จยย.เกี่ยวกันล้ม เก๋งตามหลังเบรกไม่ทัน-เหยียบหัว 2 ศพ จยย.ไถลเจ็บสาหัสอีก 1 คนขับเก๋งเผย จยย.ขับแซงซ้อนกันไม่พ้น จึงเกิดอุบัติเหตุสลด
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุจิตต์ มีอำพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ลำผักชี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เกี่ยวกันล้ม รถเก๋งขับตามเหยียบซ้ำ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนร่วมพัฒนา หมู่ 2 แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นถนนสองเลนสวนกันไปมา กลางถนนพบผู้เสียชีวิต 2 ราย สภาพศีรษะถูกรถเหยียบ กะโหลกแตกจนสมองกระจายเต็มพื้น ทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.ขวัญภิรมย์ โถน้อย อายุ 32 ปี และนายบุญเลิศ บุญอยู่ อายุ 29 ปี ใกล้กันรถจักรยานยนต์ของผู้ตายทั้งสองล้มคว่ำอยู่บนถนน เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ยังพบรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน อัลเมร่า สีบรอนซ์เทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดบนถนนอีก 1 คัน สภาพล้อหน้าและล้อหลังด้านขวา มีชิ้นส่วนสมองติดอยู่ มีนายธนภูมิ จูสิงห์ อายุ 49 ปี เป็นคนขับยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนรถจักรยานยนต์คู่กรณีอีก 2 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทา-ดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มี นายอุดม ห่วงพิมล อายุ 50 ปี เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนวมินทร์ไปก่อนหน้านี้ ส่วนรถจักรยานยนต์อีกคัน เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า NMAX สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มี นายลิมปพัฒน์ อนันรักษ์ อายุ 25 ปี เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ยืนให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่
จากการสอบถาม นายธนภูมิ (คนขับรถเก๋ง) ให้การว่า ตนกำลังขับรถกลับบ้านหลังเลิกงาน กำลังขับสวนทางกับรถคู่กรณี ขณะนั้นเห็นรถจักรยานยนต์ของ นายอุดม แซงรถเก๋งด้านหน้าขึ้นมา ก่อนที่รถจักรยานยนต์ของ นายบุญเลิศ กำลังจะแซงรถจักรยานยนต์ นายอุดม อีกทีในลักษณะแซงซ้อน แต่รถจักรยานยนต์ทั้งสองเกิดเกี่ยวกันล้ม ตนขับรถสวนมาในระยะกระชั้นชิด จึงเบรกไม่ทัน ทับศีรษะของน.ส.ขวัญภิรมย์ และ นายบุญเลิศ จนเสียชีวิต ส่วน นายอุดม หลังเกี่ยวกันล้มได้ไถลไปจนศีรษะชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ นายลิมปพัฒน์ ที่ขับตามหลังมาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
...
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพผู้ตายทั้ง 2 ไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.ตำรวจ อย่างละเอียดอีกครั้ง และจะเชิญผู้ขับขี่ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อสรุปสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป