ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำฟังธรรมเทศนา "อุภินนมัตถจรกถา" เฉลิมพระธรรมบารมี สมเด็จพระพันปีหลวง ชวนประชาชนรับฟังทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2566

วันที่ 26 สิงหาคม 2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และพุทธศาสนิกชน ร่วมฟังพระธรรมเทศนาเฉลิมพระบารมีใน "อุภินนมัตถจรกถา" เฉลิมพระธรรมบารมี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

นายสุทธิพงษ์ กล่าวถวายพระพรชัยมงคล เพื่อเฉลิมพระธรรมบารมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้น เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล โดยพระราชญาณปรีชาให้ศีลและแสดงพระธรรมเทศนาเฉลิมพระบารมีใน อุภินนมัตถจรกถา

ด้าน พระราชญาณปรีชา ได้แสดงพระธรรมเทศนา โดยมีใจความโดยสรุปว่า "อุภินนมัตถจรกถา" เป็นบทพระธรรมเทศนา ที่แสดงอรรถาธิบายพระบรมพุทโธวาทของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าด้วยความประพฤติให้สำเร็จประโยชน์เพื่อตนและเพื่อผู้อื่น ด้วยการอบรมเจริญคุณธรรมสำคัญ 3 ประการให้มีพร้อมขึ้นในตน ได้แก่

"ศีล" คือการรักษากายวาจาให้เป็นปกติเรียบร้อย "ปัญญา" คือความฉลาดรอบรู้ หรือความรู้ชัดในเหตุและผล และ "สุตะ" คือการศึกษาเล่าเรียน เป็นผู้ได้ยิน ได้ฟังมาก ธรรมะทั้ง 3 ประการนี้ ต่างอาศัยกันและกัน เป็นไปจึงจะส่งผลสมบูรณ์ ให้ได้บำเพ็ญประโยชน์ตนเอง และประโยชน์ผู้อื่นได้ทั้งสองสถาน หากประชาชนสามารถเจริญธรรมะทั้ง 3 ประการได้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนและแก่สังคมส่วนรวม

ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า “อุภินนมัตถจรกถา” เป็นพระธรรมเทศนา เฉลิมพระธรรมบารมี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยอาราธนาให้สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม รจนาขึ้น สำหรับวัดทุกวัด ทั่วราชอาณาจักร จะได้แสดงพระธรรมเทศนานี้ โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และอบรมขัดเกลาจิตใจประชาชน ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า พระธรรมเทศนากัณฑ์นี้ มีเนื้อหาสาระกล่าวถึงพระราชปณิธาน พระราชกรณียกิจ และพระราชจริยวัตร ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งบริบูรณ์พร้อมด้วยพระราชธรรม ทรงพากเพียรอบรมขัดเกลาพระองค์ให้บริบูรณ์ ด้วยศีล ปัญญา และสุตะ โปรดทรงศึกษาหาความรู้ ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นพระคุณสมบัติส่วนพระองค์ ที่ช่วยเสริมส่งพระธรรมบารมีให้เพิ่มพูน ยังให้ทรงพร้อมเสมอที่จะทุ่มเทกำลังพระวรกาย พระราชหฤทัย พระสติปัญญา และพระราชทรัพย์เพื่อเกื้อกูลประโยชน์สุขของประชาชน โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง อย่างไม่หวาดหวั่นต่อภยันตรายที่อาจบังเกิดมี และไม่ทรงคำนึงถึงความเหนื่อยยากลำบากพระวรกาย เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร


นายสุทธิพงษ์ กล่าวย้ำให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้มีโอกาสสดับพระธรรมเทศนา น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มุ่งมั่นศึกษาทำความเข้าใจในพระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง อันเพียบพร้อมด้วยพระราชธรรม เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจ และปณิธานอันแน่วแน่สำหรับตน ในการเจริญศีล ปัญญา สุตะให้ถึงพร้อม จะได้บังเกิดประโยชน์สองสถาน คือ ประโยชน์ตนควบคู่ไปกับประโยชน์ส่วนรวม ตามนัยแห่ง “อุภินนมัตถจรกถา” สมตามกุศลเจตนาของกระทรวงมหาดไทยซึ่งได้ร่วมมือกับคณะสงฆ์ในการฉลองพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ผู้ทรงเป็น “แม่แห่งชาติ” เนื่องในมหามงคลสมัยสำคัญยิ่งนี้

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยขอเชิญชวนประชาชน ทั่วประเทศร่วมสดับพระธรรมเทศนา เฉลิมพระบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา" เฉลิมพระธรรมบารมีสมเด็จพระพันปีหลวงได้ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยสามารถติดตามรายละเอียดวัดได้ที่ศาลากลางจังหวัดทุกแห่ง ขณะที่ในส่วนกลางกำหนดจัดทุกวันศุกร์โดยจะมีการเวียนไปตามวัดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งการจัดให้ร่วมสดับพระธรรมเทศนาเฉลิมพระบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา" จะมีไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2566.