กระทรวงเกษตรฯ ชูอัตลักษณ์พื้นถิ่นด้านหม่อนไหม นำผ้าไหมคุณภาพมาให้เลือกชมและช็อป ระหว่างวันที่ 4-10 ส.ค.นี้


เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 65 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "ส่งเสริมศักยภาพด้านการตลาดสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น สู่ตลาดยุคใหม่ ด้านหม่อนไหม" ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-10 ส.ค. 65 ณ บริเวณเจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมหม่อนไหม จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการหม่อนไหมไทย อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์คุณค่าและความเป็นเอกลักษณ์ของผ้าไหมไทย ด้วยการปลุกกระแสนิยมการใช้ผ้าไหมไทย ซึ่งเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นสู่การตลาดยุคใหม่ และส่งเสริมด้านการตลาดให้กับสินค้าหม่อนไหม สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร กลุ่มผู้ทอผ้าไหม และผู้ประกอบการ



ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการ "เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" นิทรรศการ "ตลาดนำการผลิตด้านสินค้าหม่อนไหม" นิทรรศการ จัดแสดงผลงานการออกแบบ และตัดเย็บผ้าไหม กิจกรรมการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไหม จากผลงานโครงการประกวดออกแบบชุดผ้าไหมไทย โดยเยาวชน นิสิต นักศึกษาครั้งที่ 3 (The 3rd Next Big Silk Designer Contest) และจากคณะทูตานุทูต รวมทั้งกิจกรรมการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและสินค้าหม่อนไหมคุณภาพจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ ซึ่งคาดหวังว่าจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร กลุ่มผู้ทอผ้าไหม และผู้ประกอบการ

...



ผ้าไหมไทยได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และถือเป็น Soft power ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจและให้คุณค่า เพราะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เราจึงต้องมีการรับประกันคุณภาพ ซึ่งจากนโยบายตลาดนำการผลิต ถือเป็นการปฏิรูปภาคการเกษตรที่ครอบคลุมเกษตรกรไทยทั้งประเทศ กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งมีหน้าที่ส่งเสริมและพัฒนาให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการ จึงต้องบูรณาการทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้ผ้าไหมไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

"สำหรับการจัดงานในวันนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ทั้งคนไทยและต่างชาติได้เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของผ้าไหมของไทย ซึ่งปัจจุบันมีการส่งเสริมทั้งในเรื่องแฟชั่น และการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น มีการพัฒนาเส้นไหมให้มีคุณภาพ และมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มีการใช้ช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายมากขึ้นด้วย" นายเฉลิมชัย กล่าว.