ชี้กัมพูชานอกจากเป็นแหล่งค้ามนุษย์และศูนย์กลางสแกมเมอร์สร้างความเดือดร้อนให้ทั่วโลกแล้ว ยังเป็นแหล่งเครือข่ายบุหรี่เถื่อนข้ามชาติและเป็นฐานผลิตบุหรี่ปลอมทะลักขายไทย 

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายบุหรี่เถื่อนข้ามชาติ ซึ่งเชื่อมโยงกับกัมพูชาและถูกลักลอบนำเข้ามาขายในไทย อ้างอิงจากรายงานข่าวกรองระหว่างประเทศรวมถึงรายงานจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) โดยมีการระบุว่า กัมพูชาเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับปฏิบัติการฉ้อโกงผิดกฎหมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งการฉ้อโกงทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์ แผนที่ของ UNODC ชี้ชัดว่า พื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะเมืองสีหนุวิลล์และปอยเปต ได้กลายเป็นศูนย์รวมอาชญากรรมระดับโลก มีเป้าหมายโจมตีผู้คนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย นอกจากนั้น บริเวณดังกล่าว ไม่ได้มีเพียงกรณีอื้อฉาวเดียวที่เกี่ยวกับธุรกิจสีเทาที่ใช้กัมพูชาเป็นฮับในการเป็นฐานปฏิบัติการฉ้อโกง แต่ยังมีเรื่องของการค้าบุหรี่เถื่อน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจผิดกฎหมายที่รุ่งเรืองมากในกัมพูชาด้วย

ข้อมูลจาก Apirasol ซึ่งติดตามการค้าสินค้าผิดกฎหมายในภูมิภาคอาเซียน ได้รวบรวมข้อมูลการค้าระหว่างเดือน ต.ค 2565 ถึงเดือน พ.ย.2566 ชี้ชัดว่า กัมพูชา คือ ศูนย์กลางการค้าบุหรี่เถื่อน บุหรี่ปลอม สำคัญที่สุดของโลก ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการควบคุมพรมแดนหละหลวม มีทำเลที่ตั้งติดรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งทางบกและทะเลอ่าวไทย ยังมีความยากจนในประเทศอยู่ในระดับสูงและเอื้อต่อการจัดตั้งกิจการของกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ กัมพูชาถูกระบุสถานะเป็นทั้งประเทศทางผ่านและจุดหมายปลายทางสำหรับเส้นทางการค้าบุหรี่เถื่อน ซึ่งมีฐานการผลิตในกัมพูชา รวมถึงมีต้นทางมาจากเวียดนามและอินโดนีเซีย ผ่านทางกรุงพนมเปญ กำปงโสม สีหนุวิลล์ เพื่อเข้าสู่ประเทศไทยและสินค้าบางส่วนยังกระจายไปตามโกดังต่างๆ ในกัมพูชา เพื่อจำหน่ายและบริโภคในประเทศ กัมพูชาส่งออกบุหรี่เถื่อนมูลค่าสูงถึง 13.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย 89% ของสินค้าทั้งหมดถูกส่งไปยังเวียดนาม ขณะเดียวกันยังพบเส้นทางลักลอบส่งออกบุหรี่เถื่อน บุหรี่ปลอม ผ่านช่องทางศุลกากรปกติไปยังท่าเรือใหญ่ๆ ทั้งท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือฮ่องกงและท่าเรือสิงคโปร์ ก่อนต่อไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยใช้การสำแดงเป็นสินค้าผ่านแดน หรือ สำแดงเท็จ เช่น การแจ้งรายการสินค้าเป็นมันสำปะหลังแห้ง หรือปาล์มน้ำมัน เป็นต้น

...

