คณบดีแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เผยผู้บาดเจ็บจากเหตุถังดับเพลิงระเบิดทั้ง 5 รายปลอดภัยแล้ว ขณะที่ผลชันสูตรน้องเบนซ์ สาเหตุการตายมาจาก แผลฉีกขาดขนาดใหญ่บริเวณหน้าอก ทำอวัยวะภายในฉีกขาด โดยมีบาดเจ็บรวม 21 ราย กลับบ้านได้ 12 ราย และนอน รพ. ดูอาการ 9 ราย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. 2566 ที่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เปิดเผยอาการของนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุถังดับเพลิงระเบิดที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม ว่า รพ.วชิรพยาบาล รับ ผู้บาดเจ็บ 5 ราย มาที่โรงพยาบาลช่วงเวลา 12.06 น. ผู้บาดเจ็บรายที่ 1 เป็นนักเรียนชายอายุ 16 ปี มาด้วยอาการปวดไหล่ขวา ผู้บาดเจ็บรายที่ 2 เป็นนักเรียนชายอายุ 17 ปี มาด้วยอาการเจ็บฝ่ามือขวา และถลอกหน้าแข้งขวา ผู้บาดเจ็บรายที่ 3 นักเรียนชายอายุ 18 ปี มาด้วยอาการปวดหู ผู้บาดเจ็บรายที่ 4 เป็นนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี มาด้วยอาการปวดศีรษะ เจ็บคอร้าวไปที่แขนซ้าย ผู้บาดเจ็บรายที่ 5 เป็นนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี มาด้วยอาการปวดหู

คณบดีแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ผู้บาดเจ็บทั้งห้ารายได้รับการดูแลรักษาจาก รพ.วชิรพยาบาล ได้รับอาการบาดเจ็บไม่รุนแรง จะไม่ส่งผลให้มีอาการหูดับในอนาคต แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนี้มีอาการคงที่ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และพยาบาลดูแลสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้มีการพูดคุยกับผู้บาดเจ็บบางส่วนเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต ยังคงมีอาการตกใจ ทีมแพทย์ได้มีการส่งจิตแพทย์ เข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ส่วนค่ารักษาพยาบาล รพ.วชิรพยาบาล ได้มีการดูแลในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด

ผศ.นพ.จักราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้เสียชีวิต เป็นนักเรียนชายอายุ 18 ปี คือ นายขุมทอง เปรมมณี หรือ น้องเบนซ์ ชั้น ม.6 เสียชีวิตที่เกิดเหตุ โดยแพทย์นิติเวชได้มีการผ่าชันสูตรศพเบื้องต้น พบว่า พบอาการบาดเจ็บมีร่องรอยบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณกระดูกต้นแขน และมีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่บริเวณหน้าอก พร้อมกับมีอวัยวะภายในทรวงอกฉีกขาด ระบุเป็นสาเหตุให้ถึงแก่ชีวิต

...

ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมายังโรงพยาบาลวชิรพยาบาล พร้อมเปิดเผยว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 21 คน กลับบ้านไปแล้ว 12 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 9 คน แบ่งเป็น อยู่ที่ รพ.กลาง 4 คน รพ.วชิระพยาบาล 5 คน โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดอยู่ในโซนสีเขียว ไม่มีอาการสาหัส จะมีเพียงแค่ หูอื้อเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นแก้วหูอักเสบ และบาดเจ็บที่ข้อมือเล็กน้อย ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากนี้ ยังได้ส่งทีมนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลสภาพจิตใจเด็กๆ เพราะหลายคนยังตกใจส่วนใหญ่จะเป็นคนใกล้ชิดกับเหตุการณ์

ส่วนถังดับเพลิงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตนเช็กข้อมูลและพูดคุยกับทาง ปภ. ได้รับรายงานว่าตามระเบียบการดูแลรักษาหากตามมาตรฐาน จะมีการตรวจทุก 5 ปี การตรวจจะเป็นการฉีดแรงดันน้ำเข้าไป เพื่อตรวจสอบ แต่สำหรับชุดถังดับเพลิงที่นำมาสาธิตนั้น จะต้องไปตรวจสอบประวัติว่าได้มาตราฐาน หรือไม่ มีการทดสอบหรือไม่.