อนุทิน มท.1 นำทีมบุกจับผับผิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา ไม่มีใบประกอบการ พบทิ้งยาเสพติดเกลื่อนพื้น ทั้งยาอี ยาเค ยาไอซ์ แฮปปี้วอเตอร์ นักเที่ยวฉี่ม่วง 122 คน ทำห้องเสพไว้รองรับลูกค้า ใบอนุญาตหมดอายุตั้งแต่ปี 63 


เวลา 02.20 น. วันที่ 10 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง นำเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ร่วมกับ พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ รอง ผบก.น.4, พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.โชคขัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย, น.ส.สุวรรณา ว่องวาณิช ผอ.ส่วนวิเคราะห์ข่าวเฝ้าระวัง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตลาดพร้าว สนธิกำลังการเข้าตรวจผับ SONIC ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. หลังมีเบาะแสว่า ผับดังกล่าวเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ


ขณะเข้าตรวจค้นพบเป็นร้านอาคารสูง 1 ชั้น ภายในเป็นห้องโถงที่มีการจัดวางโต๊ะหรือกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นักเที่ยวชายหญิง 220 คน กำลังเต้นรำดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการหยุดการใช้เครื่องเสียง และประกาศขอตรวจค้นบัตรประชาชนและยาเสพติด โดยกลุ่มนักเที่ยวบางรายพยายามหลบหนีออกด้านนอก แต่กำลังของเจ้าหน้าที่ปิดล้อมไว้ทุกด้าน เมื่อตรวจสอบไม่พบใบอนุญาตประกอบสถานบริการ 

...


จากการตรวจสอบที่บริเวณพื้นร้าน มีการทิ้งยาเสพติดบรรจุอยู่ในซองพลาสติก ยาอี ยาเค ยาไอซ์ และแฮปปี้วอเตอร์ และอุปกรณ์การเสพเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตรวจบัตรประชาชนและตรวจปัสสาวะนักเที่ยวทุกคน 


ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาตรวจสอบการตรวจค้นด้วยตัวเอง กล่าวว่า การตรวจค้นในครั้งนี้ พบนักท่องเที่ยว 220 คน แบ่งเป็นชาย 100 คน หญิง 120 คน และยังพบอีกว่าสถานประกอบการดังกล่าว ใบอนุญาตประกอบการหมดอายุตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 แต่ยังคงลักลอบเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดมาจนถึงปัจจุบัน จากการตรวจค้นภายในร้านพบยาเสพติดหลายประเภท เช่น ยาบ้า ยาอี ไอซ์ เคตามีน Happy water เป็นต้น และยังพบอีกว่าภายในร้านได้มีการจัดพื้นที่ให้ผู้ใช้บริการเข้าไปเสพยาเสพติด โดยห้องดังกล่าวจะเป็นห้องแยกอยู่ในห้องน้ำ ส่วนตัวเลขผู้ติดยาเสพติดนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของ คสช. ที่ 22/2558 โดยหลังจากนี้จะมอบอำนาจให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดการในเรื่องการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป รวมทั้งจะดำเนินการขยายผลไปหาเจ้าของสถานประกอบการที่แท้จริง 

นายอนุทิน กล่าวว่า การบุกจับกุมในครั้งนี้เป็นการตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ คำนึงไว้อยู่เสมอว่า จำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบการ และปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด

สรุปการตรวจค้นผับ SONIC พบนักเที่ยวจำนวน 214 คน พบผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1 คน พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 7 คน จากนั้นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ได้นำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน 122 คน แยกเป็นชาย 76 คน เป็นหญิง 46 คน หากผู้เสพที่สมัครใจเข้ารับการบำบัด ก็จะให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู หากไม่ยอมเข้ารับการบำบัด จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้ 1. เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 3. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ ซึ่งเป็นเหตุผลประกอบการทำคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี.