"รมว.ยุติธรรม" จับมือ "ผู้ว่าฯ กทม." บูรณาการ 3 ข้อสำคัญ "ลอกท่อ-ปราบยาเสพติด-ศูนย์ไกล่เกลี่ย" ชงจ้างงานผู้ต้องขังลอกท่อยาว 8 ปี "ชัชชาติ" ปลื้ม ยธ.ช่วยชีวิต-ทำความสะอาดท่อลดน้ำท่วมเมืองกรุง ชวน "สมศักดิ์" ลงชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯ กทม.บ้าง หลังเป็น รมต.หลายสมัย
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.65 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ระหว่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และผู้บริหารหน่วยงาน เข้าร่วม
โดย นายชัชชาติ กล่าวว่า เมื่อตนเข้ามารับตำแหน่ง นายสมศักดิ์ ได้เข้ามาช่วยเหลือเสมือนเป็นการช่วยชีวิต ที่เสนอตัวส่งผู้ต้องขังออกมาทำความสะอาดลอกท่อระบายน้ำในช่วงที่กำลังจะเกิดฝนตกหนัก ซึ่งช่วยให้ กทม.มีพื้นที่น้ำท่วมขังน้อยลง รวมถึงยังได้รับคำชื่นชมจากประชาชนว่า ผู้ต้องขังทำงานลอกท่อระบายน้ำได้อย่างเรียบร้อยและเห็นผลชัดเจน โดยหลังจากนี้ทั้ง 2 หน่วยงาน ก็จะเกิดความร่วมมืออีกหลายด้าน ทั้งการแก้ปัญหายาเสพติด การไกล่เกลี่ยหนี้สิน ซึ่งตนขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ความร่วมมือจนเกิดประโยชน์กับประชาชนเป็นอย่างมาก
...
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมีความศรัทธา นายชัชชาติ มาตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม เพราะตนเคยยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือให้ชาวสุโขทัย ซึ่งก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และยังได้สร้างความประทับใจอีกหลายเรื่อง ส่วนการส่งผู้ต้องขังออกมาลอกท่อนั้น ตนก็มีข้อตกลงให้ว่าถ้าวันไหน กทม.มีเงินจ้างเราไม่พอก็จะทำให้ก่อน หรือถ้าเกิดน้ำท่วมเร่งด่วนก็จะออกมาทำให้ฟรี ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนด้วย แต่ตนก็ขอให้ผู้ว่าฯ กทม.จ้าง กรมราชทัณฑ์ ยาว 8 ปีเลย เพราะจะให้กลับมาเป็นอีกสมัย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ เพราะจะเป็นอีกกลไกในการร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชน ที่กำลังประสบปัญหาเกิดข้อพิพาท ซึ่งขอขอบคุณกรุงเทพมหานคร ที่ได้ร่วมมือกับกรมคุ้มครองสิทธิฯ จัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ย ครบทั้ง 50 เขตแล้ว เพื่อเป็นหน่วยให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รวมถึงช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม โดยปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมได้ผลักดันให้เกิดศูนย์ไกล่เกลี่ยทั่วประเทศแล้ว จำนวน 1,237 แห่ง ซึ่งอยู่ใน กทม.ถึง 305 แห่ง ดังนั้น การลงนามร่วมกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับประชาชนเป็นอย่างมาก
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้หารือร่วมกัน นายชัชชาติ ถึงการบริหารงาน ทั้งการส่งเสริมให้ผู้ต้องขังลอกท่อระบายน้ำ และการแก้ปัญหายาเสพติด โดย นายสมศักดิ์ ได้ขอให้ผู้ว่าฯ กทม.ทำสัญญาจ้างกรมราชทัณฑ์ให้ยาวขึ้น เพื่อง่ายต่อการบริหาร เพราะถ้ามีการจ้างงานต่อเนื่อง ก็จะทำให้มีเครื่องมือที่พร้อม และถ้าช่วงไหนเกิดน้ำท่วมตนก็จะให้ผู้ต้องขังออกมาช่วยทันที
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังได้ขอให้ผู้ว่าฯ กทม.ช่วยประชาสัมพันธ์กับชาว กทม.เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดว่า ถ้าใครมีเบาะแสผู้ค้ายาเสพติด ก็ให้แจ้ง ป.ป.ส. 1386 เพื่อช่วยกันปราบปรามยาเสพติด โดยคนที่แจ้งเบาะแสจะได้รับรางวัลนำจับ 5% ของทรัพย์ที่ยึดได้ด้วย ซึ่งในอดีตกว่าจะยึดทรัพย์ได้นั้นต้องใช้เวลากว่า 8 ปี แต่ปัจจุบันหลังมีกฎหมายใหม่แล้วใช้เวลาเพียง 1-2 ปีเท่านั้น ซึ่งถ้าทุกคนช่วยกันแจ้งและนำไปสู่การยึดทรัพย์อีกทาง ก็จะยิ่งช่วยให้ยาเสพติดนั้นหมดไปเร็วยิ่งขึ้น
...
ด้าน นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องลอกท่อระบายน้ำนั้นไม่มีปัญหา ซึ่งผู้ต้องขังทำงานได้เป็นอย่างดีไม่ล้าช้า โดยเวลาทำงานก็มักจะมีประชาชนนำอาหารมาให้ เพื่อเป็นการชื่นชม ที่ได้ออกมาทำความดีและช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้น ทาง กทม.ก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็จะเร่งขับเคลื่อนให้ไปในทิศทางเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายชัชชาติ ได้แซว นายสมศักดิ์ อย่างอารมณ์ดีว่า ขอชักชวนให้มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.บ้าง หลังเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง ทำให้ นายสมศักดิ์ ตอบกลับว่า รอ นายชัชชาติ ไปตั้งพรรคเป็นนายกฯก่อน แล้วตนจะมาสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.ให้ ซึ่งภายหลัง นายสมศักดิ์ ได้ตอบกลับก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับทั้งห้องแถลงข่าว