ตร.บางโพงพาง เผยญาติเหยื่อกระบะชนแท่งปูนรถบีอาร์ทีพลิกคว่ำไฟไหม้บนถนนพระราม 3 ญาติยังไม่รับศพในวันนี้ ส่วนความเสียหาย กทม.ต้องฟ้องเจ้าของรถเอง ด้าน จนท.กทม.ชี้แท่งปูนจุดนี้อันตราย มีปัญหามาก

เที่ยงวันที่ 3 ก.ค.2565 ร.ต.ท.สราวุฒิ สุขสวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง เปิดเผยความคืบหน้า กรณีรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำบนถนนพระราม 3 แล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ จนมีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกตาย 2 ศพว่า ญาติของนายธีรศักดิ์ สุขทวี อายุ 20 ปี จะติดต่อรับศพในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) เพราะติดเรื่องสำนักงานเขตปิดทำการ ส่วนศพของนายอุทัย สาทิพย์จันทร์ อายุ 30 ปี สภาพเสียหายจนญาติไม่สามารถยืนยันได้ โดยญาติยืนยันว่าจำได้จากรอยสักกลางหลัง แต่เพลิงได้ลุกไหม้จนไม่เหลือรอยสัก จนต้องมีการพิสูจน์อัตลักษณ์ ยืนยันตัวตน และตรวจดีเอ็นเอเทียบกับญาติ เพื่อติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ของ กทม.บนพื้นถนน กระถางและต้นไม้บริเวณเกาะกลาง และส่วนของรถบีอาร์ที มีตู้รวมสายเคเบิล ในส่วนค่าเสียหายทั้งหมด ทาง กทม.กับรถบีอาร์ทีต้องไปฟ้องกับทางนายจ้างของผู้เสียชีวิตเอง เพราะเกิดเหตุในระหว่างปฏิบัติงาน

...

ด้านนายโอภาส ทองมาก ตำแหน่งลูกจ้างประจำ สำนักงานเขตยานนาวา กล่าวว่า ในวันนี้กองสวนของสำนักงานเขตยานนาวา ได้ทำการเปลี่ยนกระถางและต้นไม้ที่ได้รับความเสียหาย และทำความสะอาดพื้นผิวถนน จนรถบีอาร์ทีสามารถวิ่งให้บริการได้แล้ว ส่วนตัวอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาเรื่องแท่งปูนเจ้าปัญหานี้ เพราะคนใช้ถนนพระราม 3 มีปัญหากันมาก จุดที่อันตรายที่สุดบนถนนเส้นนี้ จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยสุด คือ ช่วงลงสะพานข้ามแยกเจริญราษฎร์ หน้าปากซอยพระราม 3 ที่ 23

ลูกจ้างประจำ สำนักงานเขตยานนาวา กล่าวด้วยว่า เมื่อขับรถมาในช่องทางขวาสุด ลงจากสะพานมาก็เจอแท่งปูนเจ้าปัญหานี้เลย ต้องหักออกซ้าย ถ้ามีรถคันหลังตามมาในเลนกลางก็จะเกิดอุบัติเหตุแทบทุกวัน หากใครหลบไม่ทันก็ปีนแท่งปูนจนรถพังเสียหาย และหากใครขับเข้าไปในช่องทางรถบีอาร์ที ถ้าตำรวจเห็นก็ถูกจับ เสียค่าปรับอีก แท่งปูนเจ้าปัญหานี้มักจะอยู่ช่วงคอสะพาน และช่วงหลุดโค้ง แบบที่เกิดเหตุวานนี้ อันที่จริงให้การตีเส้นแบ่งก็น่าจะลดการสูญเสียได้มากกว่านี้ แถมการทำความสะอาดในช่องระหว่างแท่งปูนก็ทำได้ยากเช่นกัน.