คืนเดียวพบชิ้นส่วนมนุษย์ใต้ซากตึก สตง. เพิ่ม ท่อนบน-ท่อนล่าง รวม 21 ชิ้น กับ 1 ร่างเพศหญิง ครอบครัวเหยื่อทยอยรับร่าง เผยแผนเจาะคอนกรีต เพื่อลุยค้นหาบริเวณบันไดหนีไฟ โซน B2
วันที่ 29 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุการณ์อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่กำลังก่อสร้างใหม่พังถล่ม เขตจตุจักร กทม. ซึ่งเข้าสู่วันที่ 33 ของการค้นหา เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR จากหลายหน่วยงานยังระดมกำลังรื้อถอนซากอาคาร พร้อมกับค้นหาร่างผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องจักรหนักสลับกับกำลังคนในการเข้าตัดเหล็ก โดยมีทีมค้นหาด้วยกล้องมุมสูงสนับสนุนการทำงานอย่างต่อเนื่อง ตลอดคืนวันที่ 28 เม.ย. จนกระทั่งเวลา 12.00 ของวันนี้ พบร่างผู้สูญหาย เป็นร่างผู้เสียชีวิตเพศหญิง 1 ร่าง และชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์จำนวนกว่า 21 รายการ ที่บริเวณช่องบันได โซน D ในจำนวนนี้มี 3 รายการที่เป็นชิ้นส่วนมนุษย์ท่อนบนเพศชาย 1 ชิ้น ชิ้นส่วนมนุษย์ท่อนล่างเพศชาย 1 ชิ้น และชิ้นส่วนมนุษย์ท่อนล่างไม่ทราบเพศ 1 ชิ้น
เจ้าหน้าที่จึงนำร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนอวัยวะที่พบทั้งหมดส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคลอย่างเป็นทางการต่อไป
พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. โฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยผลการส่งร่างผู้เสียชีวิตคืนครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต ว่าปัจจุบันนี้มีการยืนยันอัตลักษณ์และนำร่างส่งคืนครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตแล้ว 54 ร่าง ซึ่งมีญาติมารับไปแล้ว 43 ร่าง ซึ่งบางครอบครัวมีผู้เสียชีวิตหลายราย และยังไม่สะดวกในการรับร่าง จึงได้มีการฝากร่างไว้ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ก่อน ซึ่งคาดว่าวันนี้จะมีร่างส่งมาให้พิสูจน์อัตลักษณ์เพิ่มเติมอีก 2 ร่าง
...
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อาคาร สตง.ถล่ม ของกรุงเทพมหานคร ยังไม่มีการอัปเดต โดยล่าสุดเวลา 18.00 น. วานนี้ (28 เม.ย.) ผู้เสียชีวิต 65 ราย ผู้ประสบเหตุ 103 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย อยู่ระหว่างติดตาม 29 ราย
ด้าน นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยความคืบหน้าในการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ซึ่งครบกำหนดเวลา 1 เดือน ในวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมาว่า ช่วง 20.00-22.00 น. พบเคสใหญ่อยู่ 3 เคส โดยเป็นร่างมนุษย์สภาพสมบูรณ์ 1 ร่าง และยังพบชิ้นส่วนมนุษย์เล็กๆ อีก 5 ชิ้น ในโซน B ตามบริเวณช่องบันได
ตอนนี้การดำเนินการด้านหน้าในโซน A และ D มีการเจาะถึงพื้นชั้นหนึ่งแล้วบางส่วน ซึ่งบางส่วนก็มีการเจาะไปถึงชั้นใต้ดิน ในส่วนของโซน B และ C ที่ติดกับอาคารจอดรถด้านหลัง พบว่ามีเหล็กค่อนข้างเยอะ ซึ่งวานนี้ได้มีการระดมทีมตัดแก๊ส และวันนี้มีแผนงานที่จะดำเนินการในการขนย้ายเหล็กเหล่านั้น โดยเฉพาะในบริเวณโซน C3 และ C2 เพื่อที่จะเปิดไปถึงจุดที่เราคาดว่าจะพบร่างของผู้ประสบภัยที่พยายามที่จะหลบหนีออกจากอาคารมาตรงทางเชื่อมนั้น
อีกส่วนหนึ่งคือโซน B2 เราพบแผ่นพื้นปูนที่มีสภาพสมบูรณ์ตกมาเรียงกันประมาณ 4 ถึง 5 ชั้น ซึ่งความแข็งของตัวคอนกรีตและเหล็กอาจทำให้การเจาะค่อนข้างลำบาก ซึ่งที่ต้องดำเนินการในจุดนั้นก่อนเพราะว่าแผ่นพื้นปูนขวางอยู่ที่บริเวณหน้าบันไดหนีไฟ ซึ่งมีการวางแผนในการนำเครื่องจักรหนักเข้าดำเนินการ โดยเมื่อช่วงเช้ามีการเร่งรัดในการนำรถหัวเจาะกระแทก 2 เครื่องเข้าดำเนินการในส่วนนี้ โดยใช้รถหัวเจาะกระแทกในการเซาะแผ่นปูนออกเป็นชิ้นและจะใช้เครื่องจักรหนักยกออก จะทำให้การดำเนินการเร็วขึ้นกว่าการเจาะแผ่นปูนออกให้เป็นเศษ หากในช่วงกลางวันนี้สามารถเปิดจุดนี้ได้ ในตอนกลางคืนคาดว่าจะลงไปยังบริเวณบันไดหนีไฟในโซน B2 มากขึ้น
เมื่อถามว่า ภารกิจทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนเมษายน ตามที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตั้งไว้หรือไม่ นายสุริยชัย เผยว่า ก็อยากให้เร็วที่สุด ส่วนกำลังความพร้อมของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหลังผ่านมา 1 เดือนนั้น ตนได้มีการพูดคุยแล้วว่าแม้แต่วันแรงงานที่จะถึงนี้ พวกเขาก็ยังยืนยันที่จะทำงานต่อเพราะขวัญกำลังใจเกิน 100%