"ผบ.ทบ." กำชับ "กอ.รมน." เร่งรัดประสานการบูรณาการตามนโยบายเร่งด่วน "นายกฯ" ในฐานะ "ผอ.รมน." ทั้งการขับเคลื่อนสู่ระบบทหารสมัครใจ ที่เพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าเป็นทหาร ตำรวจ การแก้ปัญหายาเสพติด ปัญหาไฟป่า-หมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 การจัดสรรที่ดินกองทัพให้ประชาชนมาใช้ประโยชน์ รวมถึงการช่วยเหลือจากเหตุภัยพิบัติ

 

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 67 พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) ได้เป็นประธานการประชุม หน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ครั้งที่ 2 ณ อาคารรื่นฤดี กอ.รมน.(ส่วนกลาง) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผช.ผอ.รมน.,พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เลขาธิการ กอ.รมน. ตลอดจนหัวหน้าหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. โดยมี ผอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ทั่วประเทศร่วมประชุมผ่านระบบทางไกล 

ในช่วงแรกของการประชุม หน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ได้รายงานผลการปฏิบัติตามนโยบายเร่งด่วนเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้มอบหมายให้ กอ.รมน. ดำเนินการขับเคลื่อนและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย

...

โดยความคืบหน้าในการดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบทหารกองประจำการแบบสมัครใจ คณะทำงานได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญในการสร้างกระบวนทัศน์ของทหารกองประจำในการเป็น “2 ปี แห่งการได้รับโอกาสพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น” ซึ่งในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขับเคลื่อนดำเนินการสร้างแรงจูงใจ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจสมัครเป็นทหารกองประจำการ ควบคู่กับการพิจารณาหารือ ปรับระเบียบ และเพิ่มเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจมาสมัครเป็นทหารกองประจำการเพิ่มมากขึ้น อาทิ การเพิ่มความมั่นคงทางอาชีพ ตร. ให้โควตาทหารกองประจำการต่อยอดสู่การเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจจำนวน 500 อัตรา เพื่อเข้าฝึกหลักสูตรระยะสั้น แล้วบรรจุเข้ารับราชการสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน การขอรับคะแนนเพิ่มพิเศษ ในการสอบนักเรียนนายสิบตำรวจส่วนกลาง 

และการขอให้พิจารณาคัดเลือกรับทหารกองประจำการที่ผ่านการฝึกพิเศษซึ่งอาจมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานตำรวจ  เช่น ทหารจากหน่วยรบพิเศษ  หน่วยทหารม้า หน่วยทหารฝึกสุนัขและสัตว์ต่าง เป็นต้น  ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะรับเรื่องไปพิจารณาต่อไป โดยการดำเนินการต่อไป จะจัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อหารือเบื้องต้น ในการขอปรับหลักเกณฑ์หรือการขอคะแนนเพิ่มพิเศษสำหรับทหารกองประจำการ ในการสอบเข้าเป็นข้าราชการพลเรือน และการหารือในเรื่องการศึกษาของทหารกองประจำการ และการดำเนินการอื่นๆ ที่ส่งเสริมสนับสนุนให้บรรลุผลตามเป้าหมายต่อไป

การแก้ไขปัญหายาเสพติด การจัดตั้ง “ศูนย์รักษ์ใจ” แบบที่ 1 (ศูนย์พักคอย) เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตจากยาเสพติดก่อนส่งต่อเข้ารักษาใน รพ. ตามแผนปฏิบัติการลดความรุนแรงของยาเสพติดในระยะเวลา 1 ปี ตามนโยบาย Quick win ของรัฐบาล เพื่อดูแลกลุ่มผู้เสพยาเสพติดกลุ่มเฝ้าระวังสูงและสูงสุด โดยใช้โรงพยาบาลค่ายทหาร 4 แห่ง ได้แก่ 1) โรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี 2) โรงพยาบาลค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา 3) โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และ  4) โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี และได้จัดอบรมเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อดูแลผู้ป่วยไปแล้ว จำนวน 80 ราย รวมถึงยังได้เตรียมการจัดตั้งศูนย์รักษ์ใจ แบบที่ 2 (สถานฟื้นฟูสมรรถภาพ) เพื่อดูแลผู้มีอาการทางจิตจากยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดแล้ว แต่ชุมชน/ครอบครัวยังไม่มีความพร้อมจะรับไปดูแลฟื้นฟูสภาพร่างกายแล้ว โดยในขั้นต้นได้กำหนดสถานที่ไว้ 3 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์รักษ์ใจขอนแก่น กรมทหารม้าที่  7 ค่ายเปรมติณสูลานนท์ 2) ศูนย์รักษ์ใจสกลนคร กรมทหารพรานที่ 22 และ 3) ศูนย์รักษ์ใจร้อยเอ็ด ค่ายประเสริฐสงคราม 

...

การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่น PM 2.5  ในห้วงที่ผ่านมา กอ.รมน.ภาค 3 ได้ดำเนินการบูรณาการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิผล รอง ผอ.รมน. จึงได้สั่งการให้ กอ.รมน.ภาค และ จังหวัด ในพื้นที่อื่น เร่งศึกษาแนวทางการดำเนินการ และขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ ต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล 

...

การบริหารจัดการที่ดินในความครอบครองของกองทัพให้ประชาชนใช้ประโยชน์  รอง ผอ.รมน. ยินดีที่ นรม./ผอ.รมน. จะเป็นประธานมอบสัญญาเช่าให้กับประชาชนในโครงการนำร่องหนองวัวซอโมเดล ใน 19 ก.พ. 67 นี้ ที่จังหวัดอุดรธานี โดยได้ขอบคุณ กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยผลักดันโครงการต้นแบบของกองทัพบกประสบความสำเร็จ พร้อมขอให้ กอ.รมน. ช่วยขยายผลการบริหารจัดการที่ดินในความครอบครองของกองทัพให้ประชาชนใช้ประโยชน์ โดยยึด “หนองวัวซอโมเดล” เป็นต้นแบบ เพื่อให้การใช้ที่ดินของประเทศเกิดประโยชน์สูงสุด ต่อไป

การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ในห้วงที่ผ่านมา กอ.รมน.ภาค 4 ได้ดูแลพี่น้องประชาชนจากเหตุอุทกภัยได้เป็นอย่างดี ขอให้มีการทบทวนการปฏิบัติทั้งในช่วงก่อน ระหว่างและหลังเหตุการณ์เกิดอุทกภัย ศึกษาทางน้ำผ่าน เพื่อเตรียมการรับมือและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที หากเกิดเหตุการณ์ซ้ำ 

...

ทั้งนี้ รอง ผอ.รมน. ได้กำชับให้ กอ.รมน. ช่วยกันขับเคลื่อนงานตามภารกิจและนโยบายเร่งด่วนของ นรม./ผอ.รมน. โดยให้บูรณาการร่วมกับส่วนราชการต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกองทัพ เพื่อร่วมกันระดมสรรพกำลังในการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างสร้างสรรค์ในด้านความมั่นคง และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยประสานการบูรณาการอย่างใกล้ชิดกับ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