ไฟไหม้ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ จนท.ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงควบคุมเพลิงได้พบวอดไป 30 หลังคาเรือน มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย ผู้ว่าฯ กทม.รุดดูที่เกิดเหตุ สั่้งตั้งศูนย์รับเรื่องและช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทันที

เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 21 มิ.ย. พ.ต.ท.วรายุทธ พวงนาค สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ ซอยปลูกจิต ถนนพระราม 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยรถดับเพลิงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 20 คัน อาสาบรรเทาสาธารณภัย อปพร.เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและใกล้เคียง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นอยู่ในชุมชนแออัด ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้และห้องเช่าเกือบร้อยหลังคาเรือน ยังไม่ทราบต้นเพลิงเกิดที่บ้านหลังใด มีกลุ่มควันและไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วเพราะเป็นบ้านไม้ทั้งหลัง ทำให้ลุกลามไปยังห้องเช่าและบ้านเรือนใกล้เคียงทันที เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมฉีดน้ำทุกด้าน ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงแล้ว เพลิงยังไม่มีทีท่าว่าจะดับ เนื่องจากเป็นบ้านไม้เชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับมีลมกระโชก และหัวฉีดไม่เพียงพอ น้ำใช้ฉีดก็หมด นอกจากนี้ยังเป็นชุมชนและมีซอยแคบทำให้รถดับเพลิงและการลำเลียงน้ำเข้าไปฉีดดับเพลิงค่อนข้างยากลำบาก ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนหอบข้าวของวิ่งหนีตายอย่างชุลมุนวุ่นวาย

...

เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า มีประกายไฟที่สายไฟฟ้า ก่อนลุกลามลงหลังคาบ้านไม้ 2 ชั้น และลุกลามอย่างรวดเร็ว

นางศรีทอง จันหอม อายุ 50 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยู่ห้องเช่า ภายในบ้านไม้ 2 ชั้น รวมค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ เดือนละประมาณ 2,000 บาท อยู่มาประมาณ 7-8 ปี อยู่กับลูกสาว 2 คน ไม่เคยเจอไฟไหม้ใหญ่ขนาดนี้ เคยแต่พบไฟไหม้เล็กน้อย และดับทัน ช่วงเช้าตนไปทำงานเป็นพนักงานโรงแรม ลูกสาวไปเรียนหนังสือ ก่อนเกิดเหตุเพื่อนบ้านโทรแจ้ง ว่าไฟไหม้ชุมชนให้กลับมาด่วน ตนโทรบอกลูกรีบกลับมา นั่ง จยย.รับจ้าง ยืมเงินเพื่อนที่ทำงานมา 500 บาท มาถึงไฟไหม้เสียหายหนักแล้ว ไม่สามารถเข้าไปเอาทรัพย์สินมีค่าได้ หมดตัว ขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ

อีกหนึ่งในชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่กับลูกน้องที่ทำอาชีพแม่บ้านด้วยกันภายในบ้าน 10 คน ตอนเกิดเหตุเมื่อรู้จึงรีบกลับมาที่บ้านเพื่อที่จะขนของ แต่ก็ไม่ทัน ไฟไหม้บ้านหมด รวมถึงกลุ่มลูกน้องที่เพิ่งได้รับเงินเดือน และเก็บเอาไว้ในบ้านก็ถูกไฟเผาหมด

ขณะที่อีกหนึ่งผู้ประสบภัย เปิดเผยว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดปทุมธานีแต่มีบิดาพักอาศัยอยู่ภายในชุมชนแห่งนี้ เมื่อทราบเรื่องจึงรีบขับรถมาเพื่อเข้าไปดูบิดา แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้ รู้สึกร้อนใจ

ต่อมาเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เหลือเพียงแต่กลุ่มควันสีขาว เบื้องต้นพบว่าบ้านเรือนเสียหายไปกว่า 30 หลังคาเรือน คาดไฟฟ้าลัดวงจร มีอาสาสมัครได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขา จากการพลัดตก และชาวบ้านสำลักควันไฟ 3-4 ราย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้

...

ต่อมาเวลา 15.40 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุ และสอบถามปัญหาอุปสรรคในการช่วยเหลือประชาชน โดยเน้นให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยให้เร่งจัดตั้งศูนย์รับเรื่องและช่วยเหลือทันที.