"อนุพร" ผู้สมัครนายกสภาทนายความ หมายเลข 4 พร้อมคณะ ประกาศอาสาเข้ามาพัฒนาสภาทนายความเชิงรุก ยกระดับสวัสดิการ เพิ่มทักษะสกิลให้ทนายฯ สานต่อโครงการเด่น "ทนายความอาสา" ชี้ ถ้าประชาชนเข้าถึงกฎหมายและความยุติธรรม ประเทศจะพัฒนายิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 65 นายอนุพร อรุณรัตน์ ผู้สมัครนายกสภาทนายความหมายเลข 4 พร้อมผู้สมัครกรรมการ หมายเลข 1-22 กล่าวว่า วันนี้คณะอนุพร เรื่องแรกที่จะทำหากได้รับเลือก คือ จะสานเสริมสร้างความดีงามหลายเรื่อง ของว่าที่ร้อยตรี ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความที่ทำไว้กว่า 5 ปี ได้พัฒนาสภาทนายความไว้อย่างมาก จึงจะเข้ามาสานต่อและดูแลความเป็นอยู่ของทนายความทั่วประเทศ สร้างภาระหน้าที่งานที่รับผิดชอบมากขึ้น เพื่อให้ทนายความและเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้พบกับผู้ที่ช่วยเหลือด้านกฎหมาย และวันนี้ประเทศจะพัฒนาได้ตนคิดว่าประชาชนต้องได้เข้าถึงตัวแทนและที่ปรึกษากฎหมายให้มากที่สุด

โดยต้องการเข้ามาเพื่อดูแลแก้ไขความเดือดร้อนของทนายความ ที่ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจผันผวนมีปัญหาด้านความเป็นอยู่การดำรงชีพ จึงจะผลักดันสวัสดิการให้กับทนายความ โดยจะมีกองทุนเพื่อดูแลทนายความ ทนายความอาสาที่อยู่ในต่างจังหวัด ต้องประสานนโยบายกับภาครัฐเพื่อจะเกิดสวัสดิการให้ทนายความต่อไป ขยายการทำงานของทนายความเข้าไปถึงองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน มหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน สิ่งที่จะผลักดันโครงการเมื่อเข้ามาบริหารจะทำให้โครงการทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจขยายให้มากยิ่งขึ้นทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะประชาชนในถิ่นทุรกันดารยิ่งกันดารยิ่งต้องการกฎหมายมากขึ้น
และเชื่อว่าถ้าประชาชนรู้สิทธิ หน้าที่ของตนเอง เข้าถึงกฎหมายและปฏิบัติตามกฎหมาย ประเทศชาติจะพัฒนาขึ้น

...

นายอนุพร ยังกล่าวถึงปัญหาความศรัทธาของสังคมและประชาชนที่มีต่อทนายความ ว่า ปัญหาเรื่องทนายความกับสื่อและสังคม ประชาชน ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทย ซึ่งวันนี้เราจะต้องพัฒนาหรือให้ความรู้อบรมบรรดาสมาชิกทนายความ เพราะหลายครั้งทนายความต่างมองแค่การพิทักษ์สิทธิให้ลูกความเท่านั้นแต่ความจริงแล้วทนายความต้องมีความจงรักภักดีต่อกฎหมายเป็นสาระสำคัญของการประกอบวิชาชีพทนายความ และที่สำคัญที่สุดต้องมีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพการเป็นทนายความ จึงต้องสร้างและรณรงค์ให้สมาชิกทนายความได้มีจิตวิญญาณและรักษาความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพทนายความ

ขณะที่เดินหน้า 18 นโยบายหลักของคณะอนุพร อรุณรัตน์ ได้ทันทีเพื่อเพื่อนพี่น้องสมาชิกทนายความ ประกอบด้วย 1.คัคค้านการเปิดเสรีทนายความและที่ปรึกษากฎหมายต่างด้าว คัดค้านแนวทางสภานิติศึกษาแห่งชาติที่กระทบต่อวิชาชีพทนายความ 2.ทนายความต้องเป็นที่ยอมรับของสังคมและในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น 3.ผลักดันให้ขยายพื้นที่โครงการทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจให้เพิ่มขึ้นและให้มีสวัสดิการมากขึ้น 4.กระจายอำนาจหน้าที่แก่สภาทนายความจังหวัด และเพิ่มค่าดำเนินงานให้มากขึ้น 5.กำหนดหลักสูตรทนายความผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อเพิ่มศักยภาพวิชาชีพทนายความ 6.พัฒนาความรู้ทางกฎหมายใหม่แก่ทนายความให้ทันสมัยและทันต่อสถานการณ์ 7.จัดสร้างที่ทำการสภาทนายความจังหวัดอย่างต่อเนื่อง 8.สร้างเสริมรายได้แก่ทนายความให้มีความมั่นคงในวิชาชีพ 9.พัฒนาหลักสูตรอบรมวิชาว่าความ และการทดสอบเพื่อให้รับใบอนุญาตเป็นทนายความที่มีมาตรฐานมากขึ้น

นอกจากนี้ นโยบายที่ 10.จัดตั้งสถาบันอบรมภาษาต่างประเทศและอบรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 11.เพิ่มการประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิตให้แก่ทนายความ โดยการประกันภัยแบบกลุ่ม 12.ผลักดันจ่ายเงินรางวัลแก่ทนายความที่ศาลแต่งตั้งให้มากขึ้น 13.สนับสนุน "วิทยาลัยทนายความ" เพื่อพัฒนาบุคลากรในวิชาชีพทนายความ 14.ผลักดันสวัสดิการอาวุธปืน และใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนเพื่อสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทนายความ 15.สนับสนุนการแข่งขันกีฬาของทนายความและครอบครัวเพื่อเสริมสร้างความสามัคคี 16.จัดยุทธศาสตร์ปฏิรูปวิชาชีพทนายความให้มีความรอบรู้คู่คุณธรรม 17.จัดให้มีกองทุนสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือทนายความในทุกจังหวัด 18.จัดหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อบริการ และอำนวยความสะดวกแก่ทนายความด้านต่างๆ

นายอนุพร ฝากถึงเพื่อนพี่น้องสมาชิกทนายความทั่วประเทศว่า วันนี้ตนผู้สมัครนายกสภาทนายความหมายเลข 4 พร้อมคณะผู้สมัครกรรมการสภาทนายความหมายเลข 1 ถึง 22 ทั้งหมด 23 คน พร้อมที่จะเข้ามาดูแลพร้อมที่จะรับใช้บรรดาเพื่อนสมาชิกทนายความ พร้อมพัฒนาความรู้ ทักษะวิชาชีพ และพัฒนาสวัสดิการให้ความเป็นอยู่ที่ยืนอยู่ได้อย่างสมเกียรติ เพราะทนายความต้องยืนอยู่อย่างสมเกียรติในการผู้ดำรงวิชาชีพด้านกฎหมาย และที่สำคัญทนายความเราพร้อมจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่เป็นหลักให้กับประชาชนสามารถเข้าถึงความยุติธรรม ผ่านสภาทนายความจังหวัดและส่วนกลาง นี่เป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุด.