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้โออิชิสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดได้อย่างเหนียวแน่น คือ การไม่หยุดนิ่งที่จะยกระดับแบรนด์ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และแคมเปญการตลาด เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ ขณะที่ในครั้งนี้ ก็เช่นกัน โออิชิพร้อมส่งต่อความรู้สึกดีดีที่ลึกซึ้งขึ้นอีกขั้นให้กับลูกค้า เดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับตลาดชาพร้อมดื่ม ผ่าน 3 กลยุทธ์ที่จะอัพเลเวลแบรนด์ และสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับตลาดชาพร้อมดื่ม ประกอบด้วย

1. สร้างสรรค์ขวดและฉลากดีไซน์ใหม่ในรอบ 26 ปี ขวดและฉลากดีไซน์ใหม่ ที่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่คือการยกระดับประสบการณ์ของการดื่มชาให้พิเศษยิ่งกว่าที่เคย ขวดดีไซน์ใหม่สะท้อนความทันสมัย พรีเมียมและเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวด้วยเส้นโค้งอ่อนช้อยที่พาดผ่านบริเวณคอขวด ราวกับริ้วลายของไร่ชาที่ทอดตัวไปตามแนวเขา เปรียบเสมือนการถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติและแหล่งกำเนิดของใบชาคุณภาพที่อยู่ในชาเขียวโออิชิทุกขวด สำหรับฉลากดีไซน์ใหม่ก็ถูกออกแบบอย่างประณีต ด้วยลายกราฟิกมินิมอลที่ผสมผสานกลิ่นอายญี่ปุ่นอย่างลงตัว เรียบง่ายแต่ดูดี มีความเท่แบบไม่ต้องพยายาม เป็นสไตล์ที่ตรงใจคนรุ่นใหม่ และยังมีรูปส่วนผสมของชาเขียว ที่สื่อสารถึงรสชาติของชาเขียวโออิชิแต่ละรสชาติที่มีหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่แตกต่า

...

2. อัพเลเวลประโยชน์ของชาเขียว ผ่านการสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยเรื่องคุณประโยชน์ด้านอารมณ์จากชาเขียว ชาเขียวโออิชิ แบรนด์ผู้นำตลาดชาพร้อมดื่ม เดินหน้าสร้างความแตกต่างอีกขั้น ด้วยการยกระดับคุณประโยชน์ของชาเขียว จากเพียงแค่ความสดชื่นสู่เครื่องดื่มที่ช่วยสร้างสมดุลทางอารมณ์ เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่เผชิญความวุ่นวาย ความเร่งรีบและแรงกดดันจากชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา โดยโออิชิใช้แนวคิด "Positivi-Tea" เป็นแกนหลักในการสื่อสาร สะท้อนคุณประโยชน์ของชาเขียวที่มีส่วนประกอบของแอลธีอะนีน (L-Theanine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนธรรมชาติที่พบได้ในใบชา ช่วยให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด และเสริมสร้างอารมณ์เชิงบวก ซึ่งตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตมากขึ้นในทุกวัน กลยุทธ์ใหม่นี้ไม่เพียงชูจุดขายในด้านฟังก์ชัน แต่ยังขับเคลื่อนด้วย Emotional Benefit ผ่านการสื่อสารแบบ Lifestyle-Centric เพื่อให้ผู้บริโภคมองเห็น “โออิชิ” ไม่ใช่แค่ชาเขียวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลใจในทุกวัน 

3. การสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่โดนใจผ่านแคมเปญใหม่ "รู้สึกดี ทุก Tea เลย" และพรีเซนเตอร์ใหม่ สกาย วงศ์รวี นทีธร และ นานิ หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจน ทั้งคู่มีไลฟ์สไตล์ที่เรียบง่าย อารมณ์ดี และให้ความสำคัญกับความสุขรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาพักผ่อน ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด หรือการดูแลสุขภาพกายและใจอย่างสมดุล นอกจากนั้น แคมเปญ "รู้สึกดี ทุก Tea เลย" ยังสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่โดย สกาย-นานิ  คู่เฟรนด์ที่มองไปทีไรก็รู้สึกดี สดใส มีรอยยิ้มได้เสมอ ร่วมด้วยเหล่าน้องๆ Gen Z เพื่อสื่อสารได้อย่างเข้าถึงหัวใจคนรุ่นใหม่ โดย Mood & Tone ของหนังฉีกแนวจากเดิม เป็นแนวญี่ปุ่น มินิมอล สดใส อารมณ์ดี นำเสนอเรื่องราวการค้นพบความสุขง่าย ๆ ในแต่ละวัน เรื่องเล็กๆ ที่ได้ทำเมื่อไหร่ ก็รู้สึกดี ทุก Tea เลย โดยสอดแทรกแนวคิดของแบรนด์เข้าไปในหนังโฆษณาได้อย่างลงตัว กล่าวคือ โออิชิ กรีนที มี ‘แอลธีอะนีน’ (L-Theanine) สารในชาเขียวที่จะทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย ดื่มเมื่อไหร่ ก็จะช่วยให้รู้สึกดี ทุก Tea ที่ดื่ม 

ทั้งนี้ นอกเหนือจากสื่อภาพยนตร์โฆษณาแล้ว ยังมีการ Bombard สื่อทั่วประเทศ ทั้งสื่อกลางแจ้ง Transit Ad และหนึ่งในไฮไลต์ที่ห้ามพลาด คือ Micro Joy Spot จุดเล็กๆ ที่แบรนด์ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อส่งต่อโมเมนต์ดีๆ ให้กับคนที่เดินผ่านไปมาในย่านยอดฮิตของวัยรุ่นอย่างสยาม ส่วน Micro Joy Spot คือ กิจกรรมสุดครีเอทจากโออิชิ ที่ตั้งใจเปลี่ยนพื้นที่เล็กๆ ใจกลางเมือง ให้กลายเป็นจุดเติมพลังใจให้คนเมือง ผ่านโมเมนต์เล็กๆ ที่สร้างรอยยิ้มและความรู้สึกดีแบบไม่ต้องพยายาม โดยออกแบบให้สอดคล้องกับแนวคิด "รู้สึกดี ทุก Tea เลย" อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ใหม่ของขวด โออิชิ กรีนที จะใช้กับทุกรสชาติและในทุกขนาดบรรจุภัณฑ์ รวมถึงยังอัพไซส์สองขนาดใหม่สุดคุ้มค่า ได้แก่ ขนาด 370 มล.(ปรับเพิ่มจาก 350 มล.) ในราคาเดิม 15 บาท และ ขนาด 400 มล. (ปรับเพิ่มจาก 380 มล.) ในราคาเดิม 20 บาท เพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้บริโภค ทุกโอกาสในการดื่ม และเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการดื่มชาเขียวโออิชิ 

นางสาวสุภรณ์ กล่าวต่อว่า ตลาดชาพร้อมดื่มในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดประมาณ 18,307 ล้านบาท (ข้อมูล 12 เดือนล่าสุด ณ เดือน พ.ค.2568 (เม.ย.2567-พ.ค.2568) ข้อมูลจากบริษัท นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) จำกัด) โดยโออิชิ กรีนที เป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 42.8% (ข้อมูล ณ เดือน พ.ค.2568 ข้อมูลจาก บริษัท นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) จำกัด) คาดหวังว่า การปรับโฉมครั้งนี้ จะเข้ามาช่วยสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง เพื่อดึงดูดความสนใจกับกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z

สำหรัยบโออิชิ เป็นผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มในเมืองไทยมาอย่างยาวนาน ทำให้ไม่หยุดนิ่งในการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ และนำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับตลาด ผ่านการเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง การปรับโฉมในครั้งนี้ จะเป็นอีกการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ชาเขียวโออิชิในฐานะผู้นำตลาดที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ จะสนับสนุนและยืนเคียงข้างให้คนมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ และรู้สึกดีๆ ในชีวิตประจำวัน พร้อมนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพวกเขา

...