เมีย จ.ส.อ.ถูกพบเป็นศพขึ้นอืดในบ่อทิ้งขยะในแฟลตสวัสดิการ ทภ.1 หลังหายตัวไปในคืนลอยกระทง ผัวให้การคืนเกิดเหตุต่างคนต่างสังสรรค์กับเพื่อนในแฟลต ตกดึกผู้ตายโทร.ให้ไปดูลูกก่อนหายตัวไปจนกระทั่งพบศพขึ้นอืด ส่วนบ่อทิ้งขยะจุดพบศพปกติปิดล็อกแต่ช่วงนี้เปิดไว้เพราะมีแรงงานต่างด้าวมาซ่อมหลังคาที่ชำรุด ด้านตำรวจยังไม่ฟันธง แต่มีปมสงสัยเพราะจีพีเอสมือถือคนตายก่อนพบศพโผล่แถวถนนบางนา-ตราด มุ่งหน้าปากน้ำ ขณะที่ “ผู้การจ๋อ” ส่งชุดสืบนครบาลร่วมคลี่ปริศนาแล้ว
เมียจ่าทหารตายปริศนาในแฟลตกองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 30 พ.ย. ร.ต.ท.เวทิศ สิงหะ รอง สว. (สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการตกที่สูงภายในแฟลตสวัสดิการข้าราชการทหารกองทัพภาคที่ 1 ถ.พหลโยธิน แขวงสามแสนใน เขตพญาไท กทม. ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุมีรั้วรอบขอบชิด ทางเข้า-ออก มีเจ้าหน้าที่ทหารตรวจสอบตลอดเวลาไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เด็ดขาด ภายในอาคาร ส.2 ทภ.1 สูง 4 ชั้น บนดาดฟ้ามีห้องไม่ได้ล็อกภายในเป็นบ่อทิ้งขยะที่ไม่ได้เปิดให้ใช้งานนานแล้ว มีความกว้าง 3×3 เมตร ปากบ่อกว้าง 3×1 เมตร ลึก 15 เมตร ก้นบ่อพบศพ น.ส.ประกายแก้ว โรจน์ธนวรกุล อายุ 37 ปี ที่อยู่ 64/43 หมู่ที่ 6 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สภาพขึ้นอืดนอนคว่ำหน้าแขนขาหักผิดรูป ใส่เสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋าใบเล็กสีน้ำตาล ไม่ใส่รองเท้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูไม่สามารถโรยตัวลงไปเก็บศพได้เพราะมีความเสี่ยงสูง ต้องใช้เครื่องเจาะคอนกรีตกับกำแพงข้างๆบันไดให้ทะลุเพื่อนำร่างออกมา ตรวจสอบเบื้องต้นร่างกายเริ่มเน่าเปื่อยไม่พบบาดแผล ในกระเป๋าสะพายข้างไม่มีโทรศัพท์มีเพียงถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ใช้งานหลายชิ้น เจ้าหน้าที่นำศพชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
...
