"ตั๊น จิตภัสร์" เดินหน้ามุ่งมั่นฝึกซ้อมกีฬาเริงระบำในอากาศ โดยหลังจากไปฝึกซ้อมในยุโรปล่าสุดกลับมาฝึกซ้อมต่อในประเทศไทย เตรียมลุยลงแข่งขันรายการแรกคือ เวิลด์คัพ มาร์เซย ฝรั่งเศส พร้อมสานต่อภารกิจกีฬาอากาศคนพิการ

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางกลับประเทศไทยหลังจากไปฝึกซ้อมกีฬาเริงระบำในอากาศ หรือ Indoor Skydiving (Freestyle) ในอุโมงค์ลม ที่ยุโรปหลายเดือน โดยการกลับมาครั้งนี้ เพื่อฝึกซ้อมกีฬาเริงระบำในอากาศในอุโมงค์ลมต่อที่ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และมีโค้ชชาวต่างชาติระดับแชมป์โลกผลัดเปลี่ยนมาร่วมเป็นผู้ฝึกสอน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การแข่งขันเวิลด์คัพที่เมืองมาร์เซย ประเทศฝรั่งเศสในปีหน้า

พ.ต.อ.รังสรรค์ เนตรเกื้อกิจ รองผู้บังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) กล่าวว่า การสนับสนุนและอนุเคราะห์การใช้อุโมงค์ลมในค่ายนเรศวรนั้น น.ส.จิตภัสร์ได้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด พร้อมทั้งได้รับหนังสือสนับสนุนจากสมาคมกีฬาทางอากาศและการบินแห่งประเทศไทยและได้ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อขอความร่วมมือในการใช้อุโมงค์ลมดังกล่าว นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังมีการสอบถามเกี่ยวกับกติกาและแนวทางการแข่งขัน ซึ่งในอดีตประเทศไทยมีการส่งทีมตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นตัวแทนทีมชาติเท่านั้น จึงนับได้ว่า น.ส.จิตภัสร์ ถือเป็นนักกีฬาหญิงคนไทยคนแรกในกีฬาประเภทนี้ และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เพราะที่ผ่านมา เคยได้มาฝึกหลักสูตรโดดร่มแบบกระตุกตั้งแต่ปี 2564 ที่มีความคุ้นเคยกับอุโมงค์ลมนี้ดี โดยเจ้าตัวตั้งมั่นที่จะไปถึงเป้าหมายในการพัฒนากีฬาประเภทนี้ ให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงในเวทีโลกด้านนี้เพื่อแสดงศักยภาพให้เห็นว่า คนไทยสามารถส่งตัวแทนเข้าแข่งขันในกีฬาประเภทนี้ กีฬานี้ เป็นที่นิยมในทวีปยุโรปแม้จะยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก โดยน.ส.จิตภัสร์ในฐานะตัวแทนจากประเทศไทยมีความหวังที่จะไปสร้างชื่อเสียงบนเวทีในระดับโลก

...

น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า ต้องการจะนำร่องกีฬาเริงระบำในอากาศ เพื่อให้มีนักกีฬาประเภทนี้ เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย นอกจากนี้สมาคมกีฬาทางอากาศทั่วโลก หรือ FAI (Federation Aeronautique Internationale) หลังจากการแข่งขัน World Cup แม็ทนี้ จบจะเป็นการแข่งขันกีฬา PARA Indoor Skydiving ที่จะเริ่มเปิดให้มีการแข่งขันนักกีฬาคนพิการในอุโมงค์ลม ซึ่งส่วนตัวอยากไปศึกษาดูงานเพิ่มเติมตรงจุดนั้น เพราะว่า ต้องการที่จะผลักดันและสานต่อสิ่งที่ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ผู้เป็นบิดา และเป็นอดีตประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่ได้ทำไว้แล้วในการสนับสนุนนักกีฬาคนพิการ เพื่อสานต่องานนี้ ให้สำเร็จต่อไป