"พนิต" ชี้ "ชัชชาติ" เปลี่ยน กทม.แล้ว-ส.ก.ต้องหลุดพ้นวังวนเดิม เลิกฮั้วงบประมาณกับผู้บริหาร-ขรก. ขอ ปชช.ร่วมติดตาม-ตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 10 ก.ค.65 นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม.โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว "Panich Vikitsreth-พนิต วิกิตเศรษฐ์"  เรื่อง "ถึงเวลาที่คนกรุงต้องติดตามและตรวจสอบ" โดยระบุว่า ตั้งแต่ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่เข้ามาทำหน้าที่กว่า 1 เดือนแล้ว ปัญหาที่สะสมมายาวนานได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว  โดยการนำแอฟพลิเคชั่น Traffy Fondue มาใช้ในการร้องเรียนปัญหา หรือการนำงบประมาณขึ้นแสดงบน Web site เป็นต้น และยังได้เห็นการสร้างสรรค์ผลงานในมิติต่างๆในพื้นที่ ทั้งมิติเศรษฐกิจ มิติสังคม ประเด็นเหล่านี้ เป็นเรื่องที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับกรุงเทพฯหลังจากมีการเปลี่ยนผู้ว่าฯ

"ก่อนอื่นต้องบอกว่าในฐานะที่ผมเคยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.ที่ดูแลด้านงบประมาณ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการกำหนดแนวทางนโยบาย ในการใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ ถึงผู้ว่าฯชัชชาติจะพึ่งเข้ารับตำแหน่ง และเข้ามาทำงานบนความคาดหวังของชาวกรุงเทพฯ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กรุงเทพฯพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีความน่าสนใจ และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประชุมสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีความน่าสนใจมาก เพราะเป็นการจัดทำงบประมาณครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้มีการเลือกตั้งมากว่า 10 ปี โดยการประชุมครั้งนี้ได้มีการถ่ายทอดสดให้กับประชาชนได้ติดตามการทำหน้าที่ของผู้บริหาร และ ส.ก." นายพนิต ระบุ

นายพนิต ระบุอีกว่า อย่างที่บอกไปว่าถ้าผู้ว่าฯเปลี่ยนแล้ว แต่ ส.ก.ที่ทำหน้าในการตรวจสอบและเป็นตัวแทนของคนกรุงเทพฯเอง ก็ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงให้คนกรุงได้เห็นเช่นกัน โดยเริ่มจากการตรวจสอบพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ตามที่ฝ่ายบริหารเสนอมาให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณอย่างไร เพื่อให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของผู้ว่าฯ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องไม่ให้เกิดการสมยอมกันทำโครงการ หรือสิ่งที่อาจจะเป็นการฮั้วหรือสมยอมกับฝ่ายผู้บริหาร และฝ่ายข้าราชการประจำ

...

"การทำหน้าที่ของ ส.ก.ครั้งนี้ คนกรุงเทพฯต้องติดตามและตรวจสอบการทำหน้าที่ เพราะเป้าหมายที่สำคัญของ ส.ก.คือ การคำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ และผมคาดหวังว่าท่าน ส.ก.ที่พึ่งเข้ามาใหม่กว่าครึ่งนึงเป็น ส.ก.รุ่นใหม่สมัยแรก จะมีแนวการทำงานที่ต่างจากอดีตและไม่ตกอยู่ในวังวนเดิม" นายพนิต ระบุ