“บิ๊กเด่น” สั่งการตำรวจทั่วประเทศปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ย้ำห้ามเกียร์ว่าง ปัญหาใหญ่อยู่ที่อุปกรณ์ไม่เพียงพอโดยเฉพาะกล้องบันทึกภาพ-เสียงระหว่างเข้าควบคุมตัว ฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลเพราะต้องเก็บไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ตำรวจประชุมร่วมกระทรวงยุติธรรม ออกระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ว่าด้วยการบันทึกภาพและเสียงขณะจับและควบคุมฯ พ.ศ.2566 ขณะที่อัยการเจอปัญหาเดียวกัน อุปกรณ์การปฏิบัติไม่เพียงพอ แต่ยันสามารถทำงานได้ทันที เปิดศูนย์รับแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐอุ้ม ซ้อม ทรมาน อัยการพร้อมให้คำปรึกษา 24 ชม.แล้ว

กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อขยายเวลาการมีผลใช้บังคับเฉพาะมาตรา 22-25 ออกไป ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 172 วรรค 1 ทำให้ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ไม่มีผลบังคับใช้มาแต่ต้น มีผลให้ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ ทันที

ความคืบหน้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 พ.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เผยความพร้อมการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้กลับมาใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 หรือ“พ.ร.บ.อุ้มหาย” เรียกประชุมตั้งแต่เมื่อวานนี้ วันนี้กำชับอีกรอบแม้อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้มีไม่พอ พยายามหมุนเวียนใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด วันนี้กระทรวงยุติธรรมจะเชิญไปประชุมเรื่องการเตรียมออกระเบียบกลาง แต่ถือว่าระเบียบยังไม่ออก ตำรวจจะวางแนวทางไปพลางก่อน เพื่อให้ปฏิบัติได้ไม่ผิดกฎหมาย จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดภายใต้ปัจจัยที่มี

...

ถามถึงกรณีอุปกรณ์ไม่เพียงพอจะส่งผลกระทบหรือไม่ เพราะผู้ต้องหาอาจใช้เป็นข้อต่อสู้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จะทำงานให้ดีที่สุด เรื่องนี้ถือว่ายังไม่มีข้อบกพร่องอะไร ให้ ผบช. ผบก. หัวหน้าสถานีลงไปกำกับดูแลการปฏิบัติให้เป็นไปตาม เจตนารมณ์หรือตามกฎหมายที่ออกมา หลักการ พ.ร.บ.อุ้มหาย ไม่อยากให้มีการทำอะไรที่ไม่ดี เวลาจับกุมควบคุมตัวไม่ให้ซ้อมทรมานหรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่ขั้นตอนที่เป็นปัญหาการปฏิบัติ โดยเฉพาะผู้จับกุมคือ การบันทึกภาพและเสียงขณะจับกุมควบคุมตัว ตำรวจมี 2 แสนกว่านาย อุปกรณ์ที่จัดซื้อไว้หลายปีที่ผ่านมาประมาณ 120,000 ชุด พยายามพัฒนางานตำรวจมาตลอดแต่ชำรุดไปพอสมควร แต่เมื่อมี พ.ร.บ.นี้ออกมา อยู่ระหว่างจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม ขณะนี้เป็นไปในลักษณะเวียนใช้กันไปก่อน

