ครอบครัว “จารุอนันต์” เหยื่อตกท่อร้อยสายไฟฟ้าถนนลาดพร้าวสุดเศร้า รับศพจากนิติเวช รพ.ตำรวจ ไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว ผลตรวจพิสูจน์ศพยันสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการจมน้ำที่ก้นบ่อร้อยสายไฟฟ้า และกระดูกสันคอช่วงท้ายทอยแตกจากการกระแทก ญาติเดือดประกาศเรียกค่าชีวิต 10 ล้านบาท ทีมงาน “ชวน หลีกภัย” และ “เฉลิมชัย กุลาเลิศ” สส.ก้าวไกล ยื่นมือเข้าช่วยประสานเยียวยา “กทม.” แถลงล้อมคอก แจ้ง กฟน. ระงับการก่อสร้างบ่อร้อยสายไฟฟ้า ขีดเส้น 3 วันทำฝาบ่อให้ได้มาตรฐาน พร้อมให้ กฟน.ประสานญาติผู้เสียชีวิตเพื่อเร่งเยียวยา ด้าน กฟน.รีบแก้ไขฝาบ่อพักท่อ ร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินด้วยคอนกรีตชั่วคราว ยันเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ประสานตำรวจล่าตัวแก๊งขโมยฝาท่ออาละวาด “ดร.เอ้” รับไม่ได้ ยุคนี้ยังมี คนตกท่อกลางกรุงเสียชีวิต แถมปัดความรับผิดชอบกันไปมา จี้ตั้งองค์กรอิสระปลอดภัยสาธารณะเข้ามาดูแลเหยื่อในอนาคต
ความคืบหน้ากรณีชายตกท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน เสียชีวิต ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 พ.ค. น.ส.กาญจนา จารุ อนันต์ อายุ 64 ปี พี่สาว น.ส.อรมณี จารุอนันต์ อายุ 63 ปี พี่สาว และนายกำพนธ์ จารุอนันต์ อายุ 57 ปี น้องชายนายกำธร จารุอนันต์ อายุ 59 ปี เหยื่อตกลงไปเสียชีวิตอยู่ก้นท่อร้อยสายไฟฟ้าลึก 6 เมตร เหตุเกิดบริเวณเกาะกลางถนนลาดพร้าว ปากซอยลาดพร้าว 49 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กทม. เมื่อช่วงสายวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เดินทางติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศล
นายกำพนธ์ จารุอนันต์ น้องชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางกรุงเทพมหานคร และตัวแทน กฟน. โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาขอร่วมงานศพ แต่เมื่อเช้ารองผู้ว่าการ กฟน.โทรศัพท์มาบอกว่า จะส่งเลขาฯ ชื่อเปิ้ลมาแทน ยังไม่มีการคุยเรื่องรายละเอียดการเยียวยา ทางญาติติดต่อนายเฉลิมชัย กุลาเลิศ สส.เขตวังทองหลาง กทม. พรรคก้าวไกล ให้มาช่วยดูแลการช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีเลขาฯของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ติดต่อมาเพื่อช่วยประสานงาน ให้ โดยรองผู้ว่าฯกทม.เดินทางมาพบเพื่อขอโทษและให้เงินเล็กน้อย ขณะที่เสี่ยอ้วน ผู้หวังดีติดต่อขอให้ความช่วยเหลือเรื่องการจัดงานศพที่วัด
...
