เป็นหนึ่งในตำรวจดาวฤกษ์พุ่งเร็วที่กราฟชีวิตเหวี่ยงขึ้นลงแรงที่สุด หลังเจอมรสุมหนักถูกแขวนเกือบ 2 ปี หันไปทางไหนเพื่อนไม่มีลูกน้องเมิน ต้องหนีไปบวชไกลถึงอินเดียและเดินสายทำบุญทั่วสารทิศ ในที่สุดก็ถึงเวลาฟ้าเปิดให้ “บิ๊กโจ๊ก– พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้คัมแบ็กกลับมาอย่างเต็มภาคภูมิ โดยเตรียมผงาดเป็น “รอง ผบ.ตร.” ทำงานรับใช้ประชาชนเคียงข้าง “บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” ผบ.ตร.คนที่ 13 ซึ่งครบเครื่องทั้งเรื่องบุ๋นและบู๊

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “บิ๊กโจ๊ก” โชว์ผลงานหลายด้านสนองนโยบายรัฐบาลโดยตรง สมกับฉายา “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” ที่ทำให้เป็นที่ไว้วางใจของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รักษาการนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้เมื่อผู้สื่อข่าว ถามว่า ถูกดึงตัวมาช่วยงานนายกฯ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” แล้วจะแบ่งร่างไปช่วยงาน “พล.อ.ประวิตร” อย่างไร “บิ๊กโจ๊ก” ตอบว่า เรื่องการเมืองไม่ได้เกี่ยวข้อง ตอนนี้ยังทำงานให้ท่านนายกฯ (พล.อ.ประยุทธ์) และพล.อ.ประวิตร เหมือนเดิม โดยสั่งการผ่าน ผบ.ตร. ตนเป็นเพียงผู้ปฏิบัติ

...

“ถึงอย่างไรผมก็ต้องทำงานให้กับทั้ง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะทั้งสองท่านเป็นทั้งผู้บังคับบัญชา และผู้มีบุญคุณทั้งคู่ คนเราต้องรู้ที่ไปและที่มา ไม่ใช่รู้ที่ไปอย่างเดียว แต่จำที่มาไม่ได้ เราต้องกตัญญูกับผู้มีพระคุณ จะให้ผมตอบก็ต้องตอบแบบนี้ ถ้าผมตอบอย่างอื่นก็เป็นการโกหก บุญคุณทั้งสองท่านมีกับผมเยอะ ผมมีวันนี้ก็เพราะท่าน แต่การทำงานของผมคือการเอาพลังของท่านมาทำให้ประชาชน ไม่ใช่เอามาเปิดบ่อน เปิดอบายมุข เปิดหวย เปิดซ่อง ไม่ได้เอาอำนาจบารมีท่านไปเก็บเงินใคร แต่เอามาทำเพื่อประชาชน เหมือนที่ไปปราบคอลเซ็นเตอร์ ปราบค้ามนุษย์ ผมมองว่าสิ่งที่ท่านต้องการให้ผมทำ คือทำเพื่อประชาชน”...ล่าสุดเพิ่งส่งทีมตำรวจไปช่วย 16 คนไทยกลับบ้าน หลังถูกแก๊งค้ามนุษย์ชาวจีนในกัมพูชาหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้มตุ๋นคนไทย

ถือเป็นการตอกย้ำผลงานเด่นด้านปราบปรามค้ามนุษย์ จนได้รับรางวัลจาก “พล.อ.ประยุทธ์” ในฐานะผู้ปฏิบัติงานดีเด่นด้านการดำเนินคดีป้องกันและปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ ปี 2565 ชู 4 ผลงานเข้าตาคือ โดดเด่นทั้งการจับกุมดำเนินคดีค้ามนุษย์เพิ่มขึ้น, ดำเนินคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้น, ช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศมากขึ้น และเร่งรัดสำนวนคดีไปสู่ศาลเร็วขึ้น ขานรับนโยบายหลักของรัฐบาลที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังกันขจัดปัญหาสร้างความสุขให้ประชาชน

ภารกิจเร่งด่วนที่ได้รับมอบหมายคืออะไร

ท่าน ผบ.ตร.มอบหมายผมให้ทำงานปราบปราม, งานสืบสวน และงานบริหาร แต่ในส่วนงานเฉพาะทาง ได้มอบหมายงานที่เป็นนโยบายของรัฐบาลคือ ปราบปรามการค้ามนุษย์ และแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) อันเป็นสาเหตุให้ถูกระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางประมงของไทย ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่กระทบต่ออนาคตของอุตสาหกรรมการประมงไทย ต้องเร่งแก้ไขเพื่อยกระดับมาตรฐานการประมงไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

