กอ.รมน. จัดประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กำหนดกรอบแนวทางการบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมือง และผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ระยะที่ 2 พ.ศ.2566-2570 มุ่งสู่การดำเนินการอย่างสอดคล้องและเป็นระบบ

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 66 พล.ท.บรรยง ทองน่วม รองเลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมือง และผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ระยะที่ 2 พ.ศ.2566-2570 จัดโดย ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. ในการนี้มีส่วนราชการจากภายในและภายนอกรวม 23 หน่วยงานเข้าร่วม

อาทิ ผู้แทน กอ.รมน. กระทรวงการต่างประเทศ แรงงาน สาธารณสุข กลาโหม วัฒนธรรม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง DSI รวมถึง หน่วยงาน NGO องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ของสหประชาชาติ และองค์การอินเตอร์เนชั่นแนลเรสคิว คอมมิตตี (IRC) รวมถึงส่วนราชการอื่นๆ กว่า 70 คน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมบอลลูม 2 โรงแรมดิไอเดิล เรสซิเดนซ์ จ.ปทุมธานี

...

การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ จัดขึ้นในห้วงระหว่างวันที่ 23-24 พ.ย. 66 โดยมีการบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ในการจัดทำแผนปฏิบัติการ แบ่งกลุ่มอภิปรายเพื่อระดมความคิดเห็น และนำข้อมูลที่ได้มาถกแถลง กำหนดแนวทาง ในการจัดทำแผนปฏิบัติการการบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมือง และผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติฯ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มผู้หลบหนีเข้าเมืองกลุ่มผู้มีปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล กลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย กลุ่มเปราะบางต่อความมั่นคง และกลุ่มอื่นๆ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองเป็นไปอย่างประสานสอดคล้อง โดยผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ซึ่งผลที่ได้จากการประชุมจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงใช้เป็นกรอบแนวทางในการอำนวยการ ประสานงานการบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมืองให้เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ

กอ.รมน. ในฐานะองค์กรหลักในการบูรณาการการป้องกัน และแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองและผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ซึ่งเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ จะนำผลและข้อมูลจากการประชุมในครั้งนี้ รวบรวมจัดทำเป็น(ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมืองและผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2570) โดยผ่านกระบวนการเห็นชอบจากส่วนงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นจึงนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ พร้อมกำหนดเป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป