มูลนิธิวอชด็อกฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยหมาแมวถูกทิ้งในบ้านย่านหทัยราษฎร์ นับ 100 ตัว สลดเจอซากแมวในตู้เย็น กินซากกันเองเพื่อเอาชีวิตรอด ด้านเจ้าของบอกเสียใจ เลี้ยงไม่ไหว

วันที่ 5 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ ระบุว่า สุดสลด เมื่อกลุ่มคนเปิดเพจรับบริจาคปล่อยหมาแมวตายป่วยอดอาหารตายคากรงกัดกินซากกันเอง ซึ่งระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในซอยหทัยราษฎร์ 39

ล่าสุด มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว ได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รอบบ้านเต็มไปด้วยขยะ และซากต้นไม้ใบไม้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปรึกษาหาทางช่วยสุนัขที่อยู่ในบ้านนั้น มี นายสุพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี แสดงตัวเป็นพ่อเจ้าของบ้าน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ชายคนดังกล่าวเซ็นมอบอำนาจเพื่อจะเปิดเข้าไปในบ้าน โดยทางชายคนดังกล่าวก็ยินยอมและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ตรวจสอบภาพในบ้าน พบว่า สภาพรก และมีซากแมวตายอยู่เป็นบางจุด มีกรงขนาดใหญ่ 3-4 กรง อยู่กลางบ้าน โดยที่มีแมวอยู่ภายใน ภายในบ้านพบตู้เย็น 1 ตู้ โดยมีซากแมวแช่ไว้ในตู้เย็นนับ 10 ตัว สภาพแมวแต่ละตัวผอมเหลือแต่กระดูก โดยภายในบ้านพบสุนัข 3 ตัว ผอมเหลือแต่กระดูกเช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงรีบทยอยนำสุนัขและแมวออกมาทีละตัวเพื่อมาปฐมพยาบาลและดูอาการว่าป่วยด้วยโรคใดหรือไม่ เพื่อคัดแยกไปทำการรักษา

...

นายสามารถ ชำนิไกร อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัย 4 ขาสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ภายในบ้านมีขยะเยอะ และสัตว์ที่พบผอมทุกตัว ซึ่งแมวแต่ละตัวถูกขังอยู่ตามห้อง มีทั้งอยู่ในกรงและนอกกรงทั่วบ้าน ซึ่งแต่ละตัวผอมมาก และยังพบซากแมวตามพื้นและแช่อยู่ในตู้เย็น ซึ่งตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่ามีซากแมวทั้งหมดมีกี่ตัว และเหลือแมวที่มีชีวิตอีกกี่ตัว

ด้าน นายสุพล เปิดเผยว่า ลูกสาวของตนได้นำแมวมาเลี้ยงนานนับ 10 ปี ก่อนที่จะซื้อบ้านหลังนี้ โดยบ้านหลังนี้ซื้อไว้ให้แมวและหมาอยู่ ซึ่งลูกสาวเปิดเพจรับดูแลและรักษาหมาแมวที่ป่วย พิการ ถูกรถชน รวมถึงหมาแมวจร โดยออกค่าใช้จ่ายในการรักษาแต่ละตัวมากที่สุดคือ 300,000 บาท โดยตนก็ไม่รู้ว่าแมว หมา ทั้งหมดในบ้านมีประมาณกี่ตัว 

นายสุพล เผยต่อว่า เมื่อก่อนลูกสาวมีรายได้ต่อเดือนนับแสนบาท จึงพอมีกำลังที่จะเลี้ยงหมาแมว แต่พักหลังลูกสาวไม่มีรายได้ จึงไม่สามารถดูแลหมาแมวที่รับบริจาคมาได้ และปล่อยให้สภาพเป็นแบบนี้ ซึ่งลูกสาวก็เสียใจมากเช่นกัน เพราะเคยสัญญาว่าทั้งชีวิตจะมีแค่หมาและแมวเท่านั้น นอกจากนี้ลูกยังเคยแจ้งไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็เงียบไป

ขณะที่ ตัวแทนมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ทางมูลนิธิเห็นภาพจากเฟซบุ๊กจึงลงพื้นที่ และตัดสินใจรับแมวและหมาทั้งหมดไว้ดูแลที่มูลนิธิเขาแม่แตงที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสภาพน้องหมาน้องแมว ที่เห็นน่าจะอดอาหาร และมีบางตัวเจ็บป่วย ตอนนี้ยังนับจำนวนไม่ได้ว่ามีกี่ตัว ซึ่งทุกตัวจะได้นำตัวไปโรงพยาบาลสัตว์ที่ทางมูลนิธิประสานงานอยู่ทำการรักษาเบื้องต้น ก่อนที่จะนำทุกตัวเดินทางไปเชียงใหม่ ส่วนตัวที่เสียชีวิตจะได้นำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป.

ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT