ชิ้นส่วนรถไฟฟ้าร่วง "สีเหลือง-ชมพู" หล่นกระแทกเก๋งอีก คาดโทษบริษัททําชุ่ย (คลิป)

คนกรุงโกลาหล รถไฟฟ้าสายสีเหลืองหยุดให้บริการทั้งระบบตั้งแต่เช้า หลังชิ้นส่วนรางจ่ายไฟฟ้าร่วงมาบนพื้นผิวถนนศรีนครินทร์ ช่วงสถานีกลันตัน-สถานีสวนหลวง ร.9 ระยะทางเกือบ 2 กม. ถูกรถประชาชนเสียหาย 8 คัน โชคดีไม่มีคนเจ็บหรือเสียชีวิต เร่งอพยพผู้โดยสารที่ติดค้างอยู่บนขบวนรถ เดินเท้ากลับไปสถานีที่ใกล้ที่สุดทุลักทุเล พร้อมประสานรถจาก ขสมก.รับผู้โดยสารจำนวนมากที่รอใช้บริการตามสถานีตลอดเส้นทาง “คมนาคม” คาดโทษบริษัทเจ้าของสัมปทานอีกครั้ง หลังเมื่อต้นปีล้อหลุดลงไปถูกรถแท็กซี่บนถนนเทพารักษ์เสียหายมาแล้ว

ชิ้นส่วนรางจ่ายไฟฟ้ารถไฟฟ้าสายสีเหลืองหล่นลงมาบนผิวการจราจร ถูกรถของประชาชนที่สัญจรไปมาบนถนนศรีนครินทร์เสียหาย เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.33 น. วันที่ 28 มี.ค. มีรายงานว่า เกิดเหตุชิ้นส่วนรางจ่ายไฟฟ้ารถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง ร่วงหล่นลงมาบนถนนศรีนครินทร์ช่วงสถานีกลันตัน (YL12) ถึงสถานีสวนหลวง ร.9 (YL15) ทำให้ต้องหยุดให้บริการเดินรถทั้งระบบเป็นการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหา แจ้งต่อผู้โดยสารว่าเกิดระบบไฟฟ้าขัดข้อง สร้างความโกลาหล เพราะมีผู้โดยสารตกค้างตามสถานีต่างๆเป็นจำนวนมาก

สำหรับเศษชิ้นส่วนที่พบคาดว่าเป็นรางจ่ายไฟฟ้าสายสีเหลืองร่วงหล่นลงมาบนถนนศรีนครินทร์ช่วงก่อนถึงปากซอยศรีนครินทร์ 39 มุ่งหน้าห้างซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ เป็นระยะทางยาว มีรายงานเบื้องต้นว่า มีรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ม.ค. รถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลืองเคยเกิดเหตุล้อประคอง (Guide Wheel) หลุดร่วงลงมาโดนรถแท็กซี่บริเวณถนนเทพารักษ์ ช่วงระหว่างสถานีทิพวัล (YL22) และสถานีศรีเทพา (YL21) มาแล้วครั้งหนึ่ง

ต่อมาเวลา 09.00 น. รถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลืองแจ้งว่า เนื่องจากเกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ขณะนี้ปิดให้บริการทุกสถานี เจ้าหน้าที่เร่งแก้ไข ขณะที่ก่อนหน้านี้เวลา 08.00 น. แจ้งว่าหยุดให้บริการที่สถานีกลันตันถึงสถานีศรีแบริ่ง เบื้องต้นรถไฟฟ้ายังจอดอยู่บริเวณด้านบนรางระหว่างทาง คาดว่ามีผู้โดยสารติดอยู่ภายในรถไฟฟ้าด้วย โปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทาง จากเหตุการณ์ครั้งนี้มีรถยนต์ได้รับความเสียหาย หากท่านใดได้รับความเสียหายสามารถไปแจ้งลงบันทึกประจำวันได้ที่ สน.ประเวศ

หลังจากนั้นบริษัทอีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์เศษชิ้นส่วนยึดจับรางจ่ายไฟของรถไฟฟ้าร่วงลงบนรางรถไฟฟ้า บริเวณสถานีกลันตันถึงสถานีสวนหลวงทำให้รถไม่สามารถให้บริการต่อได้ จำเป็นต้องปิดบริการทุกสถานี เบื้องต้นต้องให้ผู้โดยสารที่ติดค้างอยู่บนขบวนรถกลางทาง เดินเท้าอย่างทุลักทุเลตามรางไปยังสถานีที่ใกล้ที่สุด พร้อมประสาน ขสมก.และกรมการขนส่งทางรางแก้ไขปัญหา ขนย้ายผู้โดยสารโดยที่ตกค้างตามสถานีต่างๆเป็นจำนวนมาก และคืนเงินให้ผู้โดยสารผู้ใช้บริการด้วย

ด้าน พ.ต.ท.ชินวัฒน์ เรืองอร่าม รอง ผกก.จร.สน.ประเวศ เผยว่า ประชาชนที่ใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์ขาออกช่วงสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ห้างธัญญาพาร์คจนถึงห้างพาราไดซ์ พาร์ค มีเศษอุปกรณ์โลหะร่วงหล่นจากรางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองลงมาบนพื้นถนน เบื้องต้นมีรถยนต์ได้รับความเสียหาย 8 คัน ส่วนใหญ่เสียหายเล็กน้อย ถูกชิ้นส่วนเศษโลหะขนาดเล็กหล่นใส่ฝากระโปรงรถเป็นรอยยุบและยางรั่วเพราะเหยียบชิ้นส่วนโลหะ

“แต่มี 1 คันหนักสุดกระจกหน้ารถแตก แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ชิ้นส่วนใหญ่สุดที่พบยาวประมาณ 1 ฝ่ามือตกใส่เสาไฟริมทางของ กทม.หักไป 1 ต้น รวมระยะทางที่รถสัญจรไปมาได้รับความเสียหายยาวประมาณเกือบ 2 กม. หากรถไฟฟ้าไม่หยุดวิ่งคงสร้างความเสียหายมากขึ้น เมื่อรถไฟฟ้าหยุดวิ่งเจ้าหน้าที่ให้ผู้โดยสารเดินตามรางรถไฟกลับไปยังสถานีศรีอุดมอย่างปลอดภัย ส่วนรถยนต์ที่เสียหายทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด” พ.ต.ท.ชินวัฒน์กล่าว

ที่กระทรวงคมนาคม (คค.) นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยหลังลงพื้นที่ร่วมกับนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีรางนำไฟฟ้ารถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลืองร่วงหล่นระหว่างสถานีกลันตัน (YL12)-สถานีสวนหลวงร.9 (YL15) ว่า รับรายงานเหตุจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า วันนี้เวลา 08.30 น. ตรวจสอบพบว่ารางนำไฟฟ้า (conductor rail) ฝั่งด้านในของคานทางวิ่ง (ด้านติดกับทางเดินตรงกลาง หรือ walkway) ระหว่างสถานีกลันตัน (YL12) ถึงสถานีศรีอุดม (YL16) ฝั่งมุ่งหน้าสถานีสำโรง (YL23) (south bound) หล่นบนคานทางวิ่ง และมีอะไหล่ตัวยึดรางหล่นลงบนพื้น จำเป็นต้องหยุดให้บริการเดินรถทั้งระบบเป็นการชั่วคราว

“ผู้รับสัมปทานดำเนินการอพยพผู้โดยสารจากขบวนรถลงสู่ทางเดินกลางทางวิ่งจาก 2 ขบวนที่อยู่ตรงกลางทางไปที่สถานีศรีอุดมและสถานีศรีนุช เริ่มอพยพเวลา 09.11 น. อพยพแล้วเสร็จเวลาประมาณ 09.30 น. พร้อมประสานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เตรียมรถโดยสารรับส่งผู้โดยสารตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง เบื้องต้นขสมก.เตรียมรถเพิ่มไว้ช่วงเช้า 10-15 คัน และช่วงเย็นประมาณ 10 คัน” นายสรวุฒิกล่าว

