"บิ๊กจ๊อด" เปิดพระราชวังเดิม ส่งมอบหน้าที่ "ผบ.ทร. ให้ "บิ๊กดุง" พร้อมยิงสลุต 19 นัดเพื่อเป็นเกียรติ ย้ำ 40 ปี ใน ทร. จะยังอยู่ในใจตลอดไป และผบ.ทร. คนที่ 57 ท่านใหม่ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต จึงมีความเชื่อมั่นจะสามารถนำกองทัพเรือก้าวไปข้างหน้า ได้อย่างสง่างาม
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ก.ย. 66 ที่พระราชวังเดิม พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. ท่านเก่า ได้ส่งมอบหน้าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้แก่ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.ท่านใหม่ โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่จากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือเข้าร่วมพิธี ในการนี้กองทหารเกียรติยศได้ทำการยิงสลุต จำนวน 19 นัด บริเวณป้อมวิชัยประสิทธิ์ภายในพระราชวังเดิม เพื่อเทิดเกียรติ ให้แก่ พล.ร.อ.เชิงชาย ก่อนที่จะอำลาชีวิตการรับราชการ
ทั้งนี้ พล.ร.อ.เชิงชาย เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 56 ในขณะที่ พล.ร.อ.อะดุงเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 57 แห่งราชนาวีไทย
...
พล.ร.อ.อะดุง กล่าวเทิดเกียรติแก่ พล.ร.อ.เชิงชาย ว่า "นับตั้งแต่ท่านได้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือและบรรจุเข้ารับราชการ นายทหารเรือ รุ่นพี่ เพื่อน รุ่นน้อง ตลอดจนผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้เคยปฏิบัติงานร่วมกับท่าน ต่างยอมรับในความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์สุจริต ความขยันหมั่นเพียร รวมทั้งความเป็นผู้นำในการปกครองบังคับบัญชา จนได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำสูงสุดของกองทัพเรือ
ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา ท่านได้วางรากฐานสำคัญในการพัฒนากองทัพเรือโดยมุ่งเน้นในการพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อให้นำไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้กับกองทัพเรือ เป็นผลให้กองทัพเรือมีความเจริญก้าวหน้าเป็นที่ยอมรับและศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไป ในวาระที่ ผบ.ทร.ครบเกษียณอายุราชการ กระผมและกำลังพลกองทัพเรือทุกนายต่างรู้สึกระลึกถึงเป็นอย่างยิ่ง เพราะตลอดชีวิตการรับราชการอันยาวนานของท่านนั้น ท่านได้สร้างความดีและทำคุณประโยชน์ให้กับกองทัพเรือและประเทศชาตินานัปการ และขอจดจำคุณงามความดีที่ท่านได้กระทำไว้อย่างมิรู้ลืม รวมทั้งจะยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติราชการสืบต่อไป"
ด้าน พล.ร.อ.เชิงชาย ได้กล่าวในการมอบการบังคับบัญชาให้ผู้บัญชาการทหารเรือ ท่านใหม่ ว่า "ณ ที่แห่งนี้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ผมได้กล่าวรับมอบหน้าที่และการบังคับบัญชาผู้บัญชาการทหารเรือ นับจากวันนั้นผมระลึกอยู่เสมอว่าจะปกครองบังคับบัญชาด้วยความเที่ยงธรรม ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในผลประโยชน์ของกองทัพเรือและธำรงไว้ซึ่งเอกราชอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เพื่อให้กองทัพเรือดำรงอยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ดังเช่นที่เป็นมา
...
วันนี้นับเป็นอีกวาระหนึ่งที่ผมได้กลับมายืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ แต่เป็นวันที่แตกต่าง ด้วยวันนี้ เป็นวันที่ผมจะต้องพ้นจากหน้าที่ไปตามวาระ ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผมดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือได้ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติภารกิจอันสำคัญ ทั้งในด้านการป้องกันประเทศ การคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนการถวายพระเกียรติ และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทหารเรือทุกนายยังคงร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ราชการ อย่างเต็มกำลังความสามารถ
ผมขอขอบคุณเพื่อนข้าราชการ ทหาร พนักงานราชการ และลูกจ้างทุกคน ทุกหน่วย ที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางที่ผมได้ตั้งปณิธานไว้ การปฏิบัติเหล่านี้ล้วนเป็นผลให้กองทัพเรือดำรงอยู่ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ได้รับการยกย่องดังเช่นที่บรรพบุรุษทหารเรือได้สร้างไว้ในอดีต และเป็นกองทัพที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง แม้ว่าวันนี้ ผมจะต้องจากกองทัพเรือไปตามวาระ แต่ความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ ความประทับใจ และความทรงจำที่ดีตลอดเวลายาวนานกว่า 40 ปี ในกองทัพเรือ จะยังคงอยู่ในใจผมตลอดไป สำหรับผู้บัญชาการทหารเรือท่านใหม่ เป็นนายทหารเรือที่มีความรู้ ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่เพื่อกองทัพเรือด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจมาโดยตลอด ผมจึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะสามารถนำกองทัพเรือก้าวไปข้างหน้า ได้อย่างสง่างามเต็มภาคภูมิสืบต่อไป"
...