เบื้องต้นสามีผู้ตายเป็นทหารยศ จ.ส.อ.พักด้วยกันอยู่ในแฟลตดังกล่าวให้การว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 พ.ย. วันลอยกระทง ตนดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนทหาร ส่วนภรรยาก็ดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนภรรยาทหาร ภายในแฟลตเช่นกัน ตกดึกภรรยาบอกให้ตนกลับห้องพักไปดูลูกก่อนแล้วจะตามไปภายหลัง เวลาผ่านไปนาน ได้พยายามโทร.หาแต่ก็ไม่มีคนรับสาย ตนและกลุ่มเพื่อนช่วยกันตามหาจนเกือบเช้าแต่ไม่พบ ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กระทั่งวันนี้มีคนได้กลิ่นเน่าเหม็นบริเวณบันได ขึ้นไปดูถึงพบเป็นศพซึ่งสถานที่พบศพไม่ใช่แฟลตที่คนตายพัก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นห้องขยะดังกล่าวปกติจะล็อกไว้ตลอด แต่ช่วงนี้มีแรงงานต่างด้าวมาซ่อมหลังคาจึงไม่ได้ล็อก ตำรวจตั้งประเด็นไว้ อาจถูกชิงทรัพย์แล้วฆาตกรรมอำพรางศพ เพราะเมื่อ 2 วันก่อน จีพีเอสมือถือผู้ตายไปสิ้นสุดถนนบางนา-ตราด มุ่งหน้า จ.สมุทรปราการ ก่อนจะหายไป อีกประเด็นผู้ตายอาจไปเคลียร์เงินกับลูกหนี้เพราะให้ยืมเงินแล้วไม่ได้คืนอาจจะถูกฆ่าอำพรางศพ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน
พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ เปิดเผยความคืบหน้าหลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ว่าได้สอบปากคำพยานแล้วนับสิบปาก รวมถึงกลุ่มเพื่อนสามีที่เป็นทหารที่ร่วมวงดื่มเหล้าในคืนวันเกิดเหตุด้วย ขณะนี้ยังสรุปสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้ว่ามาจากปัญหาใด ส่วนประเด็นที่ญาติผู้ตายให้ข้อมูลไว้ว่า เจ้าตัวป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ระยะที่ 3 นั้น ยังไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
ล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบสวนเข้าร่วมคลี่ปมปริศนากับตำรวจท้องที่แล้ว
ขณะที่นายเสฎฐวุฒิ หรือโจ้ โรจน์ธนวรกุล อายุ 31 ปี น้องชาย น.ส.ประกายแก้ว ผู้เสียชีวิต เดินทางมาขอใบบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อนำไปขอรับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา นายเสฎฐวุฒิกล่าวว่า ปกติพี่สาวจะพักอาศัยอยู่ที่แฟลตตึกเดี่ยว ลักษณะเป็นห้องครอบครัว ภายในแยกเป็นห้องพัก 2 ห้อง มีพี่สาว สามีและลูกชายวัย 2 ขวบ พักอยู่ห้องเดียวกัน ส่วนตนจะพักอีกห้อง พี่สาวเปิดร้านขายของชำอยู่ที่ตึกนั้น ส่วนตึกที่พบศพพี่สาวอยู่คนละตึกเรียกว่าตึกคู่ ในอดีตพี่สาวเคยพักอยู่ที่ตึกนี้แต่ย้ายออกมาได้ 2-3 ปีแล้ว ปกติแล้วพี่สาวไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปตึกนั้นอีกทั้งจุดที่พบศพพี่สาวอยู่คนละฝั่งกับห้องที่พี่สาวเคยพักด้วยซ้ำ
น้องชายผู้ตายกล่าวต่อว่า ได้ข้อมูลจากตำรวจพบภาพวงจรปิดเห็นพี่สาวของตนเดินไปที่ตึกนั้น ลักษณะท่าทางปกติ และหันมองออกมาเหมือนว่ามีคนจะเรียกก่อนที่พี่สาวจะหันกลับไปและเดินขึ้นตึกที่เสียชีวิตเหมือนเดิม แล้วจะหายตัวไปและพบเป็นศพในเวลาต่อมา อีกทั้งมีภาพวงจรปิดอีกมุม แสดงให้เห็นว่า พี่สาวออกจากห้องน้ำและหยิบโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อ แต่โทรศัพท์หายไป เชื่อว่าการเสียชีวิตของพี่สาวมีเงื่อนงำและยังติดใจในการเสียชีวิต ไม่เชื่อเป็นการฆ่าตัวตายเชื่อว่าพี่สาวน่าจะถูกฆาตกรรม แต่จะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์หรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะที่แฟลตไม่มีประวัติเรื่องเหตุอาชญากรรมมาก่อน ส่วนประเด็นที่ตั้งข้อสงสัยเป็นการฆาตกรรมเพื่อล้างหนี้หรือไม่ ที่ผ่านมามีคนมาหยิบยืมเงินพี่สาวจริง แต่เป็นจำนวนแค่หลักพันไม่ได้มากมาย บางส่วนก็เป็นเพียงแค่การเซ็นของในร้านชำ อีกทั้งที่ผ่านมาพี่สาวก็ไม่ได้มีอริหรือมีปัญหาใดๆกับใคร รวมถึงพี่เขยด้วย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่