นายสรวุฒิกล่าวอีกว่า ต่อมารับแจ้งว่ามีวัตถุหล่นลงพื้นถนนระหว่างสถานีสวนหลวง ร.9 (YL15) ถึงสถานีศรีอุดม (YL16) ขาล่อง (SB) ทิศทางมุ่งหน้าสถานีสำโรง (YL23) ส่งผลให้มียานพาหนะเสียหาย 3 คัน ประกอบด้วยรถบรรทุกเล็กตู้ทึบ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถ จยย.ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริษัท อีสเทิร์นบางกอก โมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานดูแลรับผิดชอบเยียวยาและค่าเสียหาย หากประชาชนท่านใดได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อประสานรับการเยียวยาได้เต็มที่

“เบื้องต้นมอบหมายให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ไปดำเนินการวิเคราะห์หาสาเหตุร่วมกับ รฟม. ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรางและผู้รับสัมปทานหาแนวทางการป้องกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความมั่นใจต่อผู้ใช้บริการ ขร. จึงประสาน รฟม.และผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าหยุดให้บริการจนถึงเวลา 24.00 น.วันนี้ เพื่อตรวจสอบและแก้ไขให้มั่นคงแข็งแรง อีกทั้งประสาน ขสมก.จัดรถให้บริการรองรับผู้โดยสารตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลืองในวันนี้ด้วย” เลขานุการ รมว.คมนาคมกล่าว

นายสรวุฒิกล่าวด้วยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เน้นย้ำด้านความปลอดภัยสูงสุดและสั่งการว่าต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทุกกระบวนการอย่างละเอียด หากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกจะพิจารณาสัญญาสัมปทานของโครงการและบทลงโทษ เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและความปลอดภัยการเดินทาง อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมต้องขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะดำเนินการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด

วันเดียวกัน นายสมชาย โชติจันทราภรณ์ อายุ 39 ปี ผู้ช่วยนักจัดการทั่วไป เทศบาลนครนนทบุรี ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า ช่วงบ่ายวันที่ 26 มี.ค.ขณะขับรถ จะพาลูกชาย 2 คนกลับบ้าน จู่ๆมีวัตถุปริศนาหล่นลงมาใส่รถตรงขอบประตูหลังซ้ายเสียงดังมาก ทำให้ลูกตกใจ ช่วงเกิดเหตุขับรถอยู่ในช่องทางเบี่ยงเข้าถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าแยกแครายฝั่งขาเข้าหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจแห่งหนึ่งหลังหายตกใจวนรถกลับมาจุดเกิดเหตุเพื่อดูว่าอะไรตกใส่ คนเห็นเหตุการณ์ชี้ให้ดูที่พื้นถนนมีวัตถุคล้ายเหล็กประกบตกอยู่ หยิบมาดูพบเป็นเหล็กหกเหลี่ยมคล้ายอุปกรณ์ประกบชิ้นส่วนอะไรสักอย่างของรถไฟฟ้า สายสีชมพู แต่ไม่ทราบว่าเป็นชิ้นส่วนไหน หลังเกิดเหตุ นำวัตถุดังกล่าวไปแจ้งเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าแล้ว  เพื่อให้รับผิดชอบค่าความเสียหาย แต่หลังเหตุการณ์ผ่านมา 2 วันเรื่องยังไม่คืบหน้า

“หลังจากไปแจ้งเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าสายสีชมพูแล้วว่า ถูกวัตถุปริศนาของรถไฟฟ้าตกใส่รถจนเสียหาย เจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าบ่ายเบี่ยงทำนองที่ว่า วัตถุชิ้นดังกล่าวอาจเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ลอยข้ามมาจากสะพานข้ามแยกแครายมาตกใส่รถ ผมแย้งไปว่าในรถมีกล้องบันทึกเหตุการณ์อยู่ตอนวัตถุปริศนาตกใส่ เป็นจังหวะที่มีรถยนต์อีกคันจอดบังรถผมอยู่ หากวัตถุชิ้นนี้ปลิวข้ามมาจากด้านข้างต้องถูกรถเก๋งคันที่บังด้านข้างก่อน ประกอบกับเมื่อไปสำรวจดูรอยยุบที่รถพบว่าเป็นรอยเหมือนกับถูกวัตถุตกจากที่สูงมาในแนวดิ่ง ไม่ได้เป็นรอยขวางที่มาจากด้านข้าง ผ่านมา 2 วันแล้วเกรงว่าเรื่องจะเงียบและไม่ได้รับความเป็นธรรม” นายสมชายกล่าว

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่