“พี่ชายป่วยเป็นโรคไต พี่สาวต้องช่วยพาไปโรงพยาบาล พี่สาวจะเป็นคนเดินเรื่องให้ แม้ครอบครัวเราจะไม่ร่ำรวย แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่คิดว่ายังดีกว่านี้ ยังพาเขาไปเที่ยวไปหาของกินได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการเอาฝาไม้แค่แปะไว้แบบขอไปที ต่อให้เป็นเด็กตัวเล็กๆก็อาจตกท่อลงไปได้ ปกติพี่ชายจะเดินข้ามสะพานลอยตลอด แต่คงเป็นความโชคร้ายของเขาที่พี่เดินข้ามถนนไปเหยียบฝาท่อตกลงไป” นายกำพนธ์กล่าว
นายกำพนธ์กล่าวอีกว่า มีหลายคนบอกตนว่า ทาง กฟน.ให้เลขาฯ กฟน.เป็นตัวแทนมาร่วมงานศพ ถ้าให้ลูกน้องมาปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆเรื่องคงจะจบลง ถ้ากระแสข่าวจบเรื่องก็จบ เมื่อเป็นเช่นนี้ตนต้องขอพึ่ง สส.พรรคก้าวไกล และคุณชวน หลีกภัย มาให้ความช่วยเหลือประสานงานด้านต่างๆ หลังเกิดเหตุญาติคุยกันว่าจะเรียกร้องค่าเสียหายเยียวยาเป็นเงิน 10 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าคงมีการเจรจาต่อรองกัน แต่ตนอยากให้เห็นใจพี่สาวคนโตที่ปกติจะอยู่กับพี่ชาย 2 คนตลอด จากนี้พี่สาวที่อยู่ในวัยชราที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันจะต้องอยู่เพียงลำพัง
“ข้อสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ ผู้รับเหมาก่อสร้างที่รับว่าจ้างจาก กฟน.ต้องรับผิดชอบ สังเกตได้ว่า พอเกิดเหตุสามารถหาแผ่นปูนมาปิด นั่นแสดงว่ามีฝาปูนอยู่แล้วแต่ไม่คิดจะทำ ถ้ากลัวฝาท่อหายทำไมไม่ติด กล้องวงจรปิด แต่นี่ไม่มีใครคิดทำอะไร ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอย่างไรดี” นายกำพนธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
ต่อมาเวลา 12.10 น. เจ้าหน้าที่นิติเวช รพ.ตำรวจ แจ้งผลการชันสูตรพลิกศพนายกำธรให้ญาติที่มารับศพทราบ สาเหตุการตายเกิดจากการจมน้ำ และกระดูกสันคอแตก (บริเวณท้ายทอย) จากแรงกระแทก จากนั้นกลุ่มญาตินำพระภิกษุมาทำพิธีนำศพนายกำธร จุดธูป 1 ดอกโยงสายสิญจน์นำศพขึ้นรถตู้โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮพ 3862 กรุงเทพมหานคร เดินทางไปยังถนนลาดพร้าว บริเวณปากซอยลาดพร้าว 49 จุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณนายกำธรจากจุดเกิดเหตุ
เวลา 13.00 น. รถตู้นำศพนายกำธรมาถึงจุดเกิดเหตุ พระภิกษุสงฆ์และกลุ่มญาติทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณจากท่อร้อยสายไฟฟ้าจุดเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ เทศกิจสำนักงานเขตวังทองหลางนำกล่าวอัญเชิญดวงวิญญาณ ญาตินำแกงไก่เทใส่ชามโฟมมาวางและจุดธูปปักไว้ปากท่อร้อยสายไฟฟ้า วางพวงมาลัยดอกไม้สดไว้ที่ฝาท่อจุดเกิดเหตุ พระภิกษุสวดมนต์และกรวดน้ำ ก่อนรถตู้นำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดธาตุทอง ศาลา 16 กำหนดสวดพระอภิธรรมศพ 2 วัน และฌาปนกิจวันที่ 6 พ.ค. เวลา 17.00 น.
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม.เผยว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. กทม.สำนักการโยธามีหนังสือด่วนที่สุดที่ กท 0902/1296 ถึงผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ขอให้ระงับการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) จุดที่ประชาชนพลัดตกลงไปในบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่า มีการนำไม้อัดสภาพชำรุดมาปิดฝาบ่อไว้ไม่เรียบร้อย ปัจจุบันบ่อพักในโครงการดังกล่าวยังไม่มีการปิดฝาบ่อให้เรียบร้อยถูกต้องตามมาตรฐานหลายจุดให้ตรวจสอบและปิดฝาบ่อโครงการดังกล่าวให้เรียบร้อยถูกต้องตามมาตรฐานภายใน 3 วัน หลังจาก ได้รับหนังสือ พร้อมทั้งขอให้การไฟฟ้านครหลวงติดต่อประสาน ญาติผู้เสียชีวิตเพื่อเยียวยาค่าเสียหาย เนื่องจากการปฏิบัติงานด้วยความประมาทเลินเล่อ ไม่เป็นไปตามคู่มือก่อสร้างงานสาธารณูปโภค และเงื่อนไขในหนังสืออนุญาต หากไม่ดำเนินการกรุงเทพมหานครจะขอระงับ การพิจารณาอนุญาตงานรายถัดไปของการไฟฟ้านครหลวง ที่ยื่นขออนุญาตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยให้แจ้ง ผลการดำเนินงานให้สำนักการโยธาทราบต่อไป
ด้านการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. (MEA) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. กฟน.ดำเนินการแก้ไขปิดฝาบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินชั่วคราวด้วยคอนกรีตแล้วเสร็จ จากเหตุลักลอบขโมยฝาบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ซอยลาดพร้าว 49 เร่งให้ผู้รับจ้างดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ กฟน. ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ กำชับผู้รับเหมาให้ปฏิบัติงานด้วยความเรียบร้อย และระมัดระวังอันตราย ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นอันดับแรก รวมถึงการเพิ่มการตรวจสอบฝาบ่อพักโครงการอื่นๆ ทั้งหมด และวางมาตรการป้องกันอย่างรอบคอบ
...
