สืบสวนนครบาลนำกำลังร้อยกว่านายบุกตรวจค้นสถานบันเทิงจินหลิง ย่านสาทร ลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาตผงะนักเที่ยวทั้งหมด 266 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนกระจายอยู่ในห้องคาราโอเกะที่ตกแต่งด้วยจอแอลอีดีคล้ายยานอวกาศมากกว่า 20 ห้อง แต่ละห้องยาเสพติดนานาชนิดเกลื่อนพื้น แฉทางร้านขายเอง พร้อมบริการรับฝากยาเสพติดที่เสพไม่หมดอีกด้วย นอกจากนี้ยังยึดรถหรูอีก 35 คัน อาทิ โรลส์รอยซ์ ปอร์เช่ เบนซ์ รถตู้อัลพาร์ด พบบางคันสวมทะเบียน ส่วนผลตรวจฉี่พบสีม่วง 104 ราย ประสานทูตจีนตรวจสอบประวัติรายตัว พบเพิ่งเปิดได้ 4 เดือน ไม่รับนักเที่ยวคนไทย ด้าน ผบก.น.6 สั่งเด้ง ผกก.สน.ยานนาวา สังเวยคาราโอเกะเถื่อนทันควัน
สืบสวนนครบาลทลายคาราโอเกะเถื่อนชาวจีนสุดหรูกลางกรุงครั้งนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 26 ต.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นิติธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจค้นอาคารจินหลิง อาคาร LEELA เลขที่ 60-60/1 ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ หลังพบลักลอบเปิดสถานบันเทิง และค้ายาเสพติด
สถานที่ดังกล่าวเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ รั้วรอบขอบชิด ด้านหน้าเปิดเป็นคาร์แคร์ชื่อ WIB WUB CAR WASH มีประตูเหล็ก พร้อมกล้องวงจรปิดดูความเคลื่อนไหวภายนอก เมื่อเปิดเข้าไปพบประตูเหล็กอีกชั้นปิดล็อกแน่นหนา เปิดเข้าไปพบอาคารชั้นเดียวมีชื่อภาษาจีนและภาษาไทยชื่อจินหลิง และอาคาร LEELA รอบอาคารเป็นลานจอดรถ มีรถหรูหลายยี่ห้อจอดเรียงกันกว่า 30 คัน อาทิ โรลส์-รอยซ์ ปอร์เช่ เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู โตโยต้าอัลพาร์ด ส่วนในอาคารแบ่งเป็นห้องคาราโอเกะเกือบ 20 ห้อง ประดับไฟแสงสีและจอแอลอีดีบริเวณทางเดินคล้ายอยู่ในยานอวกาศ ค่าตกแต่งห้องละกว่า 10 ล้านบาท แต่ละห้องพบนักเที่ยวทั้งชายและหญิงจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ยาเสพติดพร้อมอุปกรณ์การเสพเกลื่อนห้อง อีกทั้งยังพบห้องเก็บของที่ใช้สำหรับเก็บยาเสพติดชนิดเคตามีน แฮปปี้วอเตอร์ หลายร้อยซอง ขณะเข้าตรวจค้น คนดูแลห้องพยายามทำลายหลักฐานแต่ไม่หมดเพราะมีจำนวนมาก
...
หลังควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.ต.นิติธร เปิดเผยว่า สถานที่แห่งนี้เปิดเป็นสถานบริการ ร้านคาราโอเกะ ให้บริการกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้แก่ลูกค้า จัดสถานที่ให้มั่วสุมยาเสพติดและให้บริการรับฝากยาเสพติดที่ใช้เสพไม่หมด จัดให้มีการเล่นพนันกันอย่างไม่เกรงกลัวต่อเจ้าหน้าที่และกฎหมาย ตำรวจได้ขอหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 283/2565 ลงวันที่
25 ต.ค.65 เข้าตรวจสอบ นำกำลัง 100 กว่านายปิดล้อมตรวจค้น ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวและพนักงานวิ่งหลบหนีไปซุกซ่อนตามจุดต่างๆในอาคาร เบื้องต้นพบกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีน 200 กว่าคน นอกจากนั้นยังพบพนักงานชาวกัมพูชา และชาวไทยในบริเวณอาคารดังกล่าวอีกเกือบ 30 คน นำตัวทั้งหมดไปดำเนินคดีที่ สน.ยานนาวา
รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า ตรวจสอบพบว่ามีการจำหน่ายยาเสพติดในสถานบันเทิงแห่งนี้ในราคาซองละ 10,000 บาท และยึดรถหรูกว่า 30 คัน เจ้าของรถเป็นชาวจีน บางคันมีการสวมทะเบียน จะตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีส่วนร่วมรู้เห็นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือมีพฤติการณ์เข้าข่าย พ.ร.บ.การฟอกเงิน หรือไม่ เบื้องต้นทราบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้เปิดมาได้ 4 เดือน เน้นรับเฉพาะลูกค้าชาวจีน ส่วนคนไทยและชาวกัมพูชาส่วนใหญ่เป็นพนักงานร้านและบอดี้การ์ดติดตามของลูกค้าชาวจีน ตำรวจทราบว่าเจ้าของกิจการเป็นชาวจีนเช่นเดียวกัน ชุด บก.สส.บช.น.ใช้เวลาสืบสวนกว่า 1 เดือน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนสืบสวนขยายผล
มีรายงานว่า นายสิทธิพงษ์ ถือสัตย์เที่ยง มาแสดงตัวให้การว่าเป็นผู้ดูแล และนายไฮเทา หวง อายุ 39 ปี ชาวจีน จับกุมได้ขณะวิ่งหลบหนีเข้าไปในห้องคลังสินค้านำยาเสพติดไปซุกซ่อน สอบสวนนายไฮเทารับสารภาพว่า รับยาเสพติดมาจากพัทยา จ.ชลบุรี มาขายตามห้องคาราโอเกะ ยาเคกรัมละ 25,000 บาท แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาอี, เอ็กซ์ตาซี, เฮโรอีน) วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 (ยาเคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายเพื่อการค้า นำตัวส่ง สน.ยานนาวา ดำเนินคดี
ส่วนบรรยากาศที่ สน.ยานนาวา ตั้งแต่ช่วงเช้าพบว่า มีการเตรียมข้าวกล่องและน้ำไว้ให้ผู้ต้องหาที่จะต้องถูกดำเนินคดีประมาณ 100 ชุด นอกจากนี้ยังระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยเข้ามาดูแลการควบคุมตัวผู้ต้องหา ต่อมา ร.ต.อ.สมยศ บุญณะแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สน.ยานนาวา ประสานขอสนับสนุนรถควบคุมผู้ต้องหาจากโรงพักใกล้เคียง สังกัด บก.น.6 จำนวน 35 คัน นำผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้งสิ้น 266 คน ไปส่งตรวจร่างกายคัดแยกสารเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ก่อนนำตัวทั้งหมดกลับมาที่ สน.ยานนาวา ควบคุมไว้ที่ชั้น 3 ของโรงพัก รวมถึงตรวจยึดของกลางอีกหลายรายการจากสถานที่เกิดเหตุนำมาเก็บรักษาไว้ที่โรงพักด้วย
มีรายงานว่า ระหว่างที่รถควบคุมผู้ต้องหาทยอยพากลุ่มผู้ต้องหากลับมาจากสถาบันธัญญารักษ์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนที่ สน.ยานนาวา กลุ่มผู้ต้องหาชายชาวจีนหลายคนมีพฤติกรรมก้าวร้าวไม่เหมาะสม สูบบุหรี่บนรถควบคุมผู้ต้องหาและสาดน้ำใส่ช่างภาพ-ผู้สื่อข่าว ที่ไปรอรายงานสถาน การณ์ภายในโรงพักด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าห้ามปราม แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมหยุดพฤติกรรม
อีกด้านหนึ่งที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เวลา 13.30 น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. กล่าวสรุปผลจับกุมว่า กรณีชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. นำหมายค้นตรวจสอบร้านจินหลิง พบผู้ใช้บริการทั้งหมด 266 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ไม่ได้พกหนังสือเดินทางใช้วิธีถ่ายรูปเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ จากการตรวจสอบผู้ใช้บริการทั้งหมดพบปัสสาวะสีม่วง 104 ราย ชาย 50 ราย หญิง 54 ราย แบ่งเป็นชาวจีน 99 ราย หญิงชาวไทย 3 ราย ชายชาวไทย 1 ราย และชายชาวกัมพูชา 1 ราย คนไทยทำงานเป็นพนักงานและชาวกัมพูชาเป็นการ์ดของร้าน ร้านดังกล่าวไม่รับคนไทยเข้ามาเที่ยว นำตัวทั้งหมดส่ง รพ.ธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี ตรวจสอบยืนยันสารเสพติดชนิดใด ขณะนี้ประสานตำรวจตม.รับนักเที่ยวไปตรวจสอบ 125 คน เป็นชาวจีน 93 ราย พม่า 23 ราย กัมพูชา 1 ราย เวียดนาม 2 ราย จอร์เจีย 1 ราย และไม่มีสัญชาติ 5 ราย หากพบว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะเพิกถอนวีซ่า
...
