ถอดรหัส "นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี" ผู้นำอินเดียเปลี่ยนโลก "มหาอำนาจอินเดีย" ก่อนเยือน "ประเทศไทย" กระชับสัมพันธ์
ในห้วงเวลาที่โลกกำลังจับตามองการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของประเทศอินเดีย ภายใต้การนำของ "นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี" เตรียมที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในวันที่ 3 เมษายนที่จะถึงนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองชาติให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทีมข่าวไทยรัฐได้พูดคุยกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ประธานอาศรมวัฒนธรรมไทย-ภารต องค์กรที่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับ "สุภาส จันทรา โบส"
"สุภาส จันทรา โบส" เป็นผู้นำการต่อสู่อิสรภาพของอินเดียที่สำคัญที่สุด ชาวอินเดียเรียกท่านว่า "Netaji" ซึ่งแปลว่า "ท่านผู้นำ" ท่านนายกฯโมดี พยายามจะทำประวัติศาสตร์นี้ให้ชาวอินเดียและประชาชนรู้จัก ซึ่งท่านเคารพท่านสุภาสมาก..ถือเป็นวาระแห่งชาติหนึ่งและได้สร้าง "อนุสาวรีย์สุภาส" ไว้ที่กรุงเดลี
...
นายกรัฐมนตรีโมดีได้รับการยกย่องว่าเป็น "People ’s Leader" ผู้เป็นที่รักและศรัทธาของประชาชนชาวอินเดียอย่างแท้จริง โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาภายใต้การนำของท่าน ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอินเดียอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
"ขจัดความยากจน" มีประชาชนอินเดียกว่า 250 ล้านคนพ้นจากเส้นความยากจน (มีรายได้ไม่ถึง 3 เหรียญต่อวัน) ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
"ยกระดับคุณภาพชีวิต" รัฐบาลโมดีได้ดำเนินโครงการสำคัญมากมาย เช่น โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 500 ล้านคน การเปิดบัญชีธนาคารให้กับประชาชนที่ไม่เคยมีบัญชี ทำให้มีผู้เปิดบัญชีใหม่ถึง 500 ล้านบัญชี รวมถึงการสร้างบ้านให้กับผู้ไร้ที่อยู่อาศัยได้ถึง 4.2 ล้านหลัง
นับรวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการเข้าถึงส้วมสะอาด ซึ่งจากเดิมที่มีประชาชนเพียง 40-50% ที่เข้าถึงส้วมได้ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 95% รวมถึงการเข้าถึงน้ำประปาในชนบทที่เพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 80%
"ส่งเสริมเศรษฐกิจและการลงทุน" อินเดียภายใต้การนำของโมดีได้ ยกระดับความสะดวกในการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business) จากอันดับที่ 124 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 63 ของโลก ทั้งยังมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาล ถนนหนทางได้รับการพัฒนาอย่างมาก
นำไปสู่มาตรวัดสะท้อนความจริงนั่นก็คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจก้าวกระโดด
GDP ของอินเดียเติบโตขึ้นจาก 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2015 เป็น 4.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2025 ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าประเทศจีนในช่วงเวลาเดียวกัน (77% เทียบกับ 74%) และตั้งเป้าที่จะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ3 ของโลกภายในปี 2030
"พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม" รัฐบาลโมดีให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี AI และ Quantum Computing รวมถึงการส่งเสริมโครงการอวกาศ
น่าสนใจว่า..แม้จะเคยมีอุปสรรค แต่ก็ได้รับการสนับสนุนให้เดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง
อีกมิติที่สำคัญที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ นั่นก็คือ "บทบาทในเวทีโลก" อินเดียภายใต้การนำของโมดี
ได้แสดงบทบาทที่โดดเด่นในเวทีโลก โดยมีนโยบาย "Neighborhood First" ให้ความสำคัญกับเพื่อนบ้าน สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสหรัฐอเมริกา รัสเซีย และจีนได้ในเวลาเดียวกัน และยังเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อินเดียได้บริจาควัคซีนกว่า 300 ล้านโดสให้กับกว่า 100 ประเทศโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
...
ถอดรหัสผู้นำ..คุณธรรม จิตวิญญาณ และแรงบันดาลใจ
นพ.ธีระเกียรติ ย้ำว่า สิ่งที่ทำให้นายกรัฐมนตรีโมดีประสบความสำเร็จอย่างมากคือ คุณธรรมและอุปนิสัยส่วนตัว ท่านเป็นคนถ่อมตัว เรียบง่าย มีสมาธิดี ให้เกียรติทุกคน
และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่เคยมีประวัติเรื่องการคอร์รัปชันเลยแม้แต่น้อย
แรงบันดาลใจสำคัญของนายกรัฐมนตรีโมดีมาจาก "สวามี วิเวกานันทะ" นักบุญชาวอินเดีย
ท่านมีความเชื่อว่า "การรับใช้ประชาชนชาวอินเดียก็เสมือนหนึ่งการรับใช้พระเจ้า" ทำให้ท่านทุ่มเททำงานเพื่อพัฒนาประเทศชาติและยกระดับชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง
...
นเรนทรา ดาโมดาร์ดาส โมดี(Narendra Damodardas Modi) นายกรัฐมนตรีอินเดีย เป็น "ผู้นำ" ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงเป็นที่รักของประชาชน ทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์มี ความสามารถในการนำพาประเทศที่มีความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรมไปในทิศทางเดียวกัน
ถือ..เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง
"มหาอำนาจอินเดีย" ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงอีกต่อไป ด้วยศักยภาพทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของอินเดีย ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางอย่างมาก ทำให้อินเดียกำลังก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกที่มีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
ปฏิเสธความจริงไม่ได้เลยว่า..เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายที่ประสบความสำเร็จภายใต้การนำของ "นายกรัฐมนตรีโมดี"
"ไทย-อินเดีย"... สองพันปีแห่งสายสัมพันธ์ รอวันเบ่งบาน
...
นพ.ธีระเกียรติ มองว่า ความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทยและอินเดีย ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่ามีการติดต่อค้าขายกันมาเกือบ 2,000 ปีแล้ว แม้ว่าในปัจจุบันจะมีการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น แต่ยังมีศักยภาพอีกมากที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวัฒนธรรมและการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับประเทศได้อย่างน่าอัศจรรย์
การมาเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีโมดีในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสสำคัญอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจะได้เรียนรู้และกระชับความสัมพันธ์กับประเทศที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆในเวทีโลก และอาจนำมาซึ่งความร่วมมือและผลประโยชน์ร่วมกันในหลากหลายมิติ
การถอดรหัสความสำเร็จของ "โมดี".."มหาอำนาจอินเดีย" ในวันนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้
เราเข้าใจ "ประเทศอินเดีย" ในยุคปัจจุบันมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นบทเรียนอันล้ำค่าสำหรับ "ประเทศไทย" ในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต