เครดิตภาพ เฟซบุ๊กเพจร้าน บุหลันดั้นเมฆ
หุ้นส่วนร้านบุหลันดั้นเมฆ พี่สนิทของ "วิว" หนุ่มรับรถพลเมืองดี ที่เกาะท้ายรถแท็กซี่ เป็นคนดีมาก ที่ผ่านมาเคยปกป้องร้านจากการถูกโจรกรรมมาแล้ว ประสานพ่อที่ไม่พบหน้ามาเป็นสิบปี มายืนยันรับศพลูกชาย
กรณีพบศพ นายนพดล หรือวิว พิมดี อายุ 39 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด อาชีพพนักงานรับรถ ร้านอาหารบุหลันดั้นเมฆ ซึ่งถูกผู้ต้องหาก่อเหตุใช้ขวดเบียร์ตีที่ศีรษะ และเป็นผู้พยายามติดตามคนร้ายด้วยการกระโดดเกาะท้ายรถแท็กซี่ มาจนถึงจุดเกิดเหตุ ก่อนหายตัวไป และมาพบศพลอยแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 3 แขวงและเขตบางคอแหลม กทม. โดยตำรวจคาดว่าผู้ต้องหาที่ลักรถแท็กซี่ไปขับ สะบัดรถจนทำให้ผู้ตายร่วงลงมาจากสะพานพระราม 3 และจมน้ำเสียชีวิต ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 19 พ.ค. 2565 นายจักราวุธ วงศ์มาก หรือเบิร์ด อายุ 43 ปี หุ้นส่วนร้านอาหารบุหลันดั้นเมฆ และเป็นรุ่นพี่คนสนิทของ นายนพดล พิมดี หรือวิว อายุ 39 ปี เด็กรับรถผู้วายชนม์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วิว เป็นบุคลากรคนสำคัญของร้านบุหลันดั้นเมฆ ทำงานอยู่ที่นี่มานับ 10 ปี กินนอนพักผ่อนอยู่ที่นี่ไม่เคยไปไหน ที่ผ่านมา วิว เป็นกำลังสำคัญช่วยเหลือทางร้านในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะหากมีมิจฉาชีพ หรือบุคคลต้องสงสัยจะมาทำให้ร้านได้รับความเสียหาย วิว จะเป็นคนแรกที่เข้าขัดขวางเสมอ
...
รุ่นพี่คนสนิทของผู้ตาย กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าตัวกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในร้านกลางดึก ก็มีโจรบุกเดี่ยวเข้ามาพยายามงัดแงะเอาทรัพย์สินออกไป พอวิวตื่นขึ้นมาพบก็ปรี่เข้าไปหา แสดงตัวปกป้องทรัพย์สินของทางร้าน เกิดการชกต่อยชุลมุนกับโจรจนต้องวิ่งหนีออกไปแบบหัวซุกหัวซุน ที่สำคัญตัววิวเองก็ได้รับบาดเจ็บ ครั้งนั้นตนยังตักเตือนไปว่า ถ้ามีอีกอย่าเอาตนเองเข้าแลก เพราะจะได้ไม่คุ้มเสีย ให้ใช้วิธีส่งเสียงไล่ จดจำรูปพรรณสัณฐานของโจร หรือจดจําลักษณะยานพาหนะที่โจรใช้จะดีกว่า
"กระทั่งมาถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ วิว ต้องจากเพื่อนๆ และพี่ๆ ที่รักไป ตนและผู้บริหารร้านทุกคนตั้งใจจัดงานศพให้วิวอย่างดีที่สุด โดยในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) ช่วงบ่าย จะเดินทางไปรับศพวิวที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ก่อนเคลื่อนย้ายศพมาที่วัดด่าน ศาลา 5 ถนนพระราม 3 ตั้งสวดอภิธรรมจำนวน 3 วัน ก่อนดำเนินการฌาปนกิจศพในวันจันทร์ที่ 23 พ.ค. 2565 นี้ โดยขณะนี้สามารถประสานคุณพ่อของวิวได้แล้ว หลังจากที่ทั้งคู่ไม่ได้เจอกันมานานเป็นสิบปี"
นายจักราวุธ กล่าวด้วยว่า ล่าสุดทราบว่าคุณพ่อก็ขับรถแท็กซี่อยู่ในกรุงเทพฯ พอทราบข่าวก็รีบเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันอัตลักษณ์บุคคลของลูกชาย และจะมาร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานศพของลูกชายด้วยในโอกาสเดียวกัน.