ศาลสั่งจำคุกสาวคนสนิท “บรรยิน ตั้งภากรณ์” อ่วม คดีโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง มูลค่า 300 ล้านบาท เข้ากระเป๋า เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน หลังทั้ง 2 ยอมให้การรับสารภาพ “ป้อนข้าว” โบรกเกอร์สาวถูกศาลสั่งจำคุก 40 ปี ลดโทษ เหลือ 20 ปี ส่วน “น้ำตาล” พริตตี้สาวผู้ร่วมขบวนการ ศาลสั่งจำคุก 14 ปี ลดโทษเหลือ 7 ปี ส่วน “บรรยิน” ตัวการและผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ให้การปฏิเสธ ศาลให้ ดำเนินการพิจารณาในเลขคดีใหม่
ศาลตัดสินจำคุกสาวคนสนิทนายบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เปิดเผยขึ้นที่ห้อง พิจารณา 711 ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ธ.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่ ฟ.33/2565 พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษเป็นโจทก์ฟ้องนายบรรยิน อดีต พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นจำเลยที่ 1 น.ส.วัชรียา วัชรประยงค์วุฒิ หรือ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์สาว เป็นจำเลยที่ 2 น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือน้ำตาล อดีตพริตตี้คนโอนเงิน เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.ศรีธรา พรหมมา แม่ น.ส.อุรชา เป็นจำเลยที่ 4 และนายประวีร์ วัชรประยงค์วุฒิ น้องชาย น.ส.อุรชา เป็นจำเลยที่ 5 ตามลำดับ ความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินฯตามสำนวนการสอบสวนของ ปปง.
กรณีพวกจำเลยร่วมกันฟอกเงินจำนวน 300 ล้านบาท หลายครั้งหลายหน ที่ได้มาจากการโอนหุ้น ของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อันนำไปสู่การฆาตกรรมนายชูวงษ์ และเป็นมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน แล้วยักย้ายถ่ายเทไปซื้อทรัพย์สิน ต่อมา ปปง.ทำการ สอบสวน ฟ้องในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ต่อมา ศาลชั้นชี้สองสถาน ศาลจะสอบถามจำเลยทั้ง 5 ว่า ให้การรับสารภาพ หรือปฏิเสธ ซึ่งจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพ
ศาลจึงดำเนินคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ส่วนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 5 ให้การ ปฏิเสธศาลจึงจำหน่ายคดีแยกไปฟ้องต่อไป
คดีนี้ศาลสอบคำให้การจำเลยแล้วปรากฏว่า น.ส.วัชรียา หรือ น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์ สาว จำเลยที่ 2 และ น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล อดีต พริตตี้สาว จำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดี
...
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงิน 2542 มาตรา 5 (1) (2) (3) และมาตรา 60 การกระทำของจำเลยที่ 2 และ 3 เป็นการกระทำหลาย กรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 ปี น.ส.วัชรียาจำเลยที่ 2 กระทำผิดตามฟ้องจริง 20 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 40 ปี จำเลยให้การสารภาพมีประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 20 ปี
ส่วน น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล จำเลยที่ 3 กระทำผิดตามฟ้อง 7 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 14 ปี คำสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 7 ปี ให้นับโทษจำคุก ของจำเลยที่ 2 และ 3 ต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดง ที่ อ 636/2563, อ 637/2563 และ อ 638/2563 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ เกี่ยวกับคดีปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายบรรยิน จำเลยที่ 1 น.ส.ศรีธรา จำเลยที่ 4 และนายประวีร์ จำเลยที่ 5 ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ศาลจึงให้พนักงานอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีเข้ามาใหม่เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟ.44/2565 เพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไป
สำหรับนายบรรยินขณะนี้ยังคงถูกคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวาง คดีฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เพื่อนสนิท โดยจัดฉากเป็นอุบัติเหตุเมื่อปี 2558 ญาติของนายชูวงษ์เข้าร้องเรียนตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยรื้อคดีที่นายชูวงษ์เสียชีวิตปริศนา ขณะนั่งใน รถยนต์เลกซัส แอลเอ็กซ์ 470 สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ที่มี พ.ต.ท.บรรยินเป็นคนขับ และอ้างว่า เกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ตรงข้ามซอย 61 ถนน เฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