รอง ผบช.น.กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำพนักงานร้านทราบว่า เจ้าของร้านเป็นชาวจีนเปิดบริการมานาน 4 เดือน เมื่อก่อนเคยเปิดเป็นบ่อนการพนันแล้วปิด เปลี่ยนมาเป็นผับบาร์คาราโอเกะ ทั้งนี้จะส่งข้อมูลให้ทูตตำรวจจีนตรวจสอบนักเที่ยวว่ามีประวัติต้องเฝ้าระวังหรือถูกดำเนินคดีอะไรหรือไม่ ทำงานอะไรถึงมีเงินจำนวนมาก ตรวจค้นตู้เซฟที่อยู่ภายในห้องสโตร์ พบยาเสพติดจำนวนมาก ได้แก่ เฮโรอีน 323 ซอง ยาอี 258 ซอง ยาอีบรรจุในหลอดกาแฟ 71 หลอด ยาเค 16 ซอง ยาเสพติด Happy water และเงินสด 1.3 ล้านบาท และมีตู้เซฟอีก 5 ใบ อยู่ระหว่างตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบเอกสารเก็บเงินค่าบริการโต๊ะเฉลี่ยโต๊ะละประมาณ 2 แสนบาท คาดว่ามีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาทต่อคืน เอกสารแบ่งเป็น 2 ชุด เก็บเงินค่าบริการกับค่าใช่จ่ายเขียนเป็นภาษาจีน อยู่ระหว่างตรวจสอบด้วยว่าจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ นอกจากนี้ ซองใส่ยาเสพติดเขียนชื่อไว้ด้วยคาดว่า เจ้าของเสพไม่หมดก็ฝากไว้ที่ร้านเพื่อกลับมาเบิกไปเสพต่อคราวหน้าได้ด้วย
วันเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 เซ็นคำสั่ง กองบังคับการตำรวจ นครบาล 6 (บก.น.6) ที่ 408/2565 ลงวันที่ 26 ต.ค.65 ให้ พ.ต.อ.ธนโชติ ฤกษ์ดี ผกก.สน.ยานนาวา ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (ศปก.บก.น.6) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบก.น.6 มอบหมาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และให้ พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผบก.น.6 รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผกก.สน.ยานนาวา
วันเดียวกัน ที่โรงแรมเดวิส บางกอก แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยกรณีกลุ่มนายทุนธุรกิจชาวจีนเปิดสถานบันเทิงมั่วสุมยาเสพติดในประเทศไทยว่า สถานบันเทิงลักษณะนี้จะรับลูกค้าที่เป็นคนจีนเท่านั้น มีการรับฝากยาเสพติดที่เสพไม่หมดไว้ได้ เหมือนฝากเหล้าในผับ ไม่ต้องเสี่ยงเจอด่านตำรวจ อีกทั้งไม่ได้เป็นแค่เพียงผับ แต่ยังเปิดเป็นบ่อนการพนันด้วย แถมยังนำน้ำดื่ม สุรา บุหรี่ นำเข้ามาจากประเทศจีน จ้างคนจีนเป็นเด็กเสิร์ฟ เรียกสถานบันเทิงประเภทนี้ว่า “ผับศูนย์เหรียญ” คือ เจ้าของเป็นคนจีน ของทุกอย่างมาจากประเทศจีนหมด เท่าที่ทราบมีอยู่ในย่านรัชดาภิเษก, สุทธิสาร, ห้วยขวาง, พระราม 2 และพัทยา ขบวนการเหล่านี้ มีเจ้าพ่อเมืองหลวง เป็นนักการเมืองใหญ่ให้ความคุ้มครอง ที่ทำหน้าที่หาเงินสีเทาเพื่อเอาไปให้กลุ่มการเมือง เพื่อเป็นทุนใช้เลือกตั้งในครั้งต่อไป ตนมีข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการนายทุนจีนสีเทา และคนรับเงินผลประโยชน์ที่ตำรวจต้องรู้ไว้เพื่อปราบปราม โดยจะนำข้อมูลดังกล่าวให้แก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมกับโทรศัพท์ถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อขอให้ช่วยปราบปรามกลุ่มนายทุนจีนธุรกิจสีเทา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ตอบรับ ยินดีนำข้อมูลของนายชูวิทย์ไปตรวจสอบ และยืนยันจะดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง
...