พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 11 จำนวน 4 ราย ดังนี้ 1.นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) 2.ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 3.นายอรรถพล สังขวาสี ปลัด ศธ. เป็นเลขาธิการ สกศ. และ 4.นายยศพล เวณุโกเศศ รองปลัด ศธ. เป็นเลขาธิการ กอศ.
รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า การให้ว่าที่ร้อยตรีธนุไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กพฐ. เพราะเป็นลูกหม้อและเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กพฐ.มาก่อน ถือว่ามีความคุ้นเคยและมีความรู้ความสามารถเหมาะสมตรงกับเนื้องาน มีประสบการณ์ โดยไม่ต้องไปนั่งเรียนรู้งานใหม่ ส่วนนายสุเทพก็เคยปฏิบัติงานกับสำนักงานปลัด ศธ.มาก่อน จึงมั่นใจว่าจะทำงานประสานเชื่อมโยงกับทุกหน่วยงานได้ ส่วนนายยศพลถือเป็นลูกหม้ออาชีวศึกษาและยังเป็นรองเลขาธิการ กอศ.มาก่อน ขณะที่นายอรรถพลเคยทำงานสภาการศึกษามาแล้วและตนต้องการให้มาทำเรื่อง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติให้สำเร็จ เพราะหากแต่งตั้งคนใหม่ให้ไปทำก็อาจไม่รู้งานดีเท่านายอรรถพลและต้องไปเรียนรู้งานใหม่ ทั้งนี้ จะเชิญผู้บริหารทุกคนมามอบนโยบายเพื่อขับเคลื่อนงานต่อไป
ด้านนายอรรถพลกล่าวว่า ได้สอบถาม พล.ต.อ.เพิ่มพูนถึงสาเหตุการโยกย้ายตนไปเป็นเลขาธิการ สกศ. ได้รับคำตอบว่า ต้องการให้ไปสานต่อเรื่อง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งตนได้บอกกับ รมว.ศธ.ว่า ตนเสียใจและมีความผิดอะไรถึงย้ายตนกลับไปนั่งเลขาธิการ สกศ. โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน บอกกับตนว่าไม่ได้มีความผิดอะไรทั้งนั้น
“ผมขอเวลาคิดดูสัก 2-3 วัน และขอปรึกษาครอบครัวและผู้ใหญ่ที่เคารพก่อนว่าจะไปในทิศทางไหนจะอยู่ต่อหรือลาออก ซึ่งในใจผมกว่า 80% ต้องการที่จะ ลาออก เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมและคิดว่าสภาการศึกษาใครไปนั่งทำงานสานต่อก็ได้และน่าจะเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ แต่ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของ รมว.ศึกษาธิการ ทั้งนี้ ผมถาม พล.ต.อ.เพิ่มพูนด้วยว่า ท่านเคยเป็นจเรตำรวจมาก่อนและเคยถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรมมาก่อน แล้วกลับทำแบบนี้กับผมเหมือนที่ท่านเคยโดนได้อย่างไร ซึ่งท่านไม่ได้ตอบอะไร” ปลัด ศธ.กล่าว
...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายอรรถพลให้สัมภาษณ์ มีบางช่วงที่พูดด้วยเสียงสั่นเครือและมีน้ำตาคลอ.