กลุ่มผู้ชุมนุม คปท. บุกยื่นหนังสือกระทรวงการต่างประเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลตอบโต้กัมพูชาอย่างเป็นทางการ จี้ยืนยันอธิปไตย ก่อนประชุม JBC

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล นัดรวมตัวที่สะพานชมัยมรุเชฐ เคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีผู้ช่วยปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ออกมารับหนังสือ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินมาตรการตอบโต้กัมพูชาอย่างเป็นทางการ ก่อนถึงกำหนดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมชายแดน (JBC) ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยมีข้อเสนอดังนี้

1. กระทรวงการต่างประเทศต้องส่งหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการต่อกัมพูชา
2. ต้องยืนยันว่าพื้นที่พิพาทเป็น “อธิปไตยของไทย” ไม่ใช่ “พื้นที่ทับซ้อน”
3. ต้องกล้าประกาศจุดยืนในนามรัฐบาลไทย ไม่ใช่บุคคลหรือกลุ่มการเมือง
4. เพิ่มน้ำหนักต่อการเจรจาในเวทีระดับโลก ด้วยการยืนยัน

...

นายพิชิต กล่าวว่า วันนี้ คปท. มาเพื่อสื่อสารไปยังนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับตั้งคำถามแทนประชาชนว่าตัวท่านรัฐมนตรีได้ทำหน้าที่อย่างครบถ้วนแล้วหรือยัง ทราบมาว่าก่อนหน้านี้ ทางกองกำลังสุรนารี ของกองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งจดหมายประท้วงไปยังกัมพูชา มากกว่า 400 ครั้ง เนื่องจากถูกฝั่งกัมพูชาทำการลุกล้ำชายแดนมาโดยตลอด เมื่อกองกำลังสุรนารีเรียกร้องและมีการประท้วงกัมพูชามากมายขนาดนี้ กระทรวงการต่างประเทศมัวแต่ทำอะไรอยู่

และตอนนี้ถึงแม้ทหารกัมพูชาจะถอนกำลังออกจากดินแดนไทย ไปตั้งอยู่เดิมเมื่อปี 67 แล้ว แต่เป็นการถอยตามหลักการ เนื้อหาจริงๆ แล้วทางฝั่งของกัมพูชาเขายังอยากได้พื้นที่ 4 จุดของไทย คือ ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย วันนี้กระทรวงการต่างประเทศถือเป็นเจ้าภาพหลักที่จะต้องกล้ายืนยันต่อชาวโลกว่าบริเวณตรงนั้นเป็นอธิปไตยของไทย

และก่อนถึงวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ที่จะมีการประชุม JBC ระหว่างไทยกับกัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศจะต้องประกาศให้ชัดเจนว่าบริเวณที่กัมพูชาลุกล้ำเข้ามานั้น เป็นพื้นที่ของประเทศไทย การเจรจาจะต้องเริ่มด้วยการที่บอกว่ามันคือพื้นที่ของไทยเรา กัมพูชาต้องออกไป และต้องไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนายทักษิณกับสมเด็จฮุนเซนมาเกี่ยวข้อง

ต่อมา นายธนพ ปัญญาพัฒนากุล ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ออกมารับหนังสือ แล้วยืนยันว่าจะนำเรื่องและนำความกังวลของประชาชนส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการในส่วนที่ทำได้อย่างเร่งด่วน