ตำรวจยุคใหม่ทำงานเชิงรุกแข็งขันขนาดไหน

ตำรวจสมัยใหม่จะทำงานเชิงรุก คือเน้นการป้องกันอาชญากรรมนำการปราบปราม เพราะการป้องกันประหยัดงบประมาณ ประหยัดเวลา และความเดือดร้อนของประชาชนก็ยังไม่เกิด เป็นการแก้ปัญหาสังคมโดยชัดเจน ผู้ต้องหาไม่ล้นเรือนจำ ดีกว่าเกิดปัญหาแล้วค่อยปราบปราม ท่าน ผบ.ตร.คนปัจจุบันริเริ่มโครงการ “Smart Safety Zone 4.0” เพื่อขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ชาติด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยผสานแนวคิดเรื่องเมืองอัจฉริยะ “Smart City” เข้ากับแนวคิดสร้างพื้นที่ปลอดภัย “Safety Zone” ด้วยการอาศัยความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกคน มีการใช้นวัตกรรมสมัยใหม่และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง แรกเริ่มเปิดโครงการนำร่อง 15 สถานีตำรวจ เป็นแซนด์บ็อกซ์ทดลองหารูปแบบเหมาะสม โดยเน้นพื้นที่เสี่ยงเกิดอาชญากรรมสูง, สถานที่แลนด์มาร์กสำคัญ, พื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ หากเกิดอาชญากรรมจะกระทบภาพลักษณ์ของประเทศ และพื้นที่ไม่เกิน 2 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้สามารถระดมเทคโนโลยีเข้าไปควบคุมปัญหาอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ มีการนำนวัตกรรม AI มาช่วยแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ และเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรม เช่น สำรวจกล้อง CCTV ในพื้นที่เดิม เพื่อปรับมุมกล้องและบูรณาการการใช้งานร่วมกัน รวมถึงติดตั้งกล้อง AI เพิ่มเติมอีก 20,000 ตัว ติดตั้งกล้องตรวจจับใบหน้า กล้องตรวจจับป้ายทะเบียนรถ ติดตั้งเสาสัญญาณ SOS เพื่อให้ประชาชนแจ้งเหตุด่วนได้ทันที และเปิดแอปพลิเคชัน “Police i lert u” ให้ประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือตำรวจโดยตรงผ่านสมาร์ทโฟน ปัจจุบันขยายการดำเนินการไปจนครบ 100 สถานีตำรวจในทุกจังหวัด การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมสำคัญมาก บ้านเรือนประชาชนที่มีกล้อง CCTV อยู่แล้ว ได้ขอเชื่อมสัญญาณในจุดหลักๆมาไว้ที่ห้องวอร์รูมของสถานีตำรวจ เพื่อจับคนร้ายทันท่วงที

...

ดีกรีความเชื่อมั่นของประชาชนต่อตำรวจไทยมีมากขึ้นไหม

เราต้องตัดจุดเสี่ยงทุกอย่างที่จะก่อให้เกิดอาชญากรรม เพราะเรากำลังเล่นอยู่กับความรู้สึกของประชาชน ฉะนั้น การรวมกลุ่มดื่มสุรา การรวมกลุ่มดูดกัญชา การนั่งล้อมวงในจุดเสี่ยงต่างๆ สายตรวจต้องเข้าไปบอกให้เลิก เพื่อตัดช่องโอกาสในการเกิดอาชญากรรม ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำโพลสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนปีละครั้ง แต่ปัจจุบันทำโพลสำรวจวัดความรู้สึกของประชาชนแบบเรียลไทม์ทุกวินาทีผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละพื้นที่สามารถลงไปจี้งานได้ทันที และช่วยให้ประชาชนรู้ว่าตำรวจโรงพักไหนทำงานหรือไม่ทำงาน

...

คิดเร็วทำเร็วขนาดนี้มีวิธีชาร์จแบตเติมพลังยังไง

ทำงานเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำงานเป็นด้วย คือแบ่งเวลาให้เป็น ต้องรู้จักพักผ่อน และให้เวลาครอบครัว ผมเชื่อว่าการออกกำลังกายทำให้มีสุขภาพที่ดี เมื่อเรามีสุขภาพดีก็จะสามารถทำงานให้ประเทศชาติได้เต็มที่ ผมตีเทนนิสอาทิตย์ละ 4 วัน ครอบครัวก็สำคัญมากต้องเข้าใจว่าเราเป็นข้าของแผ่นดิน โชคดีที่ภรรยาผมเข้าใจดีทุกอย่าง

“บิ๊กโจ๊ก” เป็นผู้ชายสวีตไหม

ก็สวีตอยู่นะ ถ้ามีเวลาจะชวนภรรยาไปทำกิจกรรมหย่อนใจร่วมกัน เช่น ดูหนัง และทานข้าว ผมชอบดูหนังแอ็กชันช่วยให้คลายเครียดได้

...

พกของดีอะไรติดตัวบ้างเพื่อให้แคล้วคลาดปลอดภัย

ผมแขวนหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เมื่อก่อนทำงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่พื้นที่เสี่ยงมีเหตุระเบิดบ่อย แต่ก็แคล้วคลาดมาตลอดไม่เคยได้รับอันตราย การทำงานในอาชีพเรายิ่งช่วยประชาชนมากเท่าไหร่ก็เหมือนเราได้ทำบุญไปในตัว เราแทบจะไม่ต้องไปวัดที่ไหนเลย ขอแค่เราทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี เราต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน เรายิ่งคลายความทุกข์ให้ประชาชนได้มากเท่าไหร่ นั่นคือการทำบุญในอาชีพ สิ่งเหล่านี้คือเกราะทำให้เราแคล้วคลาดปลอดภัย

“บิ๊กโจ๊ก” คนเก่ากับคนใหม่ เหมือนหรือแตกต่างกันยังไง

จริงๆแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่เมื่อเรามีบทเรียนมาเยอะ ถูกโยกย้ายต่างๆ มันก็สอนให้เรามีความสุขุมรอบคอบในการทำงานมากขึ้น ไอ้เรื่องความขัดแย้งบางครั้งยอมรับว่าห้ามไม่ได้ การทำหน้าที่ของผมอาจก่อให้เกิดคู่กรณีโดยที่เราไม่ต้องการ การทำหน้าที่ของผมบางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบ แต่สิ่งสำคัญคือต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

ผ่านฝันร้าย 2 ปี ที่ถูกย้ายฟ้าผ่ามาได้อย่างไร

ผู้บังคับบัญชาให้เราไปทำหน้าที่ที่ไหนเราก็ต้องไป นี่คือหลักของข้าราชการ 2 ปีที่ผมถูกย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผมใช้สิทธิฟ้องร้องต่างๆตามความเป็นธรรมของตัวเอง เพื่อปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีความเป็นข้าราชการ เมื่อผมหลุดพ้นจากตรงนั้นมาแล้ว ก็ขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในฐานะข้าแผ่นดินทุ่มเททำงานให้แผ่นดินเต็มที่ อันดับหนึ่งคือ ชาติ, ราชบัลลังก์ และประชาชน ยอมรับว่า 2 ปีนั้นเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในชีวิต แต่เราได้ใช้เวลาทบทวนตัวเองว่าเราบกพร่องตรงไหน เราผิดตรงไหน เพื่อจะนำมาแก้ไข ผมเป็นคนชอบไหว้พระสวดมนต์อยู่แล้ว ใน 2 ปีนั้นก็ใช้เวลาไหว้พระสวดมนต์เต็มที่ เป็นช่วงที่ได้พักชาร์จแบต และไปเรียนหนังสือหาความรู้เพิ่มเติม เรายังเหลืออายุราชการอีกหลายปี สามารถนำมาทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน

เคืองไหมพอเราดวงตก เพื่อนหายลูกน้องหนีหมด

ผมไม่โกรธหรอก ใครจะหายไม่หายผมไม่ได้ไปจดจำแบบนั้น ผมอาจคิดไม่เหมือนคนอื่น ผมยึดถือความกตัญญูเป็นหลัก ผมยอมรับว่าช่วยคนไว้เยอะ แต่จำไม่ได้หรอกว่าผมช่วยใครบ้าง แต่ผมจำได้ว่าใครช่วยผมบ้าง!! ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้กลับมาทำงานรับใช้ประชาชนอีกครั้ง ได้ทำงานที่รักและถนัดที่สุด

อะไรคือเป้าหมายมีไว้พุ่งชนของ “บิ๊กโจ๊ก”

เวลาที่เหลืออีก 9 ปี ตั้งใจว่าจะทำความดีถวายในหลวง, ราชบัลลังก์, แผ่นดิน และประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้สมกับที่ได้กลับมา!! การที่ได้กลับมาแสดงว่าทุกคนต้องการให้เรากลับมาทำประโยชน์ให้แผ่นดิน เราต้องอาศัยบทเรียนต่างๆมาทำประโยชน์ให้ประเทศชาติมากที่สุด.

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