โควิดไทยยังไม่แผ่ว ยอดป่วยตายยังสูง อันดับ 13 ของโลก ขณะที่มีผลวิจัยจากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด สหรัฐฯ ตรวจพบชิ้นส่วนเปลือกนอกของไวรัสในเลือดคนเคยติดเชื้อโควิด-19 อธิบายการเกิดภาวะลองโควิดในผู้เคยติดเชื้อ ด้านนายกสมาคมร้านขายยาชี้รัฐไม่ชัดเจน การจัดหาซื้อยารักษาโควิด โดยเฉพาะยาฟาวิพิราเวียร์ หากต้องซื้อจากองค์การเภสัชฯจ่อเก็งกำไรยาฟาวิฯซะเอง ขณะที่ทั่วโลกลุ้นระทึกโรคติดต่อตัวใหม่ หลังพบผู้ป่วยปอดอักเสบปริศนาในอาร์เจนตินาป่วย 10 คน ตายแล้ว 3 แต่ผลการทดสอบหาทั้งไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราเป็นลบทั้งหมด
เข้าสู่สัปดาห์แรกของเดือนกันยายน ปี 2565 แต่สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในไทยยังมีผู้ป่วยเข้า รพ.วันละเกือบสองพันคนต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือ ศบค.รายงานไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,942 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,941 คน มาจากต่างประเทศ 1 คน หายป่วยเพิ่มเติม 1,643 คน อยู่ระหว่างรักษา 16,723 คน อาการหนัก 716 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 357 คน เสียชีวิตเพิ่ม 23 คน ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยผู้เสียชีวิตอายุสูงสุดคือ 96 ปี ทำให้
ตั้งแต่ปี 2563 มียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 4,656,911 คน หายป่วยสะสม 4,607,319 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 32,375 คน

...
ด้าน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทย ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์เฟซบุ๊กว่า สถานการณ์ระบาดของไทย จำนวนเสียชีวิตเมื่อ วันที่ 2 ก.ย.สูงเป็นอันดับ 13 ของโลก และอันดับ 5 ของเอเชีย และอัปเดตงานวิจัยเกี่ยวกับภาวะลองโควิด โดย Swank Z และคณะ จากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ผลการวิจัยที่สำคัญในวารสารการแพทย์โรคติดเชื้อ Harvard Medical School เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2565 ด้วยการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 63 คน ในจำนวนนี้มี 37 คนที่ประสบปัญหาลองโควิด สาระสำคัญที่ค้นพบคือ ราว 2 ใน 3 ของกลุ่มผู้ป่วยที่ประสบปัญหาลองโควิด สามารถตรวจพบชิ้นส่วนเปลือกนอกของไวรัสได้ในเลือด และตรวจพบได้ถึง 12 เดือนที่ทำการศึกษา โดยที่กลุ่มผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน แต่ไม่มีปัญหาลองโควิดนั้น ตรวจไม่พบ
รศ.นพ.ธีระระบุอีกว่า ข้อค้นพบข้างต้นจากการวิจัยนี้ มีแนวโน้มที่จะเป็นหลักฐานสนับสนุนสมมติฐานเรื่องการติดเชื้อถาวร (persistent infection) โดยไวรัสแฝงในเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย และอาจเป็นกลไกหนึ่งที่จะอธิบายการเกิดปัญหาลองโควิด ที่มีอาการผิดปกติของระบบต่างๆ ในร่างกายได้อย่างหลากหลาย นอกเหนือไปจากสมมติ ฐานเรื่องการคงค้างของชิ้นส่วนของไวรัสอย่างยาวนาน และกระตุ้นให้เกิดกระบวนการอักเสบในระบบต่างๆของร่างกายจนเกิดอาการผิดปกติตามมา
นอกจากนี้ รศ.นพ.ธีระยังโพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตอนนี้อาร์เจนตินากำลังเผชิญปัญหาใหม่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วย 9 คน มาด้วยเรื่องไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง และหอบเหนื่อย มีถึง 6 คนที่มีภาวะปอดอักเสบทั้งสองข้าง และหลายคนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะนี้เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน ในจำนวนทั้งหมด 9 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ถึง 8 คน มีการส่งตรวจหาไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ยังไม่พบสาเหตุ คงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดว่าเป็นโรคติดต่อใหม่หรือไม่

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายกรุง สุรเวชสุนทร นายกสมาคมร้านขายยา ถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศให้ผู้ได้รับอนุญาตนำเข้ายาต้านไวรัสโควิด-19 ที่เป็นยาควบคุมพิเศษ กระจายยาไปยังร้านขายยาได้ว่า ตามประกาศคือร้านขายยาจะขายยาได้ตามใบสั่งแพทย์ แต่ปัจจุบันยารักษาโควิด-19 มี 2 ชนิด คือ ยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมลนูพิราเวียร์ แพทย์จะจ่ายยาตามอาการที่ระบุในแนวทางการรักษา คืออาการน้อยจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้ ส่วนอาการมาก มีความเสี่ยงมาก เช่น สูงอายุ จ่ายยาโมลนูพิราเวียร์ ประเด็นอยู่ที่ยาจะมาจากไหน ยาโมลนูฯ มาจากบริษัทซิลลิค ฟาร์ม่า ซึ่งร้านยาสั่งจากบริษัทนี้อยู่แล้ว ส่วนยาฟาวิฯ ที่หมอสั่งจ่ายเยอะ ยังไม่บอกว่าต้องซื้อจากไหน หรือต้องไปซื้อจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) นี่คือประเด็น
นายกรุงกล่าวอีกว่า อีกประเด็นคือต้องมีใบสั่งแพทย์ สิ่งที่กังวลคือเราในฐานะร้านขายยาจะเป็นอะไร เป็นผู้จ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ หรือมีอำนาจจ่ายยาได้เอง เป็นประเด็นที่ยังไม่ลงตัว การเปิดให้ร้านขายยาซื้อยาได้เองทำให้ราคายาถูกลง นอกจากจะมีการกักตุนสินค้า ดังนั้นปัจจัยคือหากรัฐบาลควบคุมยาฟาวิฯเอง ก็จะเป็นคอขวด สุดท้ายจะไม่ได้เป็นการช่วยผู้ป่วย และจะเป็นการเก็งกำไรฟาวิฯ มากกว่า เพราะร้านยาอยากได้ฟาวิฯ ขณะที่โมลนูฯ ที่ร้านยาซื้อได้จากบริษัทซิลลิค หากรัฐบาลควบคุมการจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ กลไกตลาดก็จะเสีย หากเราปล่อยตามอิสระจะทำให้เข้าถึงยาได้ง่าย ราคาจะถูก
...
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองนนทบุรี ว่ามีชายชาวกินีเข้ารักษาตัวด้วยอาการป่วยคล้ายกับโรคฝีดาษลิง มีแผลเป็นตุ่มตามตัวที่ รพ.พระนั่งเกล้าตั้งแต่ช่วงเช้า โรงพยาบาลได้นำตัวชายดังกล่าวเข้าห้องเฝ้าดูอาการระหว่างรอผลตรวจ แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวหลบหนีออกจากโรงพยาบาล ได้ให้ตำรวจสายตรวจไปตรวจสอบ ล่าสุดขณะนี้ชายคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมนำตัวและส่งเข้าห้องแยกโรคของโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการเรียบร้อยแล้ว
ส่วนสถานการณ์โรคโควิด-19 ในต่างประเทศ ทางการจีนอนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทลิฟซอน ฟาร์มา ให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินสำหรับเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น เพิ่มทางเลือกให้แก่ชาวจีน โดยวัคซีนดังกล่าวเป็นชนิดโปรตีนลูกผสม จากการทดลองพบว่าเมื่อใช้เป็นเข็มกระตุ้นมีประสิทธิภาพอยู่ที่ร้อยละ 61.35 ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกและยังป้องกันสายพันธุ์โอมิครอนได้ ส่วนที่เกาหลีใต้เริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยกเลิกการยื่นผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ก่อนเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.แต่ยังต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์ภายใน 24 ชั่วโมง หลังเดินทางมาถึง
ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยแพนอเมริกัน (PAHO) สำนักงานภูมิภาคขององค์การอนามัยโลกกำลังติดตามกลุ่มผู้ป่วยโรคปอดบวมที่ไม่สามารถระบุสาเหตุได้ 10 ราย ที่ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ผู้ป่วยทั้งหมดเชื่อมโยงกับคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองซาน มิเกล เด ตูกูมัน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอาร์เจนตินา หลังจากมีรายงานผู้ป่วย 6 ราย เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 5 คนและประชาชนทั่วไป 1 ราย เข้ารับการรักษาในคลินิกเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ระบุว่ามีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 18-22 ส.ค.จากนั้นในวันที่ 1 ก.ย.พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 3 ราย และเสียชีวิต 3 ราย ซึ่งผู้ตายทั้งหมดมีปัญหาสุขภาพ อื่นๆร่วมด้วย ขณะที่ยังพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1 ราย ในวันต่อมา ทำให้มีผู้ป่วยรวม 10 ราย ส่วนอาการที่พบ ได้แก่ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อและช่องท้อง หายใจลำบาก และผู้ป่วยหลายรายมีอาการปอดบวมทั้ง 2 ข้าง ขณะที่ผลการทดสอบหาไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา เป็นลบทั้งหมด ขณะนี้ส่งตัวอย่างทางชีวภาพไปทดสอบเพิ่มเติม
...