"ปธ.สภา กทม." เข้าเยี่ยม นร. 5 รายที่บาดเจ็บจากเหตุถังดับเพลิงระเบิด เผยส่วนใหญ่ยังมีปัญหาด้านการได้ยิน และช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมตั้งข้อสังเกต มีการนำถังเก่ามาเวียนใช้ใหม่หรือไม่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 66 นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภา กทม. พร้อมคณะ เดินทางมาที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจนักเรียน 5 รายที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุถังดับเพลิงระเบิดภายในโรงเรียนราชวินิตมัธยม พร้อมเปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ยังมีปัญหาด้านการได้ยิน จากแรงดันของถังดับเพลิงที่มีระเบิดเสียงดังมาก และมีบาดแผลจากการถูกสะเก็ดถังดับเพลิง ทั้งนี้มีแพทย์ได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนสภาพจิตใจทั้งหมดยังอยู่ในภาวะเสียขวัญและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาบอกว่าภาพเหตุการณ์ยังคงติดตา และนักเรียนที่เสียชีวิตก็เป็นเพื่อนร่วมห้องที่เรียนมาด้วยกัน

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมามีเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นเยอะมาก ทางสภา กทม.ชุดนี้ได้พยายามเรียกร้องให้ กทม.จัดซื้ออุปกรณ์ดับเพลิงใหม่มาตลอด ซึ่งรวมถึงถังดับเพลิงด้วย จึงไม่แน่ใจว่าปัจจุบันมีการนำถังดับเพลิงเก่ามาเวียนใช้ใหม่หรือไม่ โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง

...

ขณะที่ นายวิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.บางรัก พรรคเพื่อไทย เดินทางมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บด้วย บอกว่า ถังดับเพลิงที่เกิดเหตุเป็นถังดับเพลิง Co2 ไม่สามารถใช้เกจ์วัดได้ ยกตัวอย่างการอัดก๊าซ Co2 เข้าไปในถัง อย่างถังตัวนี้รับแรงดันได้ 1,800 psi โดยปกติจะอัดก๊าซเข้าไปครึ่งนึงราวๆ 900psi พออัดเข้าไปได้ในอุณหภูมิระดับหนึ่ง เช่น 21 องศาฯ แรงดันจะอยู่ที่ประมาณ 850 psi ถ้ามากไปกว่านั้นเกจ์จะไม่ขึ้นแล้ว เพราะก๊าซที่อัดเข้าไปจะควบแน่นเป็นของเหลว วิธีการวัดจึงไม่สามารถใช้เกจ์ไปติดตั้งได้ ติดไปก็ไม่มีประโยชน์ ต้องใช้การชั่งน้ำหนักวัดปริมาณสารเคมีที่อยู่ในถัง นี่เป็นสาเหตุที่ถังแบบ Co2 ไม่มีเกจ์วัด  

อีกจุดที่น่ากังวลก็คือการเติม เพราะตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบว่าถังที่เกิดเหตุเป็นถังใหม่ และตอนไปเติมก๊าซเติมมาแค่ไหน ทางร้านมีหลักฐานยืนยันไว้หรือไม่ ตรงนี้ยังต้องไปตรวสอบสาเหตุเพิ่ม ส่วนถังที่อยู่กลางแดดก็มีส่วนทำให้แรงดันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ตรงนี้ในชั้นของคณะกรรมการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย ผมจะรวบรวมพยานหลักฐานยื่นมติต่อสภา ขอให้ กทม.ตรวจสอบอุปกรณ์ป้องกันภัยใหม่ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะเหตุที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ต้องเร่งหาสาเหตุและถอดบทเรียนเพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก.