ช่วยเหลือกลับถึงเมืองไทยแล้ว สาวลำปางวัย 21 ปี ไปทำงานร้านนวดแผนไทยที่ดูไบ ไปถึงถูกยึดพาสปอร์ต เจ้าของร้านบังคับให้ "รับแขก" ค้าประเวณี เจ้าตัวแชตหาย่าร้องสื่อฯ ช่วย ล่าสุดอัยการคุ้มครองสิทธิฯ ได้รับประสานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ ดูไบ ส่งขึ้นเครื่องบิน และเดินทางถึงอู่ตะเภาเรียบร้อยแล้ว

ที่ สนง.อสส. วันที่ 17 ส.ค. 67 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี (สคช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีหญิงวัย 63 ปี ชาวจังหวัดลำปางร้องผ่านสื่อมวลชนผ่านมายังอัยการ สคช.ว่า เป็นย่าของน.ส.มิว (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ถูกหลอกไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศดูไบ และหลานสาวได้แชตบอกว่าถึงดูไบแล้ว แต่เหมือนถูกหลอก โดนยึดพาสปอร์ต และบังคับให้ค้าประเวณี ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าหากบังคับให้ขายตัว จะยอมปลิดชีพตัวเอง ไม่ยอมค้าประเวณีเด็ดขาด เเละสื่อมวลชนมีการประสานมายังตนเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย ซึ่งได้ประสานงานกับกรมการกงสุล ไปยังสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ ดูไบ จนสามารถช่วยเหลือหญิงสาวคนดังกล่าวได้สำเร็จ 

ล่าสุดวันนี้ ทราบจากอธิบดีกรมการกงสุลว่า ได้รับการประสานจากสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ ดูไบ แจ้งว่า ได้ส่งน้องมิวขึ้นเครื่องจากดูไบ โดยสายการบิน FlyDubai เที่ยวบินที่ FZ1447 ในวันที่ 17 ส.ค. 2567 เวลา 01.35 น. และจะเดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภา พัทยา ในวันเดียวกัน เวลา 11.25 น. ซึ่งทางอัยการจะแจ้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พม. เพื่อไปสัมภาษณ์และคัดกรองว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์หรือไม่ต่อไป  


ในส่วนของอัยการ สคช. ที่ได้ประสานงานช่วยเหลือเรื่องนี้ตนได้ให้ นางสาวพุทธพร ศรีไตรรัตน์ อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายพัทยา (อจคช.พัทยา) เดินทางไปรับตัวที่สนามบินอู่ตะเภา  เเละเข้าสู่กระบวนการ ของ พม. ถ้าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์จะขอให้ พม.จ่ายค่าเดินทางได้ เเละกรณีนี้ยังได้มีการเเจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเพื่อสอบสวนว่าใครเป็นคนหลอกหญิงคนดังกล่าวไป และมีกระบวนการหลอกเด็กไปขายตัวหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีขยายผลจับกุมแก๊งค้ามนุษย์มาดำเนินคดีต่อไป 

...


นายโกศลวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้รับรายงานจาก นางสาวพุทธพร อจคช.ว่า จากการสอบปากคำทราบว่า ผู้เสียหายไปขอนวดเเผนไทย โดยเห็นข้อมูลจากเพจชวนไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งน้องก็ได้คุยเเจ้งไปชัดเจนกับเพจว่าไม่มีการขายตัว เป็นการไปนวดอย่างเดียว และเมื่อเพจได้แจ้งค่าตอบเเทนที่สูง ผู้เสียหายจึงตัดสินใจไป แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับยึดพาสปอร์ตและให้ผู้เสียหายนอนกับเเขก ซึ่งเจ้าของร้านเป็นคนจีน ผู้เสียหายก็ไม่ยอมขายตัว และพยายามบอกผู้หญิงไทยที่อยู่ที่ดูไบจนเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตอนนี้ทาง อจคช.ร่วมสอบปากคำเพื่อรวบรวมถ้อยคำข้อมูล ขยายผลดำเนินคดีกับพวกค้ามนุษย์