อย่างไรก็ตาม กฟน.จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่ลักลอบขโมยฝาบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินถาวร (ฝาเหล็ก) จะประสานความ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพิ่มเติมในพื้นที่การดำเนินโครงการที่มีความเสี่ยง และครอบคลุมพื้นที่ให้บริการของ กฟน. กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี และ จ.สมุทรปราการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชน
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลพื้นที่ กทม. กล่าวถึงเหตุการณ์นายกำธร จารุอนันต์ ตกท่อร้อยสายไฟฟ้าเสียชีวิตว่า เป็นการปัดความรับผิดชอบของ กทม.เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ โยนกันไปมา ทั้ง กทม. กฟน. บีทีเอสสายสีเหลือง แต่หาเจ้าภาพไม่เจอ ถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องเป็นสังคมปลอดภัย ขอชวนประชาชนลงชื่อเสนอกฎหมายจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อความปลอดภัยสาธารณะให้เกิน 10,000 คน อย่างน้อยหาคนกลางหรือเจ้าภาพได้เมื่อเกิดเหตุขึ้น สามารถร้องเรียนที่คณะกรรมการหรือองค์กรได้ทันที อาจขึ้นตรงกับผู้นำประเทศ และองค์กรอิสระนี้จะติดตามความเสี่ยงพร้อมเผยแพร่ข้อมูล เข้าไปแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ไม่ใช่วัวหายล้อมคอก คนตายไปสุดท้ายไม่ได้ทำอะไรและตายฟรี
ถามว่า กรณีเกิดเหตุผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบหรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า เป็นเพียงส่วนหนึ่ง เพราะผู้รับเหมาต้องทำงานและได้เงินเร็วที่สุด กรณีนี้เจ้าของพื้นที่คือ กทม.จะโยนไปที่ กฟน.ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะพื้นที่เกาะกลางถนน ฟุตปาทเป็นของ กทม. ใครจะทำอะไรต้องมาขอก่อน ระหว่างทำ กทม.มีหน้าที่ดูแล ส่วนการส่งมอบ กทม.ต้องร่วมในฐานะเจ้าของบ้าน จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แต่ในอดีตหน่วยงานโยนกันไปมา จบที่การกล่าวแสดงความเสียใจปัดออกจากตัวหมด โยนให้ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาโยนไปให้บริษัทประกันชีวิต เมื่อถึงบริษัทประกันชีวิตจะสู้ด้วยข้อกฎหมาย อาจระบุว่า คนเดินจนเกิดอุบัติเหตุอาจประมาท สภาพร่างกายอาจไม่สมบูรณ์ กว่าจะจ่ายเงินเยียวยาใช้เวลานาน หรือหลายกรณีไม่ได้เงิน เพราะครอบครัวไม่รู้จะเอาอะไรไปต่อสู้
...
ส่วนนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ขอประณามความมักง่ายของหน่วยงานรัฐที่ไม่เคยคิดถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทั้งที่หลักความปลอดภัยสาธารณะ คือ หลักประกันขั้นพื้นฐานที่สำคัญต่อประชาชนมากที่สุด อย่าคิดว่าประชาชนมีราคาชีวิตถูกมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็เยียวยากันไป แต่ชีวิตคนมีค่ามากกว่านั้น พรรคกำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ถึงเวลาที่เราจะต้องร่วมกันหาวิธีป้องกันรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างจริงจังและยั่งยืน
ที่ศาลา 16 วัดธาตุทอง เวลา 17.00 น. มีพิธีรดน้ำศพนายกำธร จารุอนันต์ อายุ 59 ปี ผู้เสียชีวิตจากการเดินข้ามถนนตกท่อร้อยสายไฟฟ้าเสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้องและครอบครัว “จารุอนันต์” มาร่วมแสดงความไว้อาลัยนายกำธรจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีกลุ่มตัวแทนจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มาร่วมในพิธีด้วย จากนั้นบรรจุศพนายกำธรลงหีบศพรอการสวดอภิธรรมศพเวลา 18.30 น.
นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการ กฟน.เดินทางมาร่วมงานศพกล่าวแสดงความเสียใจกับนายกำพนธ์ น้องชายผู้เสียชีวิตว่า ขอแสดงความเสียใจ เป็นอุบัติเหตุที่ไม่อยากให้เกิด ขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเกิดจากอะไร เราจะดูแลรับผิดชอบทั้งหมด เมื่อวานตนไปที่เกิดเหตุแต่ไม่มีข้อมูลว่า บ้านอยู่ที่ไหน จึงวางแผนมาร่วมเคารพศพวันนี้ ตนอยากมาทำความเข้าใจด้วยตัวเอง ไม่อยากเร่งเร้า เร่งรีบอะไรที่จะพูดคุย และขอเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานศพวันนี้ กฟน.แบ่งการดูแลออกเป็น 2 ส่วนคือ การจัดสรรเงิน 5 หมื่นบาทให้ก่อนเพราะเป็นความจำเป็นเร่งด่วน 2.มีคณะกรรมการมาดูแลเรื่องการเยียวยาอีกที ยืนยันว่าไม่ทิ้งแน่นอน
...
รองผู้ว่าการ กฟน.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยว่า ตอนนี้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ส่วนเงินเยียวยา 10 ล้านบาทที่ฝ่ายญาติเรียกร้อง ตนยังไม่ทราบต้องให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน สำหรับฝาท่อที่ถูกลักทรัพย์ไป 150 ฝา กฟน.แก้ไขเร่งด่วนด้วยการกว้านซื้อแผ่นปูนจากร้านวัสดุก่อสร้างมาปิดทั้งหมดแล้ว ขณะนี้สั่งหล่อแผ่นคอนกรีตฝาท่อมาเปลี่ยนให้หมด การทำฝาปิดต้องมีมาตรการป้องกันการขโมยคือ เชื่อมติดไปเลย ส่วนที่ขโมยไป กฟน. เข้าแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน สน.โชคชัย และ สน.ลาดพร้าวแล้ว จะติดตามผลต่อไป นอกจากปัญหาถูกลักขโมยฝาท่อ ยังถูกลักลอบตัดสายไฟตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองด้วย
ต่อมาเวลา 17.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เดินทางมาร่วมเคารพศพนายกำธร พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจกับญาติ รับปากจะให้เขตวังทองหลางดูแลพี่สาวนายกำธรที่ต้องอยู่เพียงลำพังคนเดียว นายชัชชาติ เผยว่า กรุงเทพมหานครมอบเงินเยียวยาให้จากชาวกรุงเทพมหานครช่วยเหลือกัน ปัญหาขนาดนี้ไม่ใช่มีแค่ท่อร้อยสาย ทุกโครงการที่ก่อสร้างในกรุงเทพมหานครต้องตรวจสอบและคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ตนเน้นย้ำดูแลให้เรียบร้อย ต้องร่วมมือกันให้เข้มข้นมากขึ้น ทั้งการโจรกรรมมากขึ้น ทั้งตัดสายไฟ ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งกรุงเทพมหานคร กฟน. รฟม. การประปา การทางพิเศษเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ
เวลา 17.50 น. นายวิลาส เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง มาร่วมงานศพพร้อมมอบเงินสด 50,000 บาทให้นายกำพนธ์น้องชายผู้เสียชีวิต นายวิลาส เผยว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ทีมผู้บริหารและพนักงาน กฟน.มาร่วมไว้อาลัย เรารู้สึก เสียใจจริงๆ โครงการที่ทำต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้ดีขึ้น แต่พอเกิดเหตุเช่นนี้ทำให้รู้สึกเสียใจ ยืนยันว่า กฟน.ไม่ทอดทิ้งเหมือนอย่างที่ข่าวออกช่วงเช้า ทำให้วันนี้ต้องเดินทางมา ด้วยตัวเอง เพื่อยืนยันว่า จะดูแลและไม่ทอดทิ้งอุบัติเหตุครั้งนี้
“ส่วนเรื่องข้อเรียกร้องเงินเยียวยา 10 ล้านบาทนั้น ต้องพิจารณาตามข้อบังคับที่เรามีและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขณะนี้ตั้งกรรมการมาตรวจสอบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากผลการสอบสวนเป็นอย่างไรจะมีมาตรการต่อไป สำหรับการร้องเรียนที่มีมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน เม.ย.นั้น ตนเข้าใจว่าทีมปฏิบัติการน่าจะมีข้อมูลเรื่องฝาท่อที่หายไปแล้ว ฝาปูนที่นำมาปิดหลังเกิดเหตุไม่ได้มีอยู่ในสต๊อก แต่เป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วน ทดสอบเอาคนขึ้นไปลองเหยียบบนฝาป้องกันไม่ให้แตกหัก ส่วนบริษัทผู้รับว่าจ้างจะมีมาตรการความผิดอย่างไร ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด พร้อมสั่งให้ผู้ปฏิบัติงานเข้มงวดกับผู้รับจ้าง ให้ดูแลความคืบหน้าการก่อสร้าง ความปลอดภัย ในพื้นที่ กทม.ต้องเข้มข้นมากกว่าเดิม” นายวิลาสกล่าว