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของเครือข่ายลักลอบขนบุหรี่จากกัมพูชาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีรายงานว่า มีกองทัพมด ซึ่งรวมถึงคนที่ข้ามไปเล่นคาสิโนฝั่งกัมพูชาทำหน้าที่เป็นแรงงานขนบุหรี่ข้ามชายแดนให้เครือข่ายผู้ค้าบุหรี่เถื่อนในไทยสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มธุรกิจสีเทาทำหน้าที่ลักลอบขนบุหรี่เถื่อนโดยอาศัยช่องทางธรรมชาติ หรือ ที่เรียกกันในพื้นที่ว่าทางหมาลอดลัดเลาะผ่านป่าและอาศัยเรือขนาดเล็กขนย้ายตามแนวชายฝั่งในเวลากลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการเปิดร้านขายสินค้าผิดกฎหมายอย่างเปิดเผยใน จ.สระแก้ว ทั้งสุราเถื่อนและบุหรี่เถื่อน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย สรรพสามิตพื้นที่เคยระบุว่า ในช่วงวันที่ 1 ต.ค.2566 ถึง 30 ก.ย.2567 การลักลอบดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อรัฐมูลค่าสูงถึง 185 ล้านบาท

ความล้มเหลวในการควบคุมชายแดนที่ผ่านมา และข้อกฎหมายที่ยังไม่สามารถตอบสนองภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ ทำให้การระบาดของบุหรี่เถื่อนในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งในมิติความมั่นคง เศรษฐกิจ และสาธารณสุข รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ'อาจถึงเวลาแล้วที่ไทยจำเป็นต้องลุกขึ้นมาจัดการปัญหานี้ อย่างเป็นระบบและจริงจัง ยกระดับการแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อนให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะการเพิ่มอำนาจให้กรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบ ควบคุมและสกัดสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บุหรี่ซิกาแรต ไม่ให้ถูกอ้างว่าเป็นสินค้าผ่านแดน เพื่อส่งไปยังประเทศที่สาม โดยไม่มีจุดประสงค์ในการบริโภคในประเทศไทย ประเด็นนี้ ยังได้ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในระดับการประชุมอธิบดีกรมศุลกากรของอาเซียน (The ASEAN Director-general of customs) เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมแสดงความมุ่งมั่นที่จะต่อต้านสินค้าเถื่อนและยืนยันว่า จะสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาการขนถ่ายสินค้าผ่านแดน รวมถึงร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อปรับปรุงพัฒนากระบวนงานทางศุลกากรให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ประเด็นการเป็นศูนย์กลางในการค้าสินค้าผิดกฎหมายและละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของกัมพูชายังถูกตีตราในที่ประชุม องค์การการค้าโลก (WTO) เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาด้วย โดยมีการทบทวนนโยบายการค้าของกัมพูชา (Trade Policy Review) ซึ่งหลายประเทศเช่น ญี่ปุ่น อินเดีย รวมถึงไทย ได้หยิบยกปัญหาการค้าสินค้าเถื่อน สินค้าปลอมที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของกัมพูชา และชี้ถึงปัญหาวิกฤตการณ์การค้าขายสินค้าปลอมข้ามพรมแดนที่มีต้นทางมาจากกัมพูชา ซึ่งที่ประชุมนานาชาติล้วนคาดหวังให้กัมพูชาเข้มงวดกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้มากขึ้นเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นในจรรยาบรรณและมาตรฐานทางการค้าร่วมกับประชาคมโลก

อย่างไรก็ตาม ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติจากกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นขบวนการคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ หรือ บุหรี่เถื่อน เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยไม่ควรละเลยอีกต่อไป แต่ควรก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าภาพ อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น หากต้องการให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางเศรษฐกิจข้ามพรมแดน อาจถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการธุรกิจนอกแถวในพื้นที่รอบบ้านเช่นกัน เรื่องของบุหรี่เถื่อนจึงควรได้รับความสนใจ เช่นเดียวกับการยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งประเทศไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยในการจัดการกับเครือข่ายผิดกฎหมายในระดับนานาชาติ