ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม.แถลงข่าวการขับเคลื่อนงานของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ถึงสถานการณ์ความรุนแรงของเด็กและเยาวชน ว่า ศรส.พบสาเหตุของความรุนแรง มีอยู่ 6 ประเด็น ได้แก่ 1.ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ซึ่งจะเกิดเป็นภาวะป่วยทางจิตขึ้นมา 2.ครอบครัว ขาดการเอาใจใส่กับเด็กและเยาวชน ขาดการชี้นำหรือการสั่งสอนที่ถูกต้องจากคนในครอบครัว 3.สิ่งแวดล้อมในชุมชนที่เด็กและเยาวชนมีความเสี่ยงสูงที่จะเข้าไปพัวพันกับอบายมุข หรือยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย 4.รายได้และความเป็นอยู่ของครอบครัวของเด็กและเยาวชน ซึ่งพอมีความยากจน มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ จะเกิดความล่อแหลมที่จะทำผิดง่ายๆในการทำสิ่งผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีในท้ายที่สุด 5.ในสถานศึกษามีการบูลลี่ ทั้งทางกาย วาจา และไซเบอร์ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง 6.การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เกมออนไลน์ ซึ่งจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ จึงขอฝากสื่อมวลชนจำกัดรายละเอียดของผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ แต่ไม่ได้จำกัดการนำเสนอข่าว
นายวราวุธกล่าวว่า สำหรับประเด็นข้อกฎหมาย ขณะนี้มี 3 ฉบับที่ พม.ขอให้คณะกรรมการกฎหมายเร่งดำเนินการ ได้แก่ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งในปลายปี 2567 จะมีการประชุมสำคัญระดับโลก ที่ประเทศโคลอมเบีย เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนในครอบครัว โดยจะเร่งทำให้สำเร็จภายในปีนี้ ทั้งนี้ พม.ตั้งเป้าหมายไว้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี เพื่อที่จะได้เข้าสู่กระบวนการผ่านทางคณะรัฐมนตรี และประกาศใช้ในพระราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นปลายปี 2567 ประเทศไทยจะได้กล่าวบนเวทีโลกว่า เรามีกฎหมายคุ้มครองการกระทำความรุนแรงกับบุคคลในครอบครัว นอกจากนี้ยังมีอนุบัญญัติกฎหมายรอง กว่า 10 ฉบับ ที่กำลังเร่งดำเนินการ นอกจากนี้ วันที่ 7 มี.ค.นี้ พม.จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนา และเวิร์กช็อปเกี่ยวกับเรื่องปัญหาโครงสร้างประชากร ที่ศูนย์สิริกิติ์ โดยมีทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาโครงสร้างประชากร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน สื่อมวลชน เข้าร่วม เพราะไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุสมบูรณ์แบบแล้ว วัยแรงงานลดลง จึงต้องร่วมมือกันหาทางออกให้กับประเทศไทย.
...