"ทัพเรือ" สั่งปลด "ทหารพรานนาวิกโยธิน" ยิงแฟนสาวปางตายแล้วหลบหนี หลังหน่วยต้นสังกัดเสนอให้ออกจากการเป็นทหารพราน พร้อมดำเนินทางวินัยและกฎหมาย ยันกองทัพเรือจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดเด็ดขาด


เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 65 พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณี สื่อมวลชนหลายสำนักนำเสนอข่าว อาสาสมัครทหารพราน พิชิต มานะกิจ สังกัด กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 536 ช่วยปฏิบัติราชการ หมวดอาวุธสนับสนุนที่ 3 ได้ก่อเหตุยิงนางสาวนิตยา ปางปู อายุ 18 ปี ด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตราด อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เพื่อทำการรักษาเป็นการเร่งด่วนแล้วนั้น

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 65 เวลาประมาณ 21.30 น. โดยอาสาสมัครทหารพราน พิชิต ได้ออกไปยังบ้านพักอาศัย ซึ่งอยู่ห่าง ออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร เมื่อไปถึงได้รับประทานอาหารร่วมกันกับนางสาวนิตยา และระหว่างกินข้าวได้เกิดปัญหาทะเลาะกัน จนกระทั่งอาสาสมัครทหารพรานพิชิต ได้ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ยิง นางสาว นิตยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนีไป โดยขณะนี้ นางสาวนิตยา ได้ถูกส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตราด อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ อาสาสมัครทหารพราน พิชิต ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตามระเบียบ หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน ว่าด้วยคะแนนความประพฤติ พ.ศ. 2533 ผนวก ก. ข้อ 7 การยกเลิกสัญญาจ้าง หรือปลดออกจาก ทพ.นย. ข้อย่อย 7.8 กระทำความผิดกฎหมายบ้านเมือง และมีการดำเนินการเสนอเรื่องให้ปลดจากการเป็น อาสาสมัครทหารพราน ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 65 เป็นต้นไป

...


พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวว่า กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่ากองทัพเรือจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดโดยเด็ดขาด ซึ่งหากพบว่ากำลังพลนายใดกระทำผิดกฎหมาย กองทัพเรือจะดำเนินการทั้งทางวินัยและทางกฎหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป โดยในขณะนี้หน่วยต้นสังกัดของ อาสาสมัครทหารพราน พิชิตฯ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลัง ลาดตระเวน ค้นหาเพื่อติดตามจับกุมตัว อาสาสมัครทหารพราน พิชิตฯ อย่างเร่งด่วน ซึ่งคาดว่าในขณะนี้ยังคงอยู่ในพื้นที่

ทั้งนี้เจตนารมณ์ของ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ มีนโยบายที่จะให้กำลังพล มีระเบียบวินัย มีขวัญกำลังใจที่ดี ด้วยการปกครองบังคับบัญชาอย่างเป็นธรรม มีความรักความสามัคคี รู้หน้าที่มีความรับผิดชอบกอปรด้วยคุณธรรมจริยธรรมและมีความภาคภูมิใจในการเป็นทหารเรือ