ถามว่าสิ่งที่ตำรวจปฏิบัติอยู่ปัจจุบันมีอะไรที่ขัดกับ พ.ร.บ.ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า พ.ร.บ.นี้มีขั้นตอนออกมาจำนวนมาก กรณีจับกุมต้องบันทึกภาพและเสียงการควบคุมตัว การแจ้งต่อฝ่ายปกครอง อัยการ วิธีการแจ้งและการทำบันทึกการแจ้ง การเก็บข้อมูลต่างๆมีขั้นตอน ส่วนการเก็บข้อมูลบันทึกภาพและเสียงต้องถึงคดีสิ้นสุดหรือขาดอายุความ ต้องมีหน่วยจัดเก็บจำนวนมากเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พยายามทำงานให้เป็นไปตามกฎหมายไม่ให้เกิดข้อบกพร่อง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวด้วยว่า กฎหมายระบุว่า เมื่อจับกุมและควบคุมตัวต้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวตลอดเวลา ส่วนการจับเก็บข้อมูลภาพที่บันทึกให้ใช้คอมพิวเตอร์โรงพักไปพลางก่อน อยู่ระหว่างจัดอุปกรณ์ (ฮาร์ดดิสก์) เพิ่มเติม จะมีมากขึ้นช่วงเดือน ส.ค. เน้นย้ำไปแล้วให้ตำรวจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดอย่าใส่เกียร์ว่าง ส่วนระเบียบกลางยังไม่ได้ซักซ้อมให้ครบ ต้องแจ้งผ่านศูนย์ โทรศัพท์ อีเมลแทนระบบอิเล็กทรอนิกส์ วันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประชุมร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เตรียมออกระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ว่าด้วยการบันทึกภาพและเสียงขณะจับและควบคุมฯ พ.ศ.2566 ระหว่างระเบียบยังไม่เสร็จ ตำรวจจะวางแนวทางปฏิบัติให้ถูกกฎหมาย ยังไม่พบข้อบกพร่องใดที่ผู้ต้องหาจะนำมาเป็นช่องโหว่ของกลไกรัฐไปต่อสู้ทางคดี

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าก่อนหน้านี้ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด มีบัญชาเรื่องการอบรมให้ความรู้ จัดบุคลากรเพื่อเข้าเวร แม้ก่อนหน้านี้จะมีบางส่วนชะลอการบังคับใช้ แต่บุคลากรของอัยการพร้อมแล้ว รับเรื่องที่บัญญัติตามกฎหมายมาบางส่วน ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างไรอัยการพร้อมทำงาน ส่วนเรื่องอุปกรณ์และบุคลากรก่อนหน้านี้ขอสนับสนุนงบประมาณไปแล้ว ยังได้รับไม่ครบถ้วน ต้องจัดสรรเเชร์กันไปก่อนเพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะอัยการถือว่าหน้าที่คุ้มครองดูแลประชาชนให้เสมอภาคและเท่าเทียมกันตามกฎหมายเป็นหน้าที่หลักต้องทำให้ดีที่สุด นอกจากศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เบอร์ติดต่อศูนย์รับแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐอุ้ม ซ้อม ทรมาน อัยการพร้อมทำงาน 24 ชม. โทร.0-2434-8325-27 ต่อ 601-605 อัยการยังมีศูนย์คุ้มครองสิทธิช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายสายด่วน 1157 ทั้ง 2 ศูนย์จะประสานงานกันได้

นายโกศลวัฒน์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีอัยการเข้าเวรรับเรื่อง 24 ชม. มีเรื่องร้องเรียนเข้าเกณฑ์บางส่วน ส่วนการประสานงานหรือนัดประชุมกับหน่วยงานอื่นเป็นเรื่องที่เราต้องประสาน และพร้อมให้ความช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาให้หน่วยงานภาครัฐ หากยังสงสัยประเด็นทางกฎหมาย อัยการยินดีช่วยเหลือให้คำปรึกษาและให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ถ้าติดขัดตรงไหนเราจะประชุมปรึกษาหารือข้อติดขัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

“เดิมเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกยังขาดอุปกรณ์คงสถานะเดียวกับอัยการยังไม่มีอุปกรณ์ปฏิบัติครบถ้วนตามกฎหมาย แต่เราจะนำสิ่งที่มีอยู่มาทำงานกันไปให้ได้ก่อน แล้วขอสนับสนุนงบจากภาครัฐเพื่อทำตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ ในชั้นนี้ถ้ามีอะไรอัยการพร้อมร่วมมือเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคการปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะศาลรัฐธรรมนูญบอกให้ใช้ทุกมาตราแล้ว การรายงานการจับกุม บันทึกภาพเสียง ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย แต่ถ้ามีอุปสรรคให้หารือมา เราจะให้คำแนะนำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา” รองโฆษก อสส.กล